บทที่ 5

721 คำ
ตลอดค่ำคืนคุณพระหนุ่มเฝ้ากอดฟอนเฟ้นเต้างามดูดกลืนกดคลึงสลับทั้งสองบยอดปทุมจนเผลอหลับคาอกงามเต่งตึงของทองเปลว จนมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเจ้าของร่างเล็กที่ตนเผลอหลับเกยอยู่บนอก ปากครอบครองกลืนเต้างาม ขยับกายไปมาใต้ร่างของตน “อะ! อือ!” หล่อนปรือเปลือกตาปรับระดับการมองเห็นช้า ๆ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้อง แถมตัวยังขยับไม่ได้เหมือนมีของหนักอะไรสักอย่างทาบทับอยู่ เมื่อสำรวจห้องว่ามันไม่เรือนพักของตัวเองแถมคนที่เกยอยู่บนร่างตนก็คือ “คุณพระ!" ผลักดันร่างใหญ่ออกไปให้พ้นร่างตน แล้วในจังหวะนั้นเองบุรุษหนุ่มก็เสียหลักกลิ้งตกเตียงนอน "โอ๊ย! ทองเปลว! เอ็งทำข้าเจ็บตัวแต่เช้าเลยนะ” พลางยันกายลุกขึ้นด้วยความจุกเจ็บ สายตาคมมองร่างเล็กด้วยความเกรี้ยวกราด แต่พอเลื่อนต่ำมายังเนินอกงามก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก “เอ็งสวยเหลือเกิน เมียข้า...” เมื่อคืนใต้แสงจันทร์ก็ว่างดงามมากแล้ว พอเช้ามายิ่งงดงาม แม้ใบหน้าสวยจะมีคราบกระดำกระด่างเปื้อนอยู่ แต่ก็ไม่อาจลดทอนความงามของทาสสาวได้เลย ว้าย! เมื่อมองตามสายตาหื่นของคุณพระแล้วหล่อนถึงรู้ว่าตัวเองไร้อาภรณ์ห่มกาย มือเล็กรีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาห่อหุ้มตัวเองไว้ให้พ้นจากสายตาหื่นกระหายของคนตัวโต “เอ็งอายข้าที่เอ็งงดงามรึทองเปลว เอ็งเป็นเมียข้าแล้วจะอายไปไยเจ้า” เอ่ยเสียงแหบพร่าเคลื่อนกายขยับมาทรุดนั่งเบียดร่างน้อย แม้เจ้าหล่อนจะกระเถิบหนีห่าง แต่มือใหญ่ก็ตวัดรัดเข้ามาซุกอกตนไว้ เมีย! ข้าไปเป็นเมียคุณพระตั้งแต่เมื่อไร รึว่า? หล่อนเบิกตากว้างแล้วดึงผ้าห่มออกสำรวจร่างกายตัวเองอย่างลืมอาย เท่าที่จำได้เมื่อคืนหล่อนหมดสติไปแน่ ๆ หากไม่หมดสติก็ต้องจำได้ว่าเป็นเมียมันมีความรู้สึกอย่างไร เพราะเด็กรุ่นวัยเดียวกันในหมู่บ้านต่างบอกว่าการเป็นผัวเป็นเมียกันนั้นต้องร่างกายประสานสัมผัสกัน ท้องฟ้าเป็นใจ เท่าที่จำได้ เมื่อคืนฟ้าฝนก็ไม่ตก มันจะประสานสัมพันธ์เป็นผัวเป็นเมียกันได้อย่างไรเล่า “ฮึ! เอ็งเลิกอายข้าแล้วรึเมียข้า...” เอ่ยเย้าคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู "ว้าย!" ร้องออกมาอีกครั้งพร้อมนำผ้าห่มปิดกายไว้เช่นเดิม อีกครั้งแล้วที่หล่อนเปิดเผยเนื้อหนังมังสาให้คุณพระจอมกระหายได้เห็น “เอ็งน่ารักยิ่งนักทองเปลว” เอ่ยพลางบีบไหล่มน “คุณพระปล่อยบ่าวไปเถอะเจ้าค่ะ บ่าวรู้ว่าเรายะ...ยัง...” “ยังไม่เป็นผัวเป็นเมียกันรึ เอ็งรู้รึว่าการเป็นผัวเป็นเมียกันเขาทำอย่างไร” อยากรู้เหมือนกันว่าทาสสาวมีความรู้เรื่องผัวเมียมาแบบไหน “กะ...ก็มันต้องร่างกายประสานสัมผัสกัน ท้องฟ้าเป็นใจ สองร่างรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่เมื่อคืนฝนไม่ตกมันจะประสานกันได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ” หล่อนจ้องมองคนโอบกอดตนด้วยสายตาใสซื่อ และมั่นใจในความรู้ของตน “โธ่! เด็กน้อยของข้า...ใครบอกเอ็งรึว่าต้องฝนตกถึงจะประสานสัมผัสกันได้ หึหึ” “บ่าวรู้ก็แล้วกันเจ้าค่ะ” ยังไม่รู้อีกว่าตัวเองนั้นเข้าใจความหมายผิด “ฮ่า ๆ สงสัยข้าต้องย้ำเตือนสอนเมียข้าเสียแล้วกระมัง เด็กเอ๋ยเด็กน้อยของผัว...” เอ่ยจบก็ฉวยโอกายตอนทาสสาวมึนงง โน้มร่างหล่อนให้นอนราบไปกับเตียง แล้วตัวเองก็ขึ้นคร่อมทับ พร้อมถลกดึงผ้าห่มออก “ท้องฟ้าเป็นใจแน่ทองเปลว” เอ่ยกระซิบเสียงพร่าข้างใบหนูหล่อน ทองเปลวรู้สึกเย็นวูบขึ้นมาทันที ร่างน้อยเริ่มเกร็งและร้อนอีกครั้ง แล้วตอนนั้นแหละสติก็กลับมา "อร๊าย! คุณพระอย่าทำอะไรบ่าวเลยนะเจ้าคะ...อะ! อือ!" ประโยคจะเปล่งออกมาถูกปากหนาอุ่นร้อนทาบทับปิดเสียงเอาไว้แน่น เรียวลิ้นร้ายสอดแทรกควานหาความหวานของเด็กสาวอย่างตะกะตะกาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม