ปราบทำให้หญิงสาวต้องร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
เขากำลังบดบี้ติ่งกระสันของเธอ ทำให้เธอหลุดเสียงครางออกมาอย่างไม่ขาดสาย
สาวน้อยพยายามกัดปากของตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้ส่งเสียงออกมาให้เขาพึงพอใจ
อยากจะต่อต้านเขา แต่ทำไม่ได้เมื่อเขาขยับนิ้วเร็วขึ้น ก่อนจะใช้นิ้วกลางเสียดเสียดเข้าไปในร่องชุ่มฉ่ำของเธอ เขาทำให้เธอบิดตัวไปมาเร่า ๆ ด้วยความทรมาน
เขานำนิ้วกลางยาวเหยียดมาดูดเลียด้วยความหิวกระหาย ท่าทีของเขาทำให้เธอหน้าแดงซ่าน ลามไปถึงใบหู
“ฉันต้องการเธอเดี๋ยวนี้” ประโยคของเขาทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน
เขาจัดการถอดกางเกงในเนื้อบางของเธอออก ก่อนจะรั้งกระโปรงสั้นขึ้นมาเหนือเอวคอด แล้วกดร่างสาวอันชุ่มฉ่ำไปกับแก่นกายชาย
เธอซี้ดปากด้วยความเสียวซ่านเมื่อเขาพาตัวเองเข้ามาจนหมดสิ้น ซึ่งตอนนี้เขาเข้ามาในเนื้อนางสาวที่กำลังฉ่ำเยิ้มอย่างรุนแรง
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามครรลองของมัน เธอหลับตาลง ให้เขาเร่งทำให้เสร็จ ๆ ไป แต่ดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่สานต่อ
นั่นทำให้เธอลืมตามอง จึงได้สบสายตาเร่าร้อนของเขา เป็นโอกาสให้เขาได้รวบใบหน้าของเธอเอาไว้ พลางบดจูบอย่างดุดันแนบชิด
“ฉันไม่ชอบให้เธอหลับตาหนีแบบนี้ ลืมตาแล้วก็มองหน้าฉัน ไม่เช่นนั้นฉันจะทำให้เธอเจ็บ” ประโยคแสนดุดันของเขา ทำให้เธอไม่กล้าหลับตาหนีเขาอีก
หลังจากนั้นแรงรักของเขาก็กระแทกกระทั้น เข้าหาเธออย่างต่อเนื่อง
เตยหอมถึงกับครวญครางออกมาไม่เป็นภาษา เขาจับร่างของเธอกระแทกกระทั้นบนตักแกร่งอย่างเร่าร้อนรุนแรง ก่อนที่ทุกอย่างจะแตกพร่าไปด้วยความสุขสม
การเป็นนางบำเรอของปราบทำให้เธอต้องเรียนรู้วิธีการเอาใจเขา อาจเพราะว่า เขาไม่ชอบให้ใครขัดใจนั่นเอง
เธอรู้ว่าเขาชื่อปราบเพราะได้ยินลูกน้องของเขาเรียกขาน ปราบมีลูกน้องมากและเป็นที่นับหน้าถือตาในวงสังคม
ปราบเป็นคนรับปากเช่นไร เขาก็ทำเช่นนั้น เขารับปากว่าจะส่งให้เธอได้เรียนต่อระดับปริญญาตรี เขาก็ทำเช่นนั้นจริง ๆ เธอจึงได้เรียนในสาขาที่ชอบ นั่นคือการเรียนสาขาวิชาคหกรรม
เธอคิดว่าการเรียนทำอาหารเป็นการต่อยอดวิชาความรู้ของตนเองให้มีมากยิ่งขึ้น คือการทำของเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง เธอถนัดทำอาหารเพราะฝึกทำตั้งแต่เด็ก พอได้ไปเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ เพิ่มเติมก็ทำให้เธอสามารถทำอาหารได้หลากหลายมากขึ้น มีเมนูไม่ซ้ำให้เธอได้เลือกทำ
ดูเหมือนปราบจะชอบใจฝีมือการทำอาหารของเธอเป็นอันมาก
เขาติดใจอาหารของเธอ ถึงขนาดเอ่ยปากชม เธอมีความสุขที่ได้ทำอาหารให้เขาได้กินทุกวัน เตยหอมไม่รู้ตัวเลยว่าเธอได้ตกหลุมรักคนเย็นชาเช่นเขาไปตอนไหน รู้ตัวอีกทีเธอก็ตกหลุมรักเขาไปเสียแล้ว
เขามีทุกอย่างในชีวิต ในขณะที่เธอมีเขาแค่คนเดียวเท่านั้น เธอมองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป แอบหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้ชิดใกล้
เธออยากทำโน้นทำนี่ ให้เขามีความสุข ในขณะที่เขา มีแต่ความเฉยชาให้เธอเพียงเท่านั้น สายตาของเขาเยือกเย็นเสมอ นิสัยของเขาเต็มไปด้วยความดุดัน เข้มงวดเด็ดขาดทุกครั้งที่อยู่กับลูกน้อง
เขามีกูฏแค่สองข้อคือไม่ต้องการมีลูกกับเธอและห้ามนอกกายนอกใจระหว่างที่เธอเป็นผู้หญิงของเขาอยู่
เขาไม่ได้ห้ามไม่ให้เธอรักเขานี่นา ถ้าเธอจะรักเขา ก็คงไม่ผิดอันใด หญิงสาวคิดในใจ
“ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหม ว่าห้ามคบเพื่อนผู้ชาย แต่เธอก็ยังฝ่าฝืนคำสั่งของฉัน” เป็นประโยคแรกที่เขาเอ่ยทักทายขึ้นมา หลังจากที่เธอขึ้นไปนั่งบนรถคันเดียวกันกับเขาเรียบร้อยแล้ว รอยยิ้มของเธอจางหายไปในทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“เป็นแค่เพื่อนร่วมห้องเท่านั้นเองค่ะคุณปราบ อีกอย่างหนึ่งเราต้องทำรายงานด้วยกันในห้องสมุด เขาเลยเดินมาส่งเตยเฉย ๆ เท่านั้นจริง ๆ ค่ะ”
“ทำไมเธอต้องมาทำกับไอ้หมอนี่ด้วย เพื่อนผู้หญิงมีตั้งมากมาย ทำไมเธอไม่ไปทำรายงานกับคนอื่น” เขาเริ่มหาเรื่องหรืออีกนัยหนึ่งคือหวง ปราบมีนิสัยขี้หวง สิ่งนี้เธอรับรู้เมื่อได้ใช้ชีวิตอยู่กับเขาสักระยะ
“ถ้าฉันยังเห็นหมอนี่มาเกาะแกะเธออีก ฉันจะยิงหัวมันซะ”
ไร้เหตุผลสิ้นดี!!! นั่นคือสิ่งที่เตยหอมคิดในใจ แต่เธอก็มิกล้าโต้เถียงหรืออะไรเขาหรอก ด้วยว่าเธอกลัวเขาจะโกรธ
หากเขาโกรธ เธอก็แค่รับความโกรธของเขาแต่เพียงผู้เดียว แต่หากเขาโกรธคนอื่นเพราะเธอ คนพวกนั้นก็จะเดือดร้อน เธอไม่ต้องการให้ใครมาเดือดร้อนกับเธอด้วย
“วันนี้เตยได้สูตรทำอาหารใหม่มาค่ะ เตยจะทำให้คุณปราบกินนะคะ” เตยหอมรีบเปลี่ยนเรื่อง
“กลัวฉันจะยิงหัวไอ้หมอนั่นรึไง” เขาเอ่ยถามเสียงขรึม
“ไม่ใช่ค่ะ แต่เตยอยากพูดแต่เรื่องของเราเท่านั้น ไม่อยากจะพูดเรื่องของคนอื่นน่ะค่ะ” เธอฉลาดในการตอบอาจเพราะเธออยากทำให้เขาอารมณ์เย็นลง ซึ่งดูเหมือนกับว่าเขาจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อเธอพูดเหมือนกับว่า เขาสำคัญที่สุด ไม่มีใครสำคัญมากกว่าเขาอีกแล้ว
ปราบไม่ชอบให้เธอเห็นใครสำคัญกว่าเขานั่นคือเรื่องจริง แม้แต่ในเวลาที่เธอทำอาหารหรือกำลังสนใจเรื่องอื่นอยู่ เขาก็จะเรียกร้องให้เธอสนใจเพียงแค่เขาเท่านั้น
เหมือนอย่างเช่นตอนนี้ เธอกำลังทำอาหารให้เขาอย่างเอาใจ เขากลับเข้ามาวุ่นวายกับเนื้อตัวของเธอ ใช่แล้วเขาต้องการให้เธออยู่ในชีวิตของเขาทุกเวลา อยากให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของเขา
“เตยทำกุ้งอบเนยชีสค่ะ คุณปราบอยากกินไหมคะ”
“อยาก” น้ำเสียงของเขาที่ตอบออกมาฟังดูแหบพร่าเหลือล้น ในขณะที่ร่างกายของเขากำลังบดเบียดเข้ามาหาอย่างแนบชิดจากทางเบื้องหลัง
“อุ๊ย! คุณปราบ” เธอหลุดอุทานออกมา เมื่อแก่นกายชายกำลังจิ้มก้นของเธออยู่ เพราะความใหญ่ตัวแข็งกร้าวกำลังเสียดสีรุกเร้าอย่างรุนแรง
ไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว เขาก็ถลกกระโปรงของเธอขึ้นเหนือเอว รั้งผ้ากั้นเปื้อนขึ้นไปเหนือราวนม และจัดการแหวกจีสตริง ไปทางด้านข้าง สิ่งนั้นทำให้เธอต้องตกอยู่ภายใต้เรือนร่างของเขาอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้
เขาสอดเสียบแก่นกายเข้าหาอย่างล้ำลึกมิดเม้น จนเธอต้องร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน อุ้งมือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบอิ่มเอาไว้ เคล้นคลึงหนักเบาเร้าอารมณ์ ในขณะที่เตยหอมปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสอันแสนวาบหวามของเขา ให้เขากระแทกกระทั้นเข้าหาเป็นจังหวะระรัว
เธอหลุดเสียงครวญครางแทบไม่เป็นภาษาออกมา จิกมือกับเคาน์เตอร์ด้านหน้าเอาไว้แน่น หยัดสะโพกให้เขาอย่างลืมตัว ให้เขาสอดเสยเข้ามาเต็ม ๆ ลำ
เขากดกายแทรกลึกในร่องหยาดเยิ้มครั้งแล้วครั้งเล่า มือหนาบีบเคล้นทรวงอกอวบอิ่มเอาไว้แน่น ก่อนที่เสียงครางยาวเหยียดจะดังขึ้น แล้วหยาดความรักได้ไหลหยาดเยิ้มไปกับร่องสวาท และเรียวขาเนียนนุ่ม
อาหารมื้อนั้นกว่าจะเสร็จก็ใช้เวลานานและทุลักทุเลเป็นอันมาก แต่เพราะพรสวรรค์ในการทำอาหารของเตยหอม นั่นทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เธอสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี
การคุมกำเนิดที่เกิดขึ้นเริ่มที่จะผิดพลาดเพราะปราบไม่เคยคิดป้องกัน เขาชอบสดและปล่อยใน ในขณะที่เธอต้องกินยาคุมทุกวัน จึงเกิดการลืมกันได้
เขาไม่อยากมีลูกนั่นคือสิ่งที่เธอต้องท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ แล้วเธอจะทำอย่างไรดี เมื่อสิ่งที่เขาไม่ต้องการได้ถือกำเนิดขึ้นมาในตัวของเธอแล้ว
เธอมองที่ตรวจครรภ์ด้วยหัวใจที่เย็นเยียบ เขาบอกว่าไม่ต้องการลูก ถ้าเธอท้อง เขาจะจัดการเด็กคนนั้นซะ ความร้ายกาจของเขาเธอรู้ดี หรือเธอควรจะถามเขาให้แน่ชัด จะได้ตัดสินใจให้ได้ว่าเธอจะทำเช่นไรต่อไป