เธอคือนางบำเรอ ตำแหน่งนี้มันค้ำคอ เธอไม่ใช่เมียที่เขายกย่องเชิดชูอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เธอก็มิควรอาจเอื้อมไปมีทายาทให้เขา
โถ... ลูกน้อยในท้องของเธอ คงเสียใจและน้อยใจเป็นอันมาก ที่ถูกทำให้เกิดมา แต่ไม่เป็นที่ต้องการของคนเป็นพ่อ
“คุณปราบคะ” เธอตัดสินใจที่จะเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามเขา เมื่อมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองคน
“คุณปราบเปลี่ยนใจ คิดอยากจะมีลูกบ้างไหมคะ” สาวน้อยกลั้นใจถามออกไป ปราบหันขวับมามอง เขาดูเหมือนจะโกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที นั่นทำให้เตยหอมสะดุ้งสุดตัว ใจหายวาบ หล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“หมายความว่ายังไง เธอจะบอกว่าเธอกำลังท้องอย่างนั้นเหรอ” เหตุการณ์ในอดีตตอนที่แฟนสาวสวมเขาให้เขา บอกว่าตัวเองตั้งท้องหวนเข้ามาในความรู้สึกอีกครั้ง ในตอนนั้น เธอท้องเขาก็ดีใจมาก แต่มารู้ความจริงภายหลังว่าหล่อนท้องกับชายอื่น แถมยังเป็นลูกน้องของเขาอีก มันทำให้เขาเจ็บใจและแค้นใจยิ่งนัก
“เอ่อคือ... ไม่ใช่ค่ะ” เตยหอมรีบตอบปฏิเสธออกไป หัวใจของเธอสั่นระรัวอย่างรุนแรง หากเขารู้ว่าเธอท้อง เขาคงไม่ปล่อยเธอกับลูกไปแน่ ๆ
“ไม่ใช่ก็ดีแล้ว อย่าลืมกฎที่ฉันบอกเธอเอาไว้ ถ้าจะให้ดีห้ามรักฉันเด็ดขาด เธอจะได้ไม่เผลอทำอะไรโง่ ๆ ลงไป” เขาพูดจบก็เดินหนี คนฟังหัวใจช้ำรัก โซมเลือดโซมหนอง เสียใจจนแทบสิ้นสติ หากเขารู้ว่าเธอท้องจะทำเช่นไรดี
เตยหอมรู้สึกกลัวจนฟันกระทบกัน ทำไมเธอถึงได้รู้สึกไม่มั่นคงเช่นนี้นะ หล่อนเฝ้าถามตัวเองในใจ ก่อนจะได้คำตอบว่าเธอควรเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ควรเอาใจไปผูกติดกับปราบ เขาไม่รักไม่แคร์ แล้วเธอคิดจะรักเขาอยู่อีกหรือ
คำตอบคือรัก เตยหอมบอกตัวเองในใจ แต่เธอรักลูกของเธอมากกว่า ลูกที่กำลังจะเกิดออกมาลืมตาดูโลก
หยดน้ำในดวงตาของเธอไหลรินอาบแก้มนวล จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนแอในหัวใจ
“เธอร้องไห้ทำไม” เสียงกระชากของปราบดังขึ้นเหนือศีรษะ เธอรีบเช็ดน้ำตาไปมา เขารั้งแขนของเธอขึ้นมา มองสบตาอย่างดุดัน
“เปล่าค่ะ”
“โกหก ฉันสงสัยตั้งแต่ที่เธอถามเรื่องมีลูกแล้ว นี่คืออะไร” เขาชูวัตถุบางอย่างขึ้นมาตรงหน้าของเธอ ที่ตรวจครรภ์ในถังขยะ เธอทิ้งมันไปแล้ว และคิดว่าเขาคงไม่เห็น แต่เขากลับไปรื้อค้นมันมาอย่างนั้นเหรอ
“ท้องกับใคร” ประโยคแสนเจ็บปวดนั้นทำให้เตยหอมน้ำตาพรั่งพรูออกมา ยิ่งเธอร้องไห้ก็ยิ่งตอกย้ำว่าเธอกำลังสำนึกผิดต่อเขา แสดงว่าเธอต้องมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มคนใดสักคนเป็นแน่ เธอไม่ได้สนิทกับลูกน้องของเขาเหมือนดังเช่นคนรักเก่า แต่เธอก็มีเพื่อนชายที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน เขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเด็กในท้องจะเป็นลูกของเขา ก็ในเมื่อเคยพูดกันเอาไว้แล้วว่าจะไม่ปล่อยให้มีลูก
“ลูกของเตยไงคะ ลูกของเตยคนเดียว” เตยหอมร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เหมือนจะขาดใจตาย ปราบโกรธจัดกัดกรามจนขึ้นสัน เขาเขย่าร่างของเธอจนหัวสั่นหัวคลอน
“ฉันถามว่าเธอท้องกับใคร กับไอ้หน้าอ่อนที่มหาวิทยาลัยนั่นใช่ไหม” เขาเขย่าร่างของเธอหนักขึ้น จนเธอเริ่มสติลอยคว้าง สุดท้ายก็เป็นลมล้มพับไป
“ทำอะไรตาปราบ!” เสียงของผู้มาใหม่เข้มและดุดัน ทำให้ปราบต้องหันขวับไปมอง
“คุณป้า” ศจีคือป้าที่เลี้ยงเขามาแต่อ้อนแต่ออก
“นั่นใครรึตาปราบ” เสียงของศจีทำให้ปราบได้สติ รีบอุ้มร่างของอีกฝ่ายขึ้นและพาไปวางให้นอนลงบนโซฟาตัวยาว
“กาสะลองเอายาดม ยาลม ยาหม่องออกมาที หน้าซีดขนาดนี้สงสัยจะช็อกตายไปแล้วกระมัง” น้ำเสียงของศจีบ่งบอกได้ว่าประชดหลานชายนิด ๆ นั่นทำให้ปราบนิ่งอึ้งไป
เขายืนกอดอกทอดสายตามองสาวน้อยที่นอนสงบนิ่งด้วยสายตาเยือกเย็น หน้าท้องของเธอยังไม่นูนขึ้นมาเหมือนคนท้องทั่วไป แต่เขารู้ว่าในท้องนั่นคือทารกน้อยที่อีกไม่กี่เดือนจะลืมตาดูโลก
เขาเกลียดเด็ก เกลียดที่เธอปล่อยให้ตัวเองท้อง และเขาก็ไม่รู้ว่าเธอท้องกับใคร เธอคงคิดจะจับผู้ชายโดยการปล่อยให้ตัวเองท้อง น่าสมเพชสิ้นดี เขารังเกียจความคิดของผู้หญิงที่ทำเช่นนี้ทุกคน ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองมีลูกเพื่อผูกมัดผู้ชายเอาไว้
“ฟื้นแล้วค่ะคุณท่าน” กาสะลองรีบเอ่ยบอกศจี ท่านจึงมีสีหน้าดีขึ้น
“ฟื้นแล้วรึหนู” ประโยคนั้นของหญิงชราทำให้เตยหอมต้องกะพริบปริบ ๆ แต่พอได้สบประสานสายตากับปราบ เธอก็ถึงกับสะดุ้งสุดตัว
"คุณเป็นใครหรือคะ” เตยหอมเอ่ยถามเสียงสั่น ๆ ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
“ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ไหนบอกสิเกิดอะไรขึ้น” ศจีเอ่ยถาม แต่เด็กสาวก็ยังอึกอัก นั่นทำให้คุณศจีต้องหันไปไล่หลานชาย ให้ออกไปก่อน
“เราน่ะออกไปก่อน มายืนเป็นยักษ์อยู่ตรงนี้ทำไม” ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้มีหวังโดนต่อยฟันร่วงแน่ ๆ แต่สำหรับศจีแล้ว ปราบไม่กล้าทำเช่นนั้น อันเนื่องมาจากศจีมีบุญคุณกับปราบมาก ท่านเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก ๆ หลังจากที่บิดามารดาของเขาเสียชีวิต
ศจีเป็นหญิงชรารูปร่างภูมิฐาน ตัวสูงใหญ่ มีความน่าเกรงขาม ท่านพูดอะไรเป็นที่น่ายำเกรง ด้วยว่าเป็นคนพูดตรงไปตรงมา พูดคำไหนคำนั้น ที่สำคัญก็คือมีพวกพ้องมากมาย เลี้ยงเพื่อนฝูงอย่างมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ธุรกิจสีเทา ๆ ทุกอย่างที่ปราบสืบทอดดูแลอยู่ในทุกวันนี้ก็มาจาก่าน ท่านคุมคนมาก จึงมีทั้งพระเดชและพระคุณเป็นที่นับหน้าถือตา
“ทำไมผมต้องออกไปด้วยครับ” ปราบเอ่ยถาม
“ป้าบอกให้ออกไปก่อน เด็กมันกลัวเห็นไหม ป้าจะพูดกับเด็กมันก่อน แล้วค่อยคุยกับเราให้รู้เรื่อง” เสียงเฉียบทำให้ปราบมิกล้าพูดอันใดอีก นอกจากเดินออกมาจากห้องโถงใหญ่ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย
“ไหนเล่ามาซิ ว่าเราน่ะเป็นใคร ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ฉันอยู่ตรงนี้ จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเราได้ ฉันเป็นป้าของปราบ หากเขาทำไม่ดีกับหนู และหนูต้องการความช่วยเหลือ ฉันจะช่วยหนูในทันที แม้เขาจะเป็นหลานชายของฉันก็ตาม ฉันก็ไม่เข้าข้างหากเขาทำผิด” ประโยคนั้นทำให้คนฟังร้องไห้โฮออกมา ก่อนจะเริ่มเล่าทุกอย่างให้คนตรงหน้าฟัง
“หนูโดนแม่เลี้ยงหลอกมาขายค่ะ”
“ขายให้ปราบงั้นรึ” คนถามขมวดคิ้วเข้าหากัน ท่านเดินทางไปประเทศจีนเพิ่งกลับมา ไปอยู่ที่นั่นนานตั้งหลายเดือน ข่าวคราวที่นี่ก็พอจะรับรู้บ้าง เพราะมีคนรายงานความเป็นมาเป็นไปของที่นี่นั่นเอง
“ใช่ค่ะ หนูไม่ได้สมยอม แต่คุณปราบบอกว่าถ้าหนูกลับไปก็จะโดนแม่เลี้ยงจับไปขายอีก ดีไม่ดีจะพาไปขายซ่อง หนูก็เลยต้องอยู่กับคุณปราบค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง หนูชื่ออะไรล่ะ”
“ชื่อเตยหอมค่ะ เรียกหนูว่าเตยก็ได้”
“แล้วมีปัญหาอะไรกัน ทำไมปราบถึงได้โมโหใส่หนูขนาดนั้น” ศจีเข้าเรื่องในทันที
“หนูพลาดท้องค่ะ พลาดท้องจริง ๆ นะคะ ไม่ได้ตั้งจะให้ตัวเองท้อง เพราะว่าหนูลืมกินยาคุมน่ะค่ะ” เด็กสาวตอบก่อนจะก้มหน้างุด
“ที่ท้องเพราะตาปราบไม่ป้องกันงั้นรึ น่าหยิกเสียให้เนื้อเขียวเสียจริง”
“คุณปราบบอกให้หนูไปคุมกำเนิดเอาเองค่ะ ถ้าท้องคือไม่รับค่ะ”
“น่าตบให้กะโหลกยุบ” ได้ยินเช่นนั้น เตยหอมก็ถึงกับมองหน้าหญิงชราอย่างอึ้ง ๆ ปกติแล้วปราบเป็นที่เกรงอกเกรงใจของเหล่าบรรดาลูกน้องและคนอื่น ๆ แต่หญิงชราผู้นี้สามารถตบกะโหลกปราบได้เชียวหรือ ช่างเป็นเรื่องน่าแปลกใจไม่น้อย
“ฉันเป็นป้าของปราบ หนูมีอะไรจะให้ฉันช่วยก็บอกมาได้เลยนะ”