ผู้พันฟาเรลล์ตบลงไปบนกว้างของผู้หมวดอาดีล เพื่อเป็นการให้กำลังใจ พร้อมกับเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่ต่างจากการให้สัญญาว่า
“เราจะไม่ยอมให้มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นกับคนของเราอีก”
“ใช่ ผมเห็นด้วยกับผู้พัน ผมจะปกป้องคนของเราด้วยชีวิตของผมเอง”
“ขอบคุณผู้พันมากนะครับ”
ผู้หมวดอาดีลเอ่ยขอบคุณผู้บังคับบัญชา ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมานาน
“ขอบใจนายมาก ซารุส”
ผู้หมวดซารุสฉีกยิ้มให้กับเพื่อน ก่อนจะหันไปเอ่ยถามในสิ่งที่เขา และผู้หมวดอาดีลต่างก็เคยได้ยินมา
“ผู้พันครับ ผมพอจะรู้มาว่าท่านชีคอัลซา มีรสนิยมในเรื่องเซ็กค่อนข้างซาดิสต์ นาง
บำเรอถูกทรมานจนตายไปหลายคนแล้ว ผู้พันแน่ใจหรือครับว่าจะส่งผู้หญิงคนนี้ให้กับท่านชีค”
“นั่นนะสิครับ คิดๆ ไปก็น่าสงสารเธอนะครับ ผู้หญิงคนนี้คงต้องตกนรกทั้งเป็น หากต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของชีคอัลซา
ผู้พันฟาเรลล์ถอนหายใจยาว ใช่ว่าเขาจะไม่คิดถึงเรื่องนี้ แต่เขาจำใจต้องปฏิบัติภารกิจที่ได้รับคำสั่งมาจากเชษฐา
“เรารู้ว่าไม่ถูกต้อง ที่จะลักพาตัวผู้หญิงคนนี้มาเป็นเครื่องสังเวยให้กับท่านพี่ เพื่อแลกกับแผ่นดินแคว้นมารีน แต่เราไม่มีทางเลือก ถือซะว่าเป็นความโชคร้ายของเธอก็แล้วกัน”
“ผมภาวนาให้เธอมีชีวิตรอดกลับไป”
“ผมก็ขอภาวนาอีกคน”
ทั้งผู้หมวดอาดีลและผู้หมวดซารุส ต่างก็เกิดอาการสงสารหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ไม่ใช่มีแค่เพียงผู้หมวดทั้งสองเท่านั้นที่สงสารหญิงสาวผู้นี้ ผู้พันฟาเรลล์เองก็ถูกอาการเหล่านี้เล่นงานไม่แพ้กัน
“เราก็ได้แต่ภาวนาให้เธอรอดปลอดภัย ไม่ต้องตกเป็นอาหารของอีแร้งกลางทะเลทราย เหมือนพวกนางบำเรอคนอื่นๆ”
ผู้พันฟาเรลล์และลูกน้องทั้งสองต่างก็ภาวนาเช่นนั้น แม้ต่างก็รู้สึกผิดที่เป็นคนส่งหญิงสาวจากแผ่นดินไทยให้ตกอยู่ในเงื้อมมือของชีคอัลซา แต่! ผู้พันฟาเรลล์ก็จำใจทำในสิ่งที่ตนเองไม่อยากลงมือแม้แต่นิดเดียว
บทที่ 3
โรงแรมเดอะคิงสตาร์...
การเดินแบบโชว์เครื่องเพชรมูลค่านับสิบล้านในวันสุดท้าย เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แม้จะมีการเดินโชว์มาหลายวันแล้ว แต่ความผิดพลาดก็ยังคงเกิดขึ้นเสมอ
เหลือเวลาอีกสิบนาที บรรดานางแบบที่สวมเครื่องเพชรมูลค่าแพงลิบลิ่ว ก็จะปรากฏโฉมบนแคทวอล์กแล้ว ทันทีที่นางแบบออกมาเดินโชว์ บรรดาบอดี้การ์ด ทั้งที่อยู่ด้านหลังเวที และด้านข้างแคทวอล์ก ต้องทำหน้าที่ของตนเองอย่างหนัก
หนึ่งในบอดี้การ์ดที่ยืนแฝงตัวรวมอยู่กับแขกที่มาดูโชว์และประมูลซื้อเครื่องเพชรก็คือ ‘ชายิกา’ เพื่อให้ดูกลมกลืนกับบรรดาแขกไฮโซกระเป๋าหนัก บอดี้การ์ดสาวจึงอยู่ในชุดราตรีเปิดไหล่สีแดงสด ขับผิวให้ดูยองใยชวนพิศ งดงามกว่านางแบบบางคนด้วยซ้ำไป
ชายิกาหลุบสายตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนเล็ก เวลานับถอยหลัง เหลืออีกห้านาที ตามเสียงประกาศของพิธีกรบนเวที หญิงสาวเงยหน้าขึ้น กวาดสายตามองรอบๆ บริเวณ นอกจากจะสังเกตว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่าแล้ว หญิงสาวยังกวาดสายตามองหาผู้ปกครองรัฐอัลยาส์ ที่ต้องการใช้เงินซื้อตัวเธอไปเป็นนางบำเรอ เมื่อหลายวันที่ผ่านมา
“ดี! ที่ไม่โผล่หน้ามาให้เห็น ถ้าวันนี้คิดจะมาเอาเงินฟาดหัวฉันอีก ท่านชีคก็ท่านชีคเถอะ ฉันจะเล่นงานกลับคืนอย่างหนัก”
ชายิกาพึมพำเสียงลอดไรฟัน โล่งอกที่ไม่เห็นชีคอัลซามาร่วมงานในวันนี้ หญิงสาวกวาดดวงตากลมโตมองรอบๆ บริเวณอีกครั้ง เมื่อมั่นใจว่าชีคอัลซาไม่ได้เสด็จมาอย่างแน่นอน ก็มุ่งสมาธิ เตรียมพร้อมสำหรับการทำหน้าที่ของตนเอง เมื่อนางแบบคนแรกได้เดินมาบนแคทวอล์กแล้ว
ในขณะชายิกากำลังทำหน้าที่ของตนเองอย่างเข้มแข็ง ทีมปฏิบัติงานของผู้พันฟาเรลล์ก็เตรียมพร้อมสำหรับการลงมือ ‘ฉุด’ บอดี้การ์ดสาวเช่นเดียวกัน
“ผู้พันครับ เราเห็นเธอแล้วครับ”
ผู้หมวดอาดีล ซึ่งแฝงกายเข้ามายืนอยู่ในบริเวณห้องเดินแบบ ได้รายงานให้ผู้บังคับ
บัญชาทราบ ผ่านไมค์อันเล็กที่ติดแนบไว้กับใบหู
“เหยื่อของเราใส่ชุดสีอะไร ผู้หมวด”
ผู้พันฟาเรลล์เอ่ยถาม ขณะรอเวลาสำหรับการลงมือทำงาน ซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกไม่นาน
“สีแดงเปิดไหล่ครับ”
ผู้หมวดอาดีลเอ่ยรายงานต่อ ดวงตาทั้งคู่จ้องมองบอดี้การ์ดสาวเขม็ง ก่อนจะอุทานออกมาเบาๆ
“อุแหม่ ยิ่งดูใกล้ๆ ผู้หญิงคนนี้สวยคมบาดตาบาดใจจริงๆ เลยครับผู้พัน”
“อย่าปลาบปลื้มไปเลย ผู้หมวด เพราะความสวยนี่แหละ ที่นำภัยมาให้กับเธอ”
ผู้พันฟาเรลล์นึกภาพไม่ออกว่าผู้หญิงที่เขารู้จักแค่เพียงชื่อ จะงดงามมากเพียงใด แต่หากชายิกาไม่งดงามจนไปแตะตาชีคอัลซาเข้า เธอก็ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อกามารมณ์ของพระองค์
“ซารุส นายอยู่ประจำที่หรือยัง” ผู้พันฟาเรลล์ถามลูกน้อง ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารถี รออยู่ด้านนอกโรงแรม
“ครับผู้พัน ผมเตรียมพร้อมแล้วครับ”
ผู้หมวดซารุสรับคำเสียงเข้ม ก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนร่วมงานกลั้วเสียงหัวเราะ ผ่านไมค์อันเล็กที่แนบติดกับใบหูเช่นเดียวกัน
“ผู้หมวด เครื่องสังเวยของท่านชีคสวยมากเลยหรือครับ”
“สวยระดับนางงามเลยล่ะ เจ้าซารุส แต่ตาดุไม่ต่างจากนางเสือเลยว่ะ”
ผู้หมวดอาดีลตอบกลั้วเสียงหัวเราะร่วน จ้องมองชายิกาเขม็งขณะเอ่ยตอบออกไป
“อยากเห็นหน้าชะมัด ว่าจะสวยและตาดุมากแค่ไหน”
“อีกไม่นานหรอก ซารุส เดี๋ยวนายก็ได้เห็นแล้ว” คราวนี้เป็นผู้พันฟาเรลล์ที่เอ่ยบอกลูกน้อง
ใช่ว่าจะมีแค่เพียงผู้หมวดซารุสที่อยากเห็นเหยื่อรายนี้ ตัวผู้พันฟาเรลล์เองก็อยากเห็นหน้าของชายิกาเช่นเดียวกัน เขาอยากรู้ว่าหญิงสาวงดงามมากเพียงใด เชษฐาของเขาถึงต้องการเธอจนเข้าขั้นคลั่ง
“อีกไม่กี่นาทีก็คงได้เห็นเครื่องสังเวยของท่านพี่แล้ว”
ผู้พันฟาเรลล์พึมพำบอกกับตัวเอง จากนั้นก็รอเวลาสำหรับการลงมือฉุดชายิกา ซึ่งภารกิจของเขากำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้