บทที่ 12

1119 คำ
“ไอ้ฟาเรลล์...นายไม่น่าถอดชุดของชายิกาออกเลย” คราวนี้ผู้พันหนุ่มคำรามครวญคราง เมื่อดวงตาคมกริบสีนิลมีโอกาสได้มองสำรวจความงดงามตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ซึ่งถูกบรรจงสร้างอย่างงดงามเนียนลออไปทั้งตัว จนเขานึกก่นด่าตัวเองที่บังอาจไปถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออก เพราะตอนนี้คนที่กำลังทรมานต่อเปลวไฟสวาทมากที่สุด ก็คือตัวเขานี่เอง ร่างใหญ่กำยำเปล่าเปลือย กระโจนลงจากเตียงใหญ่ เดินไปเดินมาไม่ต่างจากราชสีห์ติดจั่น ขณะเดียวกันก็เหลือบสายตามองเรือนร่างงดงามที่นอนทอดกายอยู่บนเตียง สลับกับเรือนกายของตนเอง ซึ่งตอนนี้เด่นผงาดประกาศความยิ่งใหญ่ โดยที่เขาไม่สามารถบังคับให้สงบนิ่งได้ดั่งเดิม “นรก!” เจ้าของนัยน์ตาสีนิลสบถดังลั่น ไม่กล้าเข้าไปใกล้เตียงนอน ไม่กล้าเหลือบสายตามองชายิกา ด้วยเกรงว่าจะอดใจไม่ไหว และควบคุมอารมณ์ปรารถนาไว้ไม่อยู่ สุดท้ายก็เลือกวิธีการทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวใหญ่ แล้วนอนหันหลังให้กับชายิกา ภาวนาว่าตนเองจะสามารถข่มตาให้หลับลงได้ แต่! เป็นการยากที่สุดในชีวิตของผู้พันฟาเรลล์ ที่ต้องต่อสู้กับเปลวไฟสวาทซึ่งลุกฮือไปทั่วทุกเส้นเลือด โดยไม่สามารถทำอะไร ชายิกาได้ นอกจากนึกโทษตัวเอง ที่ดันพาชายิกากลับมาบ้าน มาทำให้เขาต้องทรมานใจเล่นตลอดค่ำคืนอันหนาวเหน็บ อากาศในตอนเช้ายามอรุณรุ่งบนแผ่นดินทะเลทราย ช่างหนาวเหน็บเข้าถึงกระดูกสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยสภาพอากาศอันแปรปรวนของแผ่นดินผืนนี้ และที่สำคัญต้องนอนเปล่าเปลือยปราศจากอาภรณ์ปกปิดเรือนกาย ยิ่งส่งให้ร่างบางหนาวเหน็บจนต้องคู้เข่าเข้าหากัน มือเล็กทั้งสองควานหาผ้าห่มมาคลุมร่างกายทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ “หนาวชะมัด” แม้ชายิกาจะพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าคนที่นอนหูไวแถมยังนอนไม่หลับทั้งคืน ก็ยังคงได้ยินน้ำเสียงของหญิงสาว และผุดลุกขึ้นยืนเดินเข้าไปใกล้เตียงนอนใหญ่ด้วยฝีเท้าอันแผ่วเบา พอเห็นร่างบางเปล่าเปลือยคู้เข่าเข้าหากันเพราะความหนาว มือเล็กยังคงควานหาผ้าห่ม ก็เกิดอาการอยากคลายความเหน็บหนาว สร้างความอบอุ่นให้กับหญิงสาวด้วยเรือนกายของเขาเอง แต่ไม่ว่าต้องการทำเช่นดั่งที่หัวสมองกำลังคบคิดมากเพียงใด ผู้พันฟาเรลล์ก็ต้องข่มใจของตัวเองไว้ สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้คือแค่เพียงทรุดกายลงนั่งอยู่บนเตียงใกล้ๆ กับร่างเปล่าเปลือยงดงามเท่านั้น อาการหนาวจนตัวสั่น ส่งให้ชายิกาควานหาผ้าห่มให้วุ่นไปหมด มือเล็กวาดสะเปะสะปะไปทั่วบริเวณเตียงนอน โดยมีดวงตาคมกริบของผู้พันหนุ่มนั่งมองเงียบๆ แต่แล้ว...ผู้พันฟาเรลล์ก็ต้องสะดุ้งเฮือก กัดฟันแน่น เมื่อมือเล็กวาดมาวางบนต้นขาของเขา ปลายนิ้วเรียวยาวเกือบสัมผัสโดนเรือนกายของความเป็นบุรุษเพศอันยิ่งใหญ่ “อย่าเลื่อนมือต่ำลงไปกว่านี้อีกเป็นอันขาด ชายิกา” ผู้พันฟาเรลล์กระซิบเสียงรอดไรฟัน บังคับกายตนเองไว้สุดกำลังไม่ให้ตื่นตัวไปกับสัมผัสจากมือเล็ก ดูเหมือนชายิกาจะไม่ได้ยินคำกระซิบสั่งของผู้พันฟาเรลล์ หญิงสาวขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง เมื่อสัมผัสโดนความอบอุ่นของผิวกายมนุษย์ แทนที่จะเป็นผ้าห่มผืนหนาตามต้องการ และเพื่อให้มั่นใจว่า ตนเองไม่ได้ฝันไป มือเล็กจึงเลื่อนต่ำลงไปกว่าเดิมจนกระทั่งสัมผัสกับกายแข็งขึง ที่ประกาศความใหญ่โตผงาดง้ำในทันทีที่โดนแตะต้องด้วยนิ้วอุ่นๆ ของหญิงสาว “โอ้...บ้าชะมัด! คุณต้องการทำให้ผมคลั่งใช่ไหม ชายิกา” น้ำเสียงที่สบถลั่นสั่นพร่า ปลุกให้ชายิกาตื่นจากการหลับไหล ดวงตากลมโตจึงค่อยๆ เปิดขึ้น พอเห็นบุรุษเพศเรือนกายใหญ่โตนั่งอยู่บนเตียง ก็เบิกตากว้างพร้อมกับนึกถึงเรื่องที่ตนเองถูกลักพาตัวมาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา “แก! แกคือคนที่ฉุดฉันมาเมื่อคืน?” “ใช่ ผมเอง” ผู้พันฟาเรลล์คตอบเสียงสั่น กายแข็งขึงร้อนฉ่าทำเอาเขาปวดหนึบไปถึงแก่นกาย ออกคำสั่งต่อด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าแหบลึกไม่ต่างจากครั้งแรก “ก่อนอื่น...ช่วยเอามือคุณออกจากตัวผมก่อนได้ไหม” ชายิกาเหลือบสายตามองตัวเอง พอเห็นว่ากำลังแตะต้องสัมผัสถึงความใหญ่โตของความเป็นบุรุษเพศ ก็อายหน้าแดงซ่าน ราวกับแตะต้องของร้อนทำให้มือลวกพองจนต้องรีบกระชากมือเล็กออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นก็ผุดลุกขึ้นกระโจนลงจากเตียงนอน วิ่งตรงไปยังประตูห้องโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ต้องการหาอิสระให้กับตัวเองให้ได้ “จะหนีไปไหน ชายิกา คุณไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ได้ยินไหม” ชายิกาหลุบสายตามองเรือนกายของตัวเอง พอเห็นว่าเป็นเช่นนั้นก็ชะงักกึก หยุดวิ่งในทันที และนั่นก็เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้พันฟาเรลล์คว้าตัวเธอไปกอดไว้แน่น ก่อนจะออกดึงหญิงสาวให้กลับมายังเตียงนอนใหญ่อีกครั้ง “กลับมานี่เลย ชายิกา” ผู้พันฟาเรลล์เค้นเสียงสั่ง นึกโมโหชายิกาที่วิ่งหนี จนลำบากเขาต้องตามมาตะครุบตัวเธอไว้ เพราะนั่นทำให้เขามีโอกาสสัมผัสแตะต้องผิวกายนุ่มเนียน หอมรวยระริน ยิ่งเป็นการเพิ่มความต้องการของเขาให้พุ่งกระฉูดมากกว่าเดิม จนกายแทบระเบิดในทุกวินาที “ไอ้บ้า ไอ้โจรห้าร้อย ไอ้คนเลว ปล่อยฉัน แกฉุดฉันมาทำไม” ชายิกาแผดเสียงตะโกนถามดังลั่น ดิ้นรนถีบเท้า กระโจนหนี เพื่อให้ตนเองเป็นอิสระ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อร่างบางเปล่าเปลือยถูกพันธนาการไว้ด้วยต้นแขนอันแข็งแกร่ง “หยุดดิ้นก่อนได้ไหม ชายิกา” “ไม่! ปล่อยฉัน ไอ้กักขฬะ” “บอกให้หยุดดิ้น!” ผู้พันฟาเรลล์รู้สึกว่าอารมณ์ดำกฤษณาของเขากำลังพุ่งพรวดแทบทะลุเดือดเป็นปรอทแตก ไปกับการดิ้นรนของชายิกา ซึ่งส่งผลให้เรือนกายของเธอ โดยเฉพาะสะโพกงามงอนเสียดสีกับกายแข็งขึงในทุกวินาที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม