ภูริชรู้สึกสะดุดหูกับประโยคหนึ่ง ที่ชีคฟารีสต์และหญิงรับใช้ได้พูดว่า ‘พระชายา’ เขาอยากรู้ว่าคนเหล่านี้ได้หมายถึงจิลลาภัทรน้องสาวของเขาหรือเปล่า และมัวแต่ตกอยู่ในความคิด จึงทำให้เขาวิ่งออกจากตำหนักเป็นคนสุดท้าย “เฮ้ย! ทำไมไม่รอกันบ้าง ไปด้วยคนสิวะ” “ไปทำไมนายปากกรรไกร อยู่ที่นี่นั่นแหละดีแล้ว ไปก็เกะกะคนอื่นเปล่าๆ” เจ้าหญิงฟาติยาเอ่ยแขวะภูริช พออีกฝ่ายแยกเขี้ยวใส่ ตีหน้าบึ้งด้วยความไม่พอใจที่ถูกเรียกว่า ‘นายปากกรรไกร’ ก็หัวเราะร่วนด้วยความสะใจ จากนั้นก็เอ่ยแขวะต่ออีกรอบ “ยิงปืนเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ใช่เห็นปืนแล้วกลัวจนฉี่ราดนะ” “อุว่ะ! ว่าแต่เราปากกรรไกร เธอก็ใช่ย่อยเหมือนกันนะยายเจ้าหญิงปากจัด” ภูริชเถียงกลับด้วยความโมโห เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอผู้หญิงปากจัดตะโกนด่าเขาป่าวๆ เป็นครั้งแรกเหมือนกัน เขาเหลือบสายตามองชีคฟารีสต์กับองครักษ์อีกเป็นพรวน ที่ต่างก็กระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังม้า