ตอนที่ 5 แวะพักผ่อน

1526 คำ
ตอนที่ 5 แวะพักผ่อน ค่ำคืนนี้เกิดพายุฝนโหมกระหน่ำ สายฟ้าฟาดดังเปรี้ยงปร้าง ชายหนุ่มรูปงามสวมอาภรณ์สีฟ้าคราม เนื้อตัวชุ่มโชกเปียกปอนไปหมด การเดินทางนั้นขรุขระทุลักทุเลมากโข ไร้ซึ่งที่พักหลบฝนแต่อย่างใด เหล่าทหารใต้บังคับบัญชา ล้วนต้องเผชิญกับสายฝนที่เทกระหน่ำลงมา ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแม้แต่น้อยนิด “ท่านอ๋อง พวกเราต้องหาที่หลบฝนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ชายผู้หนึ่งร้อนใจนัก เดินทางค่ำมืดล้วนอันตรายยิ่ง แล้วยังมองไม่เห็นแม้แต่เส้นทางให้ย่างก้าว “หากเราหยุดพัก เกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะตามพวกเราทันนะสิ” ชายหนุ่มร้อนใจเฉกเช่นเดียวกัน จึงต้องเร่งฝีเท้าหลบหนี เพราะคนของเขาน้อยกว่า อีกทั้งฝนยังคงเทกระหน่ำเช่นนี้ ถ้าเกิดต่อสู้ขึ้นมาเกรงว่าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเอาได้ “พวกโจรชั่วช้าพวกนั้นรู้ได้อย่างไรกันว่าพวกเรากำลังขนเสบียงส่งไปยังชายแดน” ชายผู้นี้ยังคงครุ่นคิดไม่จางหาย ด้านหลังมีม้าลากเสบียงจำนวนหนึ่ง พวกเขามุ่งหน้ามาก่อนกลุ่มส่งเสบียงกลุ่มใหญ่ แต่คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางนั้นมีกลุ่มโจรป่าเถื่อนดักปล้นเสบียง ทำให้พวกเขาเพลี่ยงพล้ำเสียเปรียบ จึงต้องเร่งฝีเท้าเดินทางหลบหนีเพื่อให้ถึงที่หมายได้เร็วขึ้น “เร่งฝีเท้าเร็วเข้า” ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์เร่งกำชับผู้ใต้บังคับบัญชา หากชักช้าเกรงว่าคืนนี้ไม่อาจพ้นภัยเป็นแน่ “ท่านอ๋องมืดขนาดนี้จะเดินอย่างไรเล่า” หนึ่งในทหารจูงอาชาขนาบข้างท่านอ๋อง เอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ เนื้อตัวเขาหนาวสั่นทั่วทั้งร่างกาย อาภรณ์ชื้นแฉะ แม้กระทั่งการเดินก็ล้วนมีแต่โคลนเปรอะเปื้อนไปหมด มิให้หยุดพัก แต่ยังให้เดินทางฝ่าสายฝนไปเช่นนี้อีก ทว่า...กลุ่มโจรเชี่ยวชาญการเดินทางยิ่งนัก ในที่สุดก็ตามกลุ่มขนส่งเสบียงได้ทันพอดิบพอดี ในจังหวะนั้นเอง สายฟ้าฟาดลงมาอย่างจัง ยังต้นไม้ เกิดเป็นประกายขึ้นพร้อมกับเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และแล้วกลุ่มโจรก็ลงมือช่วงชิงเสบียงอาหารทันใด เกิดเสียงกระทบกระทั่งของเหล็กกล้า มีประกายวาบ เสียงร้องโอดครวญก็ดังขึ้นมา ท่ามกลางสายฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด ในที่สุดฉู่หยางอวี้เกิดพลัดตกจากหน้าผา ด้วยเพราะมิชำนาญเส้นทาง ส่วนผู้ติดตามคุ้มกันนั้นก็บาดเจ็บและล้มตาย ส่วนเสบียงก็ถูกช่วงชิงไปได้ จวนตระกูลจิน จินเสียงทอดสายตามองออกนอกหน้าต่าง ก็เห็นสายฟ้าหลายสาย ฟาดพาดผ่านไม่หยุดหย่อน สายลมพัดโหมกระโชกรุนแรงยิ่งนัก นับตั้งแต่นางจำความได้ “ดูเหมือนว่าวันนี้สวรรค์คงจะอวยพรให้ข้า พายุลงเสียขนาดนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้พวกเราคงเดินทางลำบากเป็นแน่” “คุณหนูไม่ต้องกังวลไปเจ้าค่ะ ข้าเตรียมรถม้าเอาไว้หลายคัน พรุ่งนี้ขอแค่พวกเราออกตั้งแต่เช้า ก็ไม่มีผู้ใดเห็นแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมเหอยกยิ้ม จากนั้นจึงดึงลำแขนบอบบางให้มานอนเสียที จากนั้นแม่นมเหอและจื่อถานจึงกลับมายังเรือนด้านข้างเพื่อพักผ่อน แม่นมเหอสีหน้าดูเศร้าไม่น้อย เช่นนั้นจื่อถานจึงเอ่ยถาม “แม่นมเหอ ทำไมถึงทำหน้าเหมือนกับว่ามีความทุกข์เล่าเจ้าคะ” “ดูท่าคุณหนูคงไม่ตอบรับฮูหยินผู้เฒ่านะสิ ข้าจะทำอย่างไรดี” แม่นมเหอเข้าใจความดื้อรั้นของคุณหนูน้อยเป็นอย่างดี เพราะนางเลี้ยงเองมากับมือ มีหรือจะไม่เข้าใจนิสัยใจคอจินเสียงผู้เป็นคุณหนูของนาง “แม่นมเหอก็พักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ ถึงอย่างไรคุณหนูก็มีเหตุผลอยู่ดี จะบีบบังคับนางได้หรือเจ้าคะ หากยืนกรานว่าจะไม่กลับจวนตระกูลโจวพวกเราเกลี้ยกล่อมก็คงไม่ยินยอม” จื่อถานเข้าใจแล้ว มิเช่นนั้นแม่นมเหอคงไม่กลัดกลุ้มใจเช่นนี้ “ฝนตกหนักเยี่ยงนี้ การเดินทางพวกเราคงลำบากแล้ว พรุ่งนี้ก็ตื่นแต่เช้าหน่อย” แม่นมเหอเดินมายังฟูกหนา ค่อย ๆ หย่อนกายนั่งลง ด้วยอายุปีนี้ก็ย่างห้าสิบกว่า ๆ ยังคงต้องคอยดูแลคุณหนูประคับประคองไปในทิศทางที่ถูกต้อง ให้สมกับการไหว้วานของเจ้านายทั้งสอง ที่ฝากฝังจินเสียงให้นางดูแล “เจ้าค่ะ ท่านก็พักเถิด ข้าเองก็จะนอนเหมือนกัน” จื่อถานเดินมายังฟูกหนาฝั่งตรงกันข้ามกับแม่นมเหอ นางถอดรองเท้าปักออก จากนั้นจึงสอดกายเข้าใต้ผ้าห่ม เพราะอากาศวันนี้ค่อนข้างหนาวยิ่งนัก ฝนตกหนักขนาดนี้ หากพรุ่งนี้ไม่หยุดก็คงอาจเลื่อนการเดินทางออกไปแน่ รถม้าจอดเรียงรายอยู่ข้างประตูด้านหลัง มีหีบสมบัติจำนวนหนึ่ง อีกจำนวนหนึ่งคือหีบอาภรณ์และของว่างรองท้อง รถม้าอีกคันประดับประดาอย่างเรียบง่าย เพื่อให้เหมาะสมกับคุณหนูของนาง แม่นมเหอรวมถึงจื่นถาน ออกมาดูการตระเตรียมข้าวของต่าง ๆ ก่อนที่คุณหนูของพวกนางจะออกจากจวน ฟ้ายังไม่ทันสาง ขบวนรถม้าของจินเสียงก็ออกเดินทาง จินเสียงมิได้ร่ำลาผู้ใดเป็นพิเศษ หญิงสาวนั่งเงียบ ๆ ปิดเปลือกตาสนิท การเดินทางครั้งนี้ นางมีจุดหมายปลายทางแล้ว “คุณหนูตัดสินใจให้ดี ๆ นะเจ้าคะ” แม่นมเหอสอบถามอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ “อืม ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะเปิดเหลาอาหาร” จินเสียงแอบซื้อบ้านไว้หนึ่งหลัง อยู่ห่างจากเมืองที่บิดาอยู่พอสมควร พื้นที่นั้นทำเลดูเหมาะสมนัก ด้วยเพราะความบังเอิญกระมัง นางจึงโชคดีที่ซื้อบ้านหลังนั้นในราคาที่ถูก ซ้ำยังมีพื้นที่อีกด้วย เหมาะสำหรับเปิดเหลาอาหาร “จะดีหรือเจ้าคะ แล้วแม่ครัว พ่อครัวเล่าจะหาจากที่ไหน” แม่นมเหอยิ่งกังวลใจมากขึ้น ดูท่าว่าคุณหนูคงวางแผนมานาน มิเช่นนั้นไม่เร่งรีบเยี่ยงนี้ “ก็ข้านี่อย่างไรเล่า ร่ำเรียนวิชามาตั้งมากมาย จะทำมาหากินเลี้ยงตนมิได้หรือ แม่นมเหอข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงข้า แต่เชื่อข้าเถอะ พวกท่านจะไม่ลำบากแม้แต่น้อย” จินเสียงมั่นใจนักหนา หากนางเปิดเหลาอาหารแล้วอยู่ในครัว รูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ ก็ไม่มีผู้ใดเห็น “แล้วยังต้องใส่ชุดหนา ๆ เทอะทะเช่นนี้อีกหรือเจ้าคะ เหตุใดไม่ลบล้างใบหน้าให้เกลี้ยงเกลา เผยความงดงามเล่าเจ้าคะ รู้หรือไม่ข้าทุกข์ใจเพียงใดเห็นคุณหนูอัปลักษณ์เช่นนี้” นางแทบร่ำไห้ เห็นคุณหนูลำบากต้องอำพรางเรือนร่างและใบหน้าแสนงดงาม กลายเป็นสตรีแสนอัปลักษณ์ ตัวตลกขบขันให้ผู้อื่นเย้ยหยัน สิบกว่าปีมานี้แม่นมเหอ ไม่มีวันใดที่สบายใจสักวัน กลับหวาดระแวงว่าจะถูกจับได้ “คุณหนูพวกเราเดินทางมาสองชั่วยามแล้ว ด้านหน้าเป็นลำธารแวะพักเสียหน่อยนะขอรับ” จื่อเยี่ยคือสารถี ซึ่งถูกส่งมาติดตามดูแลคุณหนูจากตระกูลโจวเมื่อปีที่ผ่านมา อายุสี่สิบปี ใบหน้าดุดัน ท่าทางน่าเกรงขาม ปกติแล้วเมื่ออยู่จวนตระกูลจิน มักมิค่อยพูดคุยกับผู้ใดมากนัก “ก็ดีเหมือนกัน จะได้ยืดเส้นยืดสายเสียที” จินเสียงร่าเริงเบิกบานทันใด จะได้ออกไปเดินเล่นให้หายเมื่อยก้นบ้างแล้ว นั่งนาน ๆ เช่นนี้ก้นนางด้านชาไปหมดแล้วนะสิ อีกทั้งแม่นมเหอยังคงไม่หยุดหว่านล้อมนางอีก ตลอดทางก็ได้ยินเสียงแม่นมเหอพูดเกลี้ยกล่อมนางไม่หยุดหย่อน เมื่อรถม้าหยุดลง จื่อเยี่ยเปิดม่านประตู ยื่นมือรอรับคุณหนูทันใด “คุณหนู ข้างหน้าเป็นลำธารขอรับ” จื่อเยี่ยชี้มือไปยังทางด้านล่าง ซึ่งมีทางเดินเล็ก ๆ เดินลงไป หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงัก แม่นมเหอรีบเอ่ยขึ้นว่าจะติดตามไปด้วย แต่ก็ถูกจิงเสียงตำหนิ “แม่นมเหออายุมากแล้ว หากหกล้มขึ้นมาจะทำอย่างไร รอข้าอยู่นี่นะ อีกเดี๋ยวก็กลับแล้ว” จื่อถานติดตามคุณหนูไปด้วย เพราะอายุนางมากกว่าคุณหนูเพียงแค่ไม่กี่ปี ร่างกายยังแข็งแรง เดินเหินคล่องแคล่วไม่น้อย จากนั้นพวกนางจูงมือกันเดินลงไปริมลำธาร “สดชื่นเสียจริง” หญิงสาวเดินลงมาถึงยังลำธาร เงยหน้ากางแขนทั้งสองข้างออก สูดลมหายใจเข้าไปจนลึกสึก รู้สึกสดชื่นกระชุ่มกระชวยยิ่งนัก หลังจากที่นั่งอุดอู้อยู่ในที่แคบ ๆ มาสองชั่วยาม ได้ออกมาสูดอากาศเยี่ยงนี้ จึงทำให้จินเสียงร่าเริงขึ้นมาบ้าง “คุณหนูอย่าไปไกลนักนะเจ้าคะ ข้าขอไปปลดเบาก่อน” จื่อถานปวดท้อง อั้นมาตั้งนานสองนาน ละแวกนี้หาได้มีผู้คนพลุกพล่านไม่ นับว่าเหมาะนักกับการถ่ายเบา กล่าวจบนางก็ถลกกระโปรงขึ้นมาสูงอีกนิด วิ่งพรวด ๆ ไปอย่างรีบร้อน “อืม...ข้ารู้แล้ว รีบไปเถิดประเดี๋ยวก็ราดตรงนี้หรอก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม