ประตูลิฟต์เปิดออกและคนที่เดินเข้ามาในลิฟต์ก็เป็นคนที่เธอไม่อยากเจอหน้า
“คุณพีรพล...”
เขาเดินเข้ามาในลิฟต์หน้านิ่งๆ เธอเดินถอยหลังให้ห่างเขาแล้วมองดูแผ่นหลังเขาที่ยืนนิ่งไม่พูดอะไร
“....”
ภายในลิฟต์มันเงียบมาก เธอยืนนิ่งมองดูเขา และเขาก็ไม่ไเ้คิดจะหันมาพูดอะไรกับเธอสักคำ จนลิฟต์มาหยุดที่ชั้นของเธอ ประตูลิฟต์เปิดออกและเธอกำลังจะเดินเพื่อผ่านเขาออกไป แต่เขาดันยื่นมือไปกดปุ่มปิดประตูลิฟต์จนมันปิดก่อนที่เธอจะเดินไปถึง
“นี่คุณ...”
เธอหันมามองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ และก็ยื่นมือไปจะเปิดประตูแต่มันไม่ทันแล้ว ลิฟต์มันเคลื่อนไปชั้นบนเรื่อยๆ
“ทำบ้าอะไรของคุณ...?”
“ชอบไม่ใช่หรอ เวลาที่ได้อยู่กับผู้ชาย...?”
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร...?”
“ก็ปกติเห็นชอบอยู่แต่กับผู้ชาย ขาดไม่ได้นี่ตัวฉันก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนะ...”
เธอจ้องหน้าเขาอย่างรู้สึกกังวล และเริ่มเดินถอยหลังหนีเขา
“คุณจะทำอะไร...?”
“ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าอย่ามารับงานที่โรงแรมฉันอีก ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ ไม่อยากให้คนอื่นเขารู้ว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทกับคู่หมั้นฉัน...”
“งานที่หวานทำไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณสักหน่อย คุณจะมายุ่งทำไม...?”
“แต่งานที่เธอทำอยู่นี่มันเป็นโรงแรมของฉัน ฉันเคยบอกเธอแล้วไงว่าอย่ามารับงานแบบนี้ที่โรงแรมฉัน...”
“ทำไมคะ ทำไมคุณถึงได้ชอบดูถูกหวานนัก งานที่หวานทำมันน่ารังเกียจตรงไหน มันช่วยให้หวานมีกินมีใช้ แล้วก็มีเงินไว้รักษายาย หวานผิดหรอที่หวานทำงานแบบนี้ หวานเลือกไม่ได้ถ้าเขาจ้างหวานให้ไปทำที่ไหนหวานก็ต้องไป...”
“แต่ไม่ใช่ที่โรงแรมของฉัน...”
พวกเขา 2 คนทะเลาะกันในลิฟต์เสียงดังจนน้ำหวานเริ่มทนไม่ไหว เธอโกรธมากจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ น้ำตาเธอไหลลงมาพรั้งพรูพร้อมทั้งคำพูดที่ดูน้อยใจแล้วเสียใจในคำดูถูกของเขา
“คนที่เกิดมาบนกองเงินกองทองอย่างคุณไม่มีวันเข้าใจหรอก หวานต้องทำงานทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาไม่ว่างานนั้นมันจะหนักหนาแค่ไหนหวานก็ต้องทำอึกๆๆๆ...”
“…”
เธอร้องไห้ฟูมฟายจนเขาเริ่มตกใจ
“คนอื่นจะมองยังไงก็ช่างหวานไม่แคร์รวมถึงตัวคุณด้วย เพราะหวานไม่เคยไปขอใครกินหรือขอคุณกิน..”
เธอพูดไปร้องไห้ไปจนเขาอึ้งๆ
“....”
เขาเงียบไปจนประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นห้องของเขา เขาหันไปมองที่ประตูลิฟต์แล้วหันมามองเธอที่ยืนสะอึกสะอื้นอยู่
“มันมีงานอีกมากมายที่เธอทำได้โดยไม่ต้องเปลืองตัวแบบนั้นให้ใครเขาดูถูก แต่อยู่ที่เธอเลือกมันเองต่างหาก...”
เขาพูดจบก็เดินออกจากลิฟต์ไปปล่อยให้เธอยืนร้องไห้อยู่คนเดียว อย่างรู้สึกท้อแท้ในใจ เธอแค่ต้องการหาเงินเยอะๆเอาไว้มารักษายาย เธอไม่รู้ว่างานไหนจะได้เงินดีเท่านี้ แค่ยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวนิดหน่อย ก็ทำให้เธอได้เงินมามากมาย เธอรู้ว่างานที่ทำคนอื่นจะมองเธอไม่ดี แต่มันเป็นงานเดียวที่ทำให้เธอมีเงินมารักษายาย
เธอออกมาจากลิฟต์แล้วเดินไปที่ห้องเห็นเรนนี่ยืนรออยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วงสีหน้ากังวล
“หวาน หายไปไหนมาพี่เป็นห่วงแทบแย่เลยรู้ไหม...?”
“พี่เรนนี่...อึกกๆๆๆๆ....”
“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม ใครทำ...?”
เธอร้องไห้ปล่อยโฮออกมาจนเรนนี่ตกใจ เธอเดินเข้าไปกอดเรนนี่ไว้ด้วยความรู้สึกท้อแท้ในโชคชะตาที่เธอเกิดมามีชีวิตแบบนี้ สายตาที่มีแต่คนดูถูกรังเกียจตลอดเวลา พ่อแม่ตายจากเธอไปตั้งแต่เด็ก เธอไม่เคยมีชีวิตเหมือนกับคนอื่น เธอมีแค่ยายที่เลี้ยงเธอมาและทำงานส่งเธอเรียนจนจบปริญญา เธอต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเพื่อช่วยยาย แต่เพราะยายล้มป่วยเธอจึงต้องทำงานหนักมากขึ้น เธอเลือกงานไม่ได้ใครให้ทำอะไรเธอก็รับหมด จึงมีแต่คนอิจฉาริษยาเธอเธอจึงมีแต่พี่เรนนี่ที่คอยอยู่เคียงข้าง
“เป็นอะไรร้องไห้ทำไม เครียดเรื่องยายอีกแล้วใช่ไหม...?”
“หวานพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินไปรักษายาย งานทุกอย่างที่หวานทำหวานเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อยาย หวานมีแค่ยายคนเดียว ยายเป็นเพียงคนเดียวในครอบครัวที่หวานเหลืออยู่ หวานเสียยายไปไม่ได้ หวานยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมา...”
“.....”
เรนนี่มองเธอร้องไห้ไปพูดไป
“พี่เรนนี่ช่วยหางานให้หวานทำหวานไม่เคยแคร์ว่าใครจะมองหวานยังไง หวานแค่อยากหาเงินมารักษายายเพื่อให้ยายอยู่กับหวานไปนานๆ อึกๆๆๆๆ.... หวานแคร์แค่ยาย หวานแค่ไม่อยากเสียยายไป...”
“ร้องไห้แบบนี้เพราะโดนใครพูดดูถูกมาอีกแล้วใช่ไหม...? พี่บอกแล้วไงไม่ต้องไปแคร์ เราไม่ได้ไปขอใครกิน จะไปแคร์คนปากหมาพวกนั้นทำไม...”
เธอมองหน้าเรนนี่แล้วยิ้มให้มีกำลังใจมากขึ้น ทุกครั้งที่เธอเสียใจ เรนนี่ก็จะเป็นคนปลอบตลอด
“คนที่หวานรักและก็แคร์ที่สุดรองจากยายก็คือพี่เรนนี่นะ หวานรักพี่นะ...”
“ว๊าย...ฉันชอบผู้ชายนะยะ ชะนีฉันไม่มม๊กย่ะ...”
เธอเริ่มยิ้มออกมาในท่าทีตุ้งติ้งของเรนนี่
“ยิ้มได้แล้วหรอ...งั้นก็ไปนอนได้แล้ว พี่ง่วงแล้วนะ...”
“ค่ะ...ขอบคุณนะคะพี่เรนนี่คนสวย”
“อื้ม...” พี่เรนนี่ยิ้มให้เธอแล้วยื่นมือไปจับหัวเธอโยกเบาๆ
“ฟังไว้นะหวาน คนเรานะเลือกเกิดไม่ได้ก็จริง แต่เราเลือกเป็นคนดีได้ พี่เชื่อนะการที่หวานเป็นเด็กกตัญญูต่อยาย หวานจะต้องได้เจอคนดีๆแล้วเขาจะมาช่วยเติมเต็มในสิ่งที่หวานต้องการ วันนั้นหวานจะได้รู้จักกับความสุขที่แท้จริง”
“ขอบคุณค่ะ...”