“บ้านชุนน่าอยู่มาก” ดวงตากลมโตเบิกตากว้าง เมื่อเห็นบ้านหลังเล็กสีขาวที่ดูสะอาดและอบอุ่น
“เข้ามาสิ” มือหนาเปิดประตูบ้านกว้าง เชิญให้พิพิมเข้ามาในบ้าน บ้านที่ไม่เคยมีใครได้เข้ามาก่อน พิพิมคือคนแรกที่ได้เข้าบ้านหลังนี้
“โห!! บ้านสะอาดมาก อยู่คนเดียวจริงรึเปล่า” พิพิมเดินเข้าไปภายในบ้านที่ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้านจนไม่อยากจะเชื่อว่า ชุนอาศัยอยู่เพียงลำพัง เพราะลำพังทุกวันนี้เขาทั้งเรียนทั้งทำงานก็เหนื่อยมากพอแล้ว
“จริง” น้ำเสียงหนักแน่นเอ่ยบอกกับหญิงสาว งานบ้านทุกอย่างเขาเป็นคนทำเอง เพียงแค่ไม่อยากให้บ้านสกปรก เพราะตลอดระยะเวลาที่พ่อและแม่ของเขาอยู่ บ้านหลังนี้ก็มักจะสะอาดอยู่เสมอ
“ไม่อยากจะเชื่อ”
“ไม่เชื่อก็ลองมาอยู่ที่นี่สิ” รอยยิ้มมุมปากดั่งคนเจ้าเล่ห์เอ่ยบอกกับหญิงสาว สายตาสอดประสานกำลังสื่อความหมายบางอย่างเหมือนต้องการให้พิพิมได้รับรู้ด้วยตัวเอง
“ชุน!!” ใบหน้าจิ้มลิ้มเห่อร้อนขึ้น หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำแทบหลุดออกมา บุคลิกและแววตาแบบนี้ของชุนเกินต้านทานจนใจตั้งรับไม่ไหว
หลังจากที่พิพิมเล่นกับเสือหมอบจนหนำใจแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปหาชุนที่ห้องครัว ภาพตรงหน้าที่เห็นคือผู้ชายคนหนึ่งใส่ผ้ากันเปื้อนกำลังวุ่นอยู่หน้าเตาอย่างคล่องแคล่ว
พิพิมสอดตามองใบหน้าครึ่งเสี้ยวของชุนที่หล่อราวกับรูปปั้น ยิ่งจมูกโด่งเป็นสันรับเข้ากับรูปหน้า ยิ่งทำให้ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์น่าหลงใหลจนคนมองถึงกับเคลิบเคลิ้ม
“จะมองอีกนานมั้ย” เสียงทุ้มของชุนเอ่ยเรียกสติที่เหม่อลอยของพิพิมให้กลับมา ร่างสูงยืนมองใบหน้าจิ้มลิ้มด้วยความงุนงงกับใบหน้าที่พิพิมแสดงออกมา
“มีอะไรให้พิมช่วยมั้ย” มือเล็กยกขึ้นเกาท้ายทอยตัวเองด้วยความเก้อเขิน เธอเดินเข้าไปในครัวด้วยความสนใจ เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอแทบไม่เคยเดินเฉียดเข้าไปในครัวของบ้านเลยสักครั้ง
ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอได้ลอง และเรียนรู้อีกมุมหนึ่งของชีวิต เหมือนเธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอีกด้านหนึ่ง และในชีวิตด้านนี้ยังคงมีผู้ชายชื่อชุนร่วมอยู่ด้วย ความอบอุ่นที่ชายหนุ่มมอบให้ เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและปลอดภัยที่มีอยู่ในใจตลอดเวลาอยู่กับเขา
“ทำเป็นเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาว หางคิ้วเลิกขึ้นเป็นเชิงถามด้วยความอยากรู้ เพราะถ้าเขาเดาไม่ผิด พิพิมไม่น่าจะเคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน
“ไม่เป็น แต่ชุนสอนพิมได้นะ” น้ำเสียงเงอะงะตอบกลับชายหนุ่มเบาหวิว พิพิมรู้สึกอายไม่น้อยที่ต้องตอบว่า ตัวเธอเองทำไม่เป็น
“งั้นล้างผักก็พอ”
“โห!! ดูถูกฝีมือกันเกินไปแล้ว ให้ล้างแค่ผักใครก็ทำได้” เมื่อได้ยินคำสั่งของพ่อครัว ร่างบางถึงกับร้องโอดโอยขึ้นมาทันที การล้างผักง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย ผู้ชายคนนี้ช่างดูถูกฝีมือเธอเสียจริง
“งั้นก็หั่นผักต่อ”
“รับทราบ” พิพิมตะเบ๊ะมือรับทราบ รอยยิ้มสดใสบางกดบนใบหน้าสวย หญิงสาวรับตะกร้าผักไปล้าง ฮัมเพลงเบา ๆ ท่าทางอารมณ์ดี ที่ได้ลองทำในสิ่งใหม่ ๆ
“ชุน” หลังจากที่พิพิมล้างผักเสร็จ ใบหน้าเลิ่กลั่กของหญิงสาวก็หันไปขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“หืม” เสียงทุ้มขานรับหญิงสาว ตาคมยังคงตั้งใจทำอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างตั้งใจ พยายามจะโชว์ฝีมีตัวเองที่พรีเซนต์เอาไว้ก่อนหน้านี้
“ต้องหั่นผักยังไง” เสียงหวานเบาหวิวเอ่ยถามชายหนุ่ม พิพิมรู้สึกเสียหน้าไม่น้อยที่ต้องเอ่ยถามเรื่องง่าย ๆ แบบนี้กับชุน ทั้งที่ก่อนหน้าเธอคุยโม้เอาไว้ดิบดี
“เดี๋ยวสอนครับ” ชุนวางทุกอย่างที่กำลังทำเอาไว้ ร่างสูงเดินเข้ามาช้อนตัวด้านหลังพิพิม มือหนาจับมือและผักก่อนจะนำหั่นช้า ๆ โดยในอ้อมแขนของชุนยังมียังคงพิพิมอยู่
ร่างบางตัวแข็งทื่อเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของชุน ใบหน้าสวยเห่อร้อนขึ้นมาทันที หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ยิ่งจมูกได้สัมผัสกับกลิ่นกายของชุน เลือดร้อนก็ยิ่งสูดฉีดขึ้นหน้า
“พอทำได้มั้ย” เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบข้างหูเล็กของพิพิมอย่างจงใจ
“ฮะ หา!!” สติที่ขาดห้วงไปของพิพิมกลับมา เมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังข้างหูของเธอ ใบหน้าจิ้มลิ้มรีบหันไปมองทางต้นเสียง
จมูกโด่งของทั้งคู่เฉียดฉิวกันจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ชุนจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มด้วยความหลงใหล ใบหน้าของพิพิมทำให้เขามองยังไงก็มองไม่เบื่อ ยิ่งเห็นใบหน้าเลิ่กลั่กของเธอ ยิ่งทำให้ชุนอยากแกล้งหยอกล้อเธอมากขึ้นกว่าเดิม
“ชุนถามว่า พอทำได้มั้ยครับ” เสียงทุ้มละมุนของชุนเอ่ยถามพิพิมอีกครั้ง ร่างสูงถึงกับยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ เมื่อได้เห็นใบหน้าน่ารักของพิพิม
“ฮะ เออ เข้าใจค่ะ” พิพิมผงะตัวออกห่างจากชุน ชายหนุ่มที่เธอเคยคิดว่าเขาใสซื่อมาโดยตลอด แต่เมื่อเธอได้เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มเหมือนเป็นเครื่องตอกย้ำว่าเธอนั้นคิดผิดมหันต์
“ระวังโดนมีดบาดด้วยนะพิม” สรรพนามที่ดูเปลี่ยนไปของชุน มีผลต่อหัวใจพิพิมไม่น้อย น้ำเสียงบวกกับประโยคคำพูดช่างดูอบอุ่นและละมุน จนพิพิมแทบอยากกรี๊ดออกมาด้วยความเขินอาย
“รู้แล้วน่า!! พิมไม่ทำให้นิ้วตัวเองเลือดออกหรอก” ใบหน้ามั่นอกมั่นใจของพิพิมเชิดหน้าขึ้นอย่างหมั่นใจ
ชุนเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ ให้กับหญิงสาว ก่อนที่เขาจะหันกลับไปปรุงอาหารอีกด้านหนึ่งของครัว ปล่อยให้พิพิมยืนหันผักคนเดียวเงียบ ๆ
“โอ๊ย!!!” เสียงร้องอุทานด้วยความตกใจของพิพิมดังขึ้น เมื่อมีดแหลมเฉือนนิ้วเธอจนเป็นแผล
“พิมเป็นอะไร” ชุนเดินเข้ามาหาพิพิมด้วยความเป็นห่วง เลือดสีแดงสดไหลออกจากปลายนิ้วชี้ข้างซ้ายของหญิงสาวไม่หยุด
“มีดบาดนิดหน่อย พิมไม่เป็นอะไรจริง ๆ แค่นี้เอง”
“......” ตาคมดุสบตาเข้ากับดวงตากลมโตของพิพิมเหมือนผู้ใหญ่กำลังตักเตือนเด็ก มือหนาจับมือของพิพิมขึ้นมาดูแผลที่เลือดไหลไม่หยุด เขารีบดันตัวพิพิมเดินมาที่ก๊อกน้ำเพื่อเปิดน้ำล้างแผลเธอ
“พิมไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ นะ”
“ไปนั่งรอที่โซฟา เดี๋ยวชุนไปทำแผลให้” น้ำเสียงและท่าทางเป็นห่วงของชุน ทำให้
พิพิมไม่กล้าเถียงหรือคัดค้านเขาแต่อย่างใด หญิงสาวทำได้เพียงเดินไปนั่งรอชุนที่โซฟาหน้าทีวีเงียบ ๆ
“เอามือมาครับ”
“พิมไม่เป็นไร ถ้าขืนล้างแผลด้วยแอลกอฮอล์มีหวังพิมต้องแย่กว่าเดิมแน่เลยชุน” เมื่อเห็นอุปกรณ์ล้างแผลที่วางอยู่ตรงหน้า ใบหน้าจิ้มลิ้มเริ่มเลิ่กลั่กขึ้นมาทันที เมื่อรู้ชะตากรรมของตัวเอง
“แอลกอฮอล์ไม่ได้แสบขนาดนั้น”
“ชุน แต่พิมกลัว” ดวงตากลมโตคลอไปด้วยน้ำตา เจ็บกว่าโดนมีดบาดคงหนีไม่พ้นแอลกอฮอล์ที่กำลังจะชโลมแผลของเธอ
“เป็นผู้หญิงของชุน เรื่องแค่นี้ก็กลัวแล้วเหรอ?” ประโยคเอ่ยแซวของชายหนุ่มที่หมายจะทำให้พิพิมเขิน แต่กลับเป็นตัวเองที่เขินแทนหญิงสาว
“งั้นเทแอลกอฮอล์มาทั้งขวดเลย พิมทนได้” ประโยคคำพูดของพิพิม ทำให้ชุนหลุดขำออกมากับความโก๊ะของเธอ สุขใจไม่น้อยที่ตรงนี้ของเขายังมีผู้หญิงคนนี้อยู่