แสงดาวไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตเป็นเรื่องยากมาก่อน จนกระทั่งคีรินอุ้มไคร่าเข้ามาหาเธอถึงโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์สีดำที่มีตัวอักษรเรียงกันอยู่หลายบรรทัดที่เคยจดจ้องได้ทั้งวันทั้งคืนกลับทำให้เธอเวียนหัวเป็นครั้งแรก
ไหนจะ วายุ และเมญานีที่เดินตามมาพร้อมด้วยสีหน้าเหมือนมีคำถามในใจเป็นหมื่นล้านคำนั่นอีก...
สกิลการเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลของเธอเดาสถานการณ์ได้เลยว่า ยัยหนูไคร่าคงบอกกับทุกคนแล้วว่าคีรินเป็นปะป๊าของตัวเอง...
เอาไงดี เอาไงดี
แสงดาวถามกับตัวเองซ้ำๆ เธอไม่คิดว่าการยอมบอกลูกว่าพ่อของแกเป็นใครจะเป็นการสร้างหายนะให้ตัวเอง เธอเพิ่งเปิดเผยข้อมูลของผู้เป็นพ่อให้ไคร่าฟังไปไม่กี่วัน ที่ทำไปเพราะคิดว่าพวกเขาคงไม่มีวันเจอกัน
แต่ใครเลยจะรู้... แววตาของคีรินที่จ้องเธอเหมือนอยากจะตั้งโต๊ะสอบสวนทำให้แสงดาวอยากถูกธรณีสูบไปให้มันจบๆ
"แม่... ไคร่าเจอปะป๊า"
เสียงของไคร่าไม่เบา คนที่นั่งทำงานอย่างเป็นอิสระในโซนนี้ต่างก็หูผึ่งกันถ้วนหน้า...
ห้านาทีก่อนหน้านี้...
วายุและเมญานีไม่เคยรู้จักสามีของแสงดาวมาก่อน แต่พอเห็นคีรินอุ้มไคร่าพวกเขาก็เริ่มเอะใจเพราะดวงหน้าทั้งสองเหมือนกันราวกับเคาะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน การที่ไคร่าเรียกคีรินอย่างสนิทสนมแถมชื่อก็คล้องจองกันทำให้พวกเขาแทบจะเชื่อสนิทใจว่าคีรินเป็นพ่อของไคร่าจริงๆ
แต่บทสนทนาของทั้งคู่ก็ทำให้พวกเขายุติความสงสัยเอาไว้
'แม่ของหนูคือใคร'
"แม่ของหนูคือหม่าม๊า' ไคร่าพยายามอธิบายถึงแม่ของตัวเองเท่าที่เด็กวัยสามขวบกว่าพอจะอธิบายได้
'นี่ไคร่าลูกของแสงดาว' วายุบอก
คีรินชะงักเมื่อได้ยินชื่อหนูน้อย สีหน้าเขาเปลี่ยนไปวูบหนึ่ง เขาช้อนอุ้มไคร่าขึ้นมา เด็กน้อยหัวเราะคิกเมื่อตัวเองลอยหวือขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดของคุณพ่อที่สูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร เด็กน้อยรู้สึกว่าอากาศข้างบนมันสดชื่นมาก ตอนพ่ออุ้มสูงกว่าตอนอยู่กับแม่เยอะเลย
'ไปหาแม่ของหนูกันเถอะ'
'ค่าาา' สองแขนป้อมๆ กอดคอเขาไว้อย่างไว้วางใจ
คีรินหันมาหาวายุกับเมญานี
'เมญ่าช่วยพาผมไปเจอแสงดาวหน่อยครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับเขา'
'อ่า... ค่ะ' เมญานีพยักหน้าแล้วเดินนำทางคนตัวโต วายุที่ถูกลืมก็ลุกแล้วเดินตามมาติดๆ เพราะคิดว่าเรื่องนี้มันอาจจะไม่ได้จ้อจี้อย่างที่คิดแล้ว...
กลับมาที่ปัจจุบัน
ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีเพียงไคร่าเท่านั้นที่มีความสุขและยิ้มกว้างกว่าครั้งไหนๆ
คีรินใช้สายตามองแสงดาวอย่างคาดคั้น แสงดาวยืนทำหน้าเหวอ วายุและเมญานี รวมทั้งคนที่นั่งทำงานอยู่แถวๆ นี้ต่างก็ตกใจกันถ้วนหน้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"เอ่อ ไคร่า คงพูดผิดน่ะค่ะ" แสงดาวตั้งสติแล้วก็บอกทุกคนพร้อมด้วยรอยยิ้มแหยๆ
เสียงหนุ่มๆ ที่นั่งโต๊ะทำงานไม่ไกลกันบ่นพึมพำว่าโล่งใจ วายุและเมญานีก็มีสีหน้าผ่อนคลายลง...
"ไคร่าพูดผิดตรงไหนค้าาา หรือต้องเรียกว่าพ่อ แต่ปะป๊าของนาดาบอกว่าเรียกแบบไหนก็ได้นี่คะ" เสียงเจื้อยแจ้วของยัยเจ้าหนูจำไมตั้งคำถามที่ทำให้ชีวิตคนเป็นแม่ถึงทางตัน
นอกจากคีรินแล้วก็มีไคร่านี้แหละที่ทำให้แสงดาวอยากมุดแผ่นดินหนี!
"ลูกของดิฉันคงสับสนน่ะค่ะ ดิฉันขอคุยกับแกสักครู่ได้ไหมคะ ไคร่า มาหาแม่มา"
"ม่ายยยย ไคร่าจะอยู่กับปะป๊าคีริน"
"โอ๊ะ จำชื่อกันได้ด้วยเหรอ" คนที่อุ้มไคร่าอยู่เอ่ยถาม
"จำได้ค่า... แม่บอกว่าปะป๊าชื่อคีริน"
"ไคร่า" แสงดาวเริ่มเรียกลูกด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
"อย่าดุลูกเลยครับ คุณทำงานตามสบายเลย เดี๋ยวผมจะดูแลไคร่าเอง หลังเลิกงานเดี๋ยวผมพามาหาคุณ" คีรินบอกกับแสงดาว เขาต้องการลงมาเพื่อดูปฏิกิริยาของเธอเพื่อให้แน่ใจบางอย่างเท่านั้น
แล้วเธอก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเสียด้วยสิ...
"ไคร่าไปเล่นกับปะป๊าดีกว่าครับ" เขาบอกกับเด็กน้อย
"ค่าาาา"
ปะป๊าของไคร่าพยักหน้าให้วายุและเมญานีเดินตามไป ทุกคนคิดว่าเรื่องนี้มันจบที่ยัยหนูน้อยทึกทักเอาคีรินเป็นพ่อเพราะเด็กน้อยชื่นชอบเขา คงจะมีแค่คีรินกับแสงดาวที่รู้ว่ามันไม่ใช่...
นักวิเคราะห์ข้อมูลสาวทรุดนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหมดแรง ทั้งที่พยายามจะเก็บอาการแล้ว แต่เธอก็ปกปิดความรู้สึกหวาดหวั่นในใจไม่ได้เลยจริงๆ