หลังจากวันนั้นมาเพียงฟ้ากับธนูก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ และเรียบง่ายในทุก ๆ วันเหมือนอย่างเคย กระทั่งวันนี้หญิงสาวเดินมาสอนหนังสือที่ Tun University ของสามีเช่นเคย เธอเดินไปถึงโต๊ะทำงานของเธอที่ได้รับมาตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานทว่าดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นใครบางคนนั่งอยู่ที่โต๊ะเธอด้วยหน้าตาเบื่อหน่าย
"เมยาวี"
"เป็นอาจารย์แล้วนะทำไมแกยังมาสายอีกหะยัยเพียงฟ้า" เมยาวีเป็นเพื่อนที่คบหากันมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันแม้ในช่วงวัยมหา'ลัยจะไม่ได้เรียนอยู่ที่เดียวกันแต่เพียงฟ้ากับเมยาวีก็ติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา ทั้งการส่งข้อความแชต หรือแม้แต่การโทรศัพท์คุยกัน แต่ตอนนี้เมยาวีเองก็แต่งงาน และมีสามีแล้ว นาน ๆ จึงจะได้คุยกันทีแต่ก็ใช่ว่าจะห่างหายไปจากเมื่อก่อนเพราะถึงแม้ว่าทุกวันนี้เธอกับเมยาวีจะคุยกันน้อยลงแต่ก็ใช่ว่าจะห่างหายกันไปเลย
"แกจะมาทำไมโทรไม่บอกฉันก่อน"
"ทำไมล่ะ บอกแกก่อนแล้วแกจะไปรับฉันเหรอ"
"แกก็พูดไป มาถึงนานแล้วเหรอกินอะไรมารึยังเลี้ยงกาแฟฉันหน่อยสิ" เพียงฟ้าที่เห็นเพื่อนสนิทมาหาก็รีบเดินไปหาอย่างรวดเร็วเธอวางกระเป๋าพร้อมทั้งแฟ้มงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นแผนการสอนที่เธอจะต้องทำส่งให้กับคุณหัวหน้าฝ่ายในทุกสัปดาห์เธอเอาแฟ้มเอกสารวางไว้บนโต๊ะแล้ววิ่งเข้าไปโอบกอดเพื่อนรักด้วยความคิดถึง
"ตลอดเลยแต่ฉันเตรียมเงินมาแล้ว แถวมหา'ลัยแกมีร้านกาแฟหรู ๆ แพง ๆ มั้ย"
"ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเหรอ"
"ถูกก็บ้าสิฉันกำลังเซ็ง ๆ เนี่ย"
เมยาวีพูดพร้อมกับปรายตามองเพียงฟ้าแน่นอนว่าเธอรู้สึกอิจฉาเพื่อนรักอยู่เหมือนกันที่แต่งงานแล้วก็ได้แยกครอบครัวออกมาอยู่ต่างหากซึ่งต่างกันกับเธอที่ต้องอยู่บ้านเดียวกับแม่สามี และความบรรลัยก็เกิดขึ้นเมื่อผู้หญิงสองคนรักผู้ชายคนเดียวกันอะไรจะเกิดขึ้นได้ล่ะถ้าไม่ใช่ความจิตของแม่สามีเธอ
"งั้นเราไปหาร้านกาแฟกินกันมั้ย ของฉันอีกตั้ง 2 ชั่วโมงแหนะกว่าจะเข้าสอน" เพียงฟ้าพูดพลางยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา
"ก็ได้ไปกัน"
"เอสเปรสโซ่เย็นหวาน 25 ค่ะ"
"คาปูชิโน่เย็นหวาน 100 ค่ะ" เพียงฟ้าเลื่อนสายตามองเพื่อนรักปกติแล้วเมยาวีจะเป็นคนที่ไม่กินอะไรที่มันหวานมากสงสัยครั้งนี้คงจะเป็นเรื่องที่เพื่อนของเธอเครียดอย่างจริงจังเพราะเมยาวีกับเธอมีนิสัยเหมือนกันตรงที่หากมีเรื่องไม่สบายใจมักจะชอบกินของหวานให้ตัวเองรู้สึกอารมณ์ดี
"สองแก้ว 125 บาทค่ะ"
เมยาวียื่นเงินสดไปตรงหน้าจากนั้นพนักงานก็รับเงินไปแล้วทำการคิดเงินไม่นานสองสาวก็เดินไปหาโต๊ะนั่งซึ่งเป็นโต๊ะที่อยู่ในมุมเล็ก ๆ ในจุดที่ไม่ค่อยมีใครได้สังเกตเห็นแน่นอนว่าพวกเธอสองคนรู้กันได้ด้วยตัวเองว่าการมาเจอหน้ากันครั้งนี้เป็นการพูดคุยที่คนอื่นไม่สามารถรู้ได้
"เชิญรอที่โต๊ะนะคะ เดี๋ยวพนักงานจะเอากาแฟไปเสิร์ฟค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"
เรื่องที่ว่าเป็นการพูดคุยที่คนอื่นไม่สามารถรู้ได้จะเป็นอะไรไปได้นอกจากการนินทาแม่สามีหากการพูดคุยกันเสียงดังออกมาทำให้คนอื่นได้ยินคนที่เจอปัญหาเดียวกันก็คงจะเห็นใจแต่คนที่ไม่ได้เจอปัญหาเดียวกันก็คงจะรู้สึกว่าเธอทั้งสองคนนั้นเป็นคนอกตัญญูสิ้นดี หรือกระทั่งอาจจะเจอคนที่หัวโบร่ำโบราณขึ้นมาหน่อยชนิดที่ว่าแม่สามีก็เหมือนแม่ตัวเองให้ปรนนิบัติด้วยดี ๆ ทำใจคิดอย่างนั้นไม่ได้จริง ๆ เพราะรู้ตั้งแต่แรกว่าท่านไม่ชอบจะให้ทำใจแบบนั้นได้ยังไง
"ใครเริ่มก่อน"
เพียงฟ้าถามขึ้นก่อนจะมองซ้ายมองขวาดูว่ามีลูกน้องของสามีเธออยู่แถวนี้หรือเปล่าแต่มองดี ๆ แล้วก็ไม่ได้มี หรือถ้ามีเธอก็คงไม่เห็นเพราะบ่อยครั้งที่สามีเธอนั้นจะส่งลูกน้องคอยตามเธอแบบไม่ให้เธอได้รู้ตัวแต่ไม่เป็นไรเธอเชื่อว่าลูกน้องของเขาก็คงไม่ได้รู้สึกดีกับแม่สามีของเธอนักหรอกเธอกลัวแค่ว่าลูกน้องของเขาจะไปบอกสามีของเธอมากกว่าน่ะสิว่าเธอกับเพื่อนต่อว่าแม่ของเขาว่าอย่างไรบ้าง
"ฉันก่อนได้ปะ ฉันแบบจะไม่ไหวแล้วอะ"
เมยาวียกมือขึ้นขอพูดก่อน เธออึดอัดใจเหลือเกินแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้วแม้เธอจะทำงานที่บ้าน แม้เธอจะไม่ได้แบมือขอเงินสามีของเธอกิน แต่แม่สามีของเธอก็มักคิดเสมอว่าเธอขอเงินลูกชายของตัวเองกินทั้ง ๆ ที่มันไม่เป็นความจริง มันไม่ใช่แบบนั้น มิหนำซ้ำทุกวันนี้บางครั้งเธอยังเสนอหน้าออกเงินเลี้ยงเขาด้วยซ้ำเพราะไม่อยากให้มีการครหากันทีหลังว่าเขาเลี้ยงดูเธอมากกว่า
"ฉันไปทำเรื่องซื้อบ้านมา แต่ฉันก็คุยกับสามีแล้วนะว่าถ้าเราสองคนยังอยู่ด้วยกันแบบนี้ฉันได้อกแตกตายแน่ ๆ พอไปทำเรื่องซื้อบ้านเธอรู้มั้ยว่าแม่สามีทำยังไง แม่สามีของฉันกลับบอกว่าถ้าไปกันหมดแล้วใครจะอยู่กับแม่ ให้ตายเถอะฉันก็แบบสงสัยมากเลยนะว่าตอนที่แม่แต่งงานกับพ่อเนี่ยทำไมแม่ถึงไม่ไปอยู่กับแม่สามีตัวเองล่ะมาอยู่กับพ่อกันสองคนทำไม"
เพียงฟ้าพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะเธอเองก็พอรู้ปัญหาของบ้านเพื่อนรักของเธออยู่เหมือนกัน เราสองคนเจอปัญหาที่ไม่ค่อยได้ต่างกันเท่าไหร่หากจะวัดกันที่ความต่างก็คงเป็นเพียงแค่ว่าฐานะทางบ้านสามีเธอค่อนข้างสูงกว่าส่วนฐานะที่บ้านของสามีของเมยาวีนั้นก็ไม่ได้ถือว่ารวยแล้วก็ไม่ได้ถือว่าไม่มีกิน
"วันดีคืนดี แม่สามีของฉันนะก็ไปซื้อของมาจากตลาด ซื้อมาทีก็เยอะมาก ๆ แต่ก็กินไม่หมด พอฉันถามว่าทำไมไม่ซื้อให้พอดี ซื้อมาเยอะ ๆ ก็เหลือทุกครั้ง แม่สามีฉันตอบว่าไงรู้มั้ย"
เพียงฟ้าส่ายหน้าอย่างจริงจัง เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนนี้ เธอหรือเพื่อนของเธอเจอมาหนักกว่ากัน
"แม่สามีฉันตอบว่า ถ้าซื้อน้อยมันไม่ได้ลดราคา"
"ฉันคิดว่า แม่สามีของเธอออกจะแปลกไปหน่อยนะ"
เพียงฟ้าเสนอความคิดเห็นของตัวเอง เธอก็คิดว่าแปลกอย่างที่ปากพูดไปนั่นแหละ เพราะคนเราทำไมถึงไม่ซื้อเท่าที่อยากกินเล่า ทำไมต้องซื้อปริมาณมาก ๆ เพื่อแค่ส่วนลด หรือของแถม
"ยังไม่จบนะแก ฉันทำงานที่บ้านใช่ปะ แต่พอเวลานางกลับมาจากข้างนอก ฉันต้องรีบออกไปรับถึงหน้าบ้าน คือแบบนางก็มาถึงหน้าบ้านแล้วอะ แล้วฉันต้องหยุดงานทุกอย่างที่ทำอยู่เพื่อไปถือของจากมือของนางที่เดินแค่ห้าก้าวก็เข้าบ้านแล้ว บางทีฉันก็อยากรู้นะว่าตอนที่ฉันไม่อยู่นางเข้าบ้านยังไง" เพียงฟ้าพยักหน้าอย่างเห็นด้วย มันก็จริง และตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องของเธอน่าจะเบากว่าของเมยาวีเยอะเลยละ อีกอย่างนะพอได้ฟังเมยาวีพรั่งพรูออกมาแบบนี้เธอบอกตรง ๆ เธอลืมเรื่องเครียดของตัวเองไปหมดเลย
ปึ้ง!
"เฮือก!"
"ส่วนผัวฉันนะ ไม่เอาอะไรเลยจ้า ใช่สิพ่อแม่นางไม่กล้าว่าลูกตัวเองไง ทุกอย่างเลยมาลงที่ฉัน ชีวิตฉันตอนนี้โดดเดี่ยวมาก มีแค่แกเท่านั้นที่ฉันยังเห็นว่าฉันมีค่า" โถ่ เพื่อนรัก เธอเองก็เคยบอกเมยาวีไปแล้วว่าอย่าไปเอามันเลยผู้ชายคนนี้ แต่ในเมื่อเพื่อนเธอรักเขาไปแล้ว เธอก็คงทำได้เพียงแค่คอยอยู่ข้าง ๆ ไม่ซ้ำเติมก็เท่านั้น