ตลอดการเดินทางกลับจากคฤหาสน์กลับไปที่คอนโดบรรยากาศในรถเป็นเหมือนอย่างเคยนั่นคือความเงียบธนูเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรจะให้ทิ้งแม่บอกตรง ๆ ว่าเขาก็ทำไม่ได้ ชายหนุ่มหันไปมองหญิงสาวอยู่บ่อยครั้งแต่ขณะเดียวกันเพียงฟ้ากลับไม่ยอมหันหน้ามามองเขาเลยแม้สักครั้งเดียวตั้งแต่ขึ้นรถกลับบ้านมา และเป็นอย่างนี้ทุกรอบทุกครั้งเวลาที่ต้องมาที่คฤหาสน์นี้ซึ่งเป็นที่ที่มีแม่ของเขาอยู่
บางทีเขาเองก็อดคิดน้อยใจไม่ได้ว่าภรรยาของเขารังเกียจแม่ตัวเองแต่ว่าเมื่อย้อนกลับไปมองสิ่งที่แม่เขาเคยทำทั้งกับพี่สาวของเพียงฟ้า และกลับตัวเพียงฟ้าเอง ธนูเองก็พอจะเข้าใจได้ว่าเพราะอะไรเพียงฟ้าถึงเป็นแบบนี้อีกทั้งการกระทำของแม่เขาใช่ว่าเขาไม่เคยไม่รับรู้แม้จะไม่ได้เห็นเองอย่างบ่อยครั้งแต่ก็ได้ยินเรื่องราวจากปากของแม่บ้านคนขับรถ และคนสวนที่คฤหาสน์ ทำให้เขาเองก็เป็นห่วงภรรยาไม่น้อยเลยเหมือนกัน
"ฟ้าครับ"
สุดท้ายก็ต้องเป็นเขาที่ยื่นมือไปจับมือของเธอก่อน สุดท้ายก็ต้องเป็นเขาที่ร้อนรนใจอดทนต่อไปไม่ได้ที่ต้องหันไปพูดคุยกับเธอก่อนอันที่จริงแล้วเพียงแค่เธอไม่มองหน้า หรือไม่คุยด้วย เขาเองก็แทบบ้าอยู่แล้วแต่ทุกครั้งที่มากินข้าวกับแม่เขากับเธอมักจะเป็นแบบนี้เสมอจะเรียกว่าชินก็ไม่กล้าใช้คำนั้น หรือจะเรียกว่าช่องว่างเขาก็กลัวคำนี้มากเหลือเกิน
เพราะการที่คู่รักมีช่องว่างแน่นอนว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างเข้ามาแทนที่ช่องว่างนั้นก็ได้ใครจะไปรู้
"พี่ขอโทษครับ"
เป็นเขาทุกครั้งไปที่ต้องเอ่ยคำขอโทษเธอก่อนทุกครั้งขณะที่เพียงฟ้าเองก็หันมามองหน้าเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่าเธอเองก็รู้ว่าเขาขอโทษแต่เขารู้เหรอว่าเธอโกรธเขาเรื่องอะไรจะบอกว่าโกรธก็คงไม่ถูกต้องเพราะเธอไม่ได้โกรธเธอแค่รู้สึกอึดอัด และลำบากใจทุกครั้งที่มาเธอไม่เข้าใจว่าทำไมทุกครั้งที่มากินข้าวที่บ้านเขาจะต้องพาเธอให้มาเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย
"ขอโทษฟ้าเรื่องอะไรคะ"
หลายปีที่อยู่ด้วยกันมาธนูเอาแต่ขอโทษโดยที่บางครั้งเธอก็รู้ดีว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเขาผิดอะไรเพราะเขาบอกกับเธอว่าเขาไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเรามันพังลงจริงอยู่ที่เธอต้องการให้ความรักของเรามีเพียงแค่เขากับเธอ แต่เธอก็พอจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะในโลกนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เขากับเธอแค่สองคนสักหน่อย เขายังมีครอบครัวของเขา เธอก็ยังมีครอบครัวของเธอแถมเขายังดูแลครอบครัวของเธอเป็นอย่างดีเปรียบเสมือนลูกชายที่แม่ของเธอคลอดออกมาเองเสียด้วย
"พี่ไม่รู้ว่าฟ้าโกรธพี่เรื่องอะไรแต่พี่พอจะรู้ว่าฟ้าไม่ค่อยพอใจที่มาที่บ้านพี่ใช่มั้ยครับ"
เขาก็ไม่ได้อยากจะบังคับให้เธอมาหรอกเพียงแต่เขาก็หวังในใจลึก ๆ ว่าเธอกับแม่ของเขาจะเข้ากันได้เป็นอย่างดีแม้ตอนนี้จะแก้ปัญหาด้วยการแยกบ้านกันอยู่แล้วแต่ทุกครั้งที่กลับมาบ้านกลับกลาย เป็นว่าคนที่มีปัญหาไม่ใช่แค่เธอกับแม่ของเขาแล้วแต่รวมถึงเขากับเธอด้วยเพราะในทุก ๆ ครั้งเธอมักจะมึนตึงใส่เขาอยู่เสมอ
"เปล่านี่คะ นั่นบ้านพี่ธนู พ่อแม่พี่ธนูก็เหมือนพ่อแม่ฟ้าเหมือนกันค่ะ ฟ้าก็ต้องรัก และเคารพท่านทั้งสองคนเหมือนกันนี่คะ"
เธอยอมรับว่าที่พูดออกไปไม่ตรงกับใจเลยสักนิดจะให้เธอพูดออกไปได้อย่างไรว่าเธออึดอัดแทบบ้าเธอรู้สึกว่าเธอเสียหน้าแทบแย่ที่ถูกแม่ของเขาจิกกัดท่ามกลางบรรยากาศตอนกินข้าวที่ถูกแม่ของเขาจิกหัวใช้ และไร้การต้อนรับ
เมื่อก่อนตอนที่เขากับเธอยังไม่ทันได้แต่งงานกันแม่ของเขาก็ตั้งตัวรังเกียจเดียดฉันท์เธอ แต่พอเกิดเรื่องของพี่เขยกับพี่สาวของเธอก็ดูเหมือนว่าแม่ของเขาจะสงบเสงี่ยมเจียมตัวมากขึ้น เขากับเธอได้แต่งงานกันอย่างราบรื่นแต่ก็กลับมามีปัญหาอีกครั้งในตอนที่เขาเอ่ยปากขอแยกบ้านซึ่งเดิมทีแล้วเขาก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านอยู่แล้วตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าแม่ของเขาต้องการอะไร
"งั้นฟ้าตึงใส่พี่เรื่องอะไรครับ"
เขามันคนโง่ เขาไม่ใช่แค่ควายเผือกแต่เขาคงเป็นควายเผือกชนิดที่หายากด้วยซ้ำ เขาไม่รู้ว่าในตอนนี้ภรรยาของเขามึนตึงใส่เขาเรื่องอะไรเขาลองทายไปแล้วว่าเป็นเพราะเธอไม่ชอบบ้านเขาหรือเปล่า แต่เธอก็ปฏิเสธออกมาทำให้เขาสงสัยเหลือเกินว่าเธอกำลังโกรธเขาเรื่องอะไร
จะว่าเรื่องผู้หญิงก็ไม่น่าใช่เพราะตั้งแต่เธอเปิดใจให้เขา เขาก็ไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนอีกเลยไม่นับรวมกับตอนที่ห่างเหินกับเธอไปช่วงหนึ่งในตอนนั้นเขาก็ต้องฝึกปรือวิชาเอาไว้ใช้กับเธอด้วยไม่ใช่หรือไง
"เฮ้อไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฟ้าเห็นว่าไฟในตอนกลางคืนที่ส่องอยู่บนถนนมันดูสวยดีฟ้าก็เลยมอง" เธอก็ไม่รู้ว่าเธอจะอธิบายกับเขาอย่างไรแต่ก็เอาเถอะเพราะทุกครั้งที่กลับมาเธอกับเขาจะมีปากเสียงกันแค่ไหนสุดท้ายเธอก็ใจอ่อนให้เขาอยู่ดีเพราะเขาง้อเก่ง และเธอเองก็รักเขามาก
"งั้นก็ยิ้มให้พี่หน่อยสิครับ ถ้าฟ้ายิ้มให้พี่ พี่จะรู้สึกชื่นใจขึ้นมาบ้าง"
ไม่รู้ว่าที่เธอพูดมาเป็นสิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจตอนนี้จริงหรือเปล่า ธนูเองก็รู้สึกอึดอัด และลำบากใจเหมือนกัน เวลาที่พาเธอไปที่บ้านแล้วแม่ของเขาทำแบบนั้นกับเธอ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยพูดคุยกับแม่เรื่องการกระทำที่ทำกับเธอแต่เขาก็พูดจนปากเปียกปากแฉะแม่เขาก็ไม่ทำตามอีกทั้งเมื่อมองสายตาของแม่บางครั้งหัวใจของเขาก็อ่อนยวบขึ้นมาเพราะว่าตั้งแต่เขาออกจากบ้านไป แม้จะกลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยครั้งแม้ว่าคุณพ่อจะไม่ได้หย่าร้างกับคุณแม่ แต่ว่าสายตาของคุณแม่ลึก ๆ แล้วแสดงความเหงาออกมาอยู่ในใจ
"เราแวะกินบัวลอยตรงหัวโค้งถนนก่อนจะถึงคอนโดดีมั้ยคะ"
"ได้ครับ" เพียงฟ้าเหลือบสายตามองธนูจากกระจกมองหลังเธอเห็นว่าเขามีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยเธอจึงพยายามสลัดความรู้สึกแย่ ๆ ทิ้งออกไปให้หมด ก่อนจะหันมาพูดจาแล้วยิ้มหวาน ๆ ให้เขาเหมือนอย่างเคย
"อืม~ งั้นกินข้าวเสร็จแล้วพี่ธนูจะต้องทำการบ้านนะคะ"
"ยังไม่ทันเป็นอาจารย์เลยสั่งการบ้านแล้วเหรอครับ"
"ไม่ทันเป็นอะไรกันคะ ตอนนี้ฟ้าเป็นอาจารย์ฝึกหัดแล้วนะคะ ฟ้าต้องฝึกงานตั้งสี่เดือนแหนะ"
เพียงฟ้าเอียงตัวเล็กน้อยพิงกับแขนแกร่งของเขาในตอนนั้นธนูก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาเพราะเหมือนกับว่าภรรยาของเขาในตอนนี้อารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว ชายหนุ่มกดยิ้มเล็กน้อยยกมืออีกข้างลูบผมเธอเบา ๆ ก่อนจะก้มลงหอมที่ศีรษะของเธอแล้วพูดกระซิบกับเธอเสียงแผ่ว
"ถึงจะเป็นเมียพี่แต่ก็ต้องทำตามกฎนะไม่งั้นจะเป็นที่ครหาเอาได้"
"ฟ้าทราบดีค่ะ ฟ้าไม่อยากใช้เส้นสายหรอก เพราะถ้าฟ้าใช้เส้นสายนะฟ้าไม่เดินไปสมัครหรอกค่ะ ฟ้าแค่ขึ้นมาขย่มบนตัวพี่ธนูแค่นี้ฟ้าก็คงได้เป็นอาจารย์แล้วมั้งคะ"
"ฟ้าครับ ถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ เราสองคนคุยกันได้ตรง ๆ ทุกเรื่องเลยใช่มั้ยครับ" อยู่ ๆ เขาก็กังวลขึ้นมากลัวว่าเธอจะเก็บกดเอาไว้จากเล็กน้อยก็กลายเป็นมาก ๆ แล้วจะระเบิดขึ้นมาได้ อีกอย่างเธอเคยพูดกับเขาแบบนั้นทั้งก่อนที่จะแต่งงานกัน และหลังจากที่แต่งงานกันแล้ว
"แน่นอนอยู่แล้วสิคะ"
"งั้นถ้าฟ้าลำบากใจเรื่องอะไร อึดอัดใจเรื่องไหน ฟ้าพูดกับพี่นะครับ" ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนอันตรายอย่างมากแม้ว่าเบื้องหน้าจะเป็นผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยดัง แม้ว่าจะเป็นที่นับหน้าถือตาในฐานะนักวิชาการแต่เบื้องหลังเขาน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาคือหนึ่งในคนที่สนับสนุนน้องชายที่เป็นมาเฟียอย่างลับ ๆ มาโดยตลอด เรียกได้ว่าไม่มีเรื่องไหนที่เขาทำไม่ได้เลยสักครั้งยกเว้นแต่เพียงเรื่องระหว่างแม่กับเมียเท่านั้นที่ทำให้เขาเลือกไม่ได้
"ค่ะ"