วันต่อมา
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
หลังจากเลิกเรียนญาดารีบเร่งฝีเท้ามาหานารินที่ตึกคณะบริหารเพราะเมื่อคืนนารินไม่ได้กลับไปนอนบ้านญาดารู้ว่าวิชานี้นารินขาดเรียนบ่อยแล้วไม่มีสิทธิ์จะขาดเรียนอีกจึงได้มาดักรอน้องสาว
“ ริน....... ”
ทันทีที่เห็นนารินเดินมากับเพื่อนญาดาก็เข้าไปทัก นารินรู้ดีว่าญาดามาด้วยเรื่องเมื่อคืนธอจึงบอกให้เพื่อนเข้าไปในห้องก่อน
“ ทำไมเมื่อคืนรินไม่กลับไปนอนบ้านรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหน ”
แม้จะรู้ว่าน้องทำตัวไม่เหมาะสมและทำอะไรไม่ดีกับตัวเองไว้แต่ญาดาก็ถามด้วยความเป็นห่วงจริงๆไม่ได้จะมาต่อว่าอย่างที่นารินเข้าใจ
“ ก็รินไม่อยากกลับ ทำไม พี่ดาจะมาต่อว่ารินเรื่องเมื่อคืนหรอ ช่วยไม่ได้นิพี่ดาอยากโง่ให้รินหลอกเองทำไม ”
นอกจากนารินจะไม่ได้รู้สึกผิดแล้วยังดูถูกความเป็นห่วงของพี่สาว ด้านญาดาก็รู้สึกเสียใจที่นารินพูดกับตัวเองแบบนี้ ญาดาไม่ได้จะมาหาเรื่องหรือต่อว่าอะไรให้นารินแต่อย่างน้อยๆนารินก็ควรจะขอโทษเธอสักคำ ไม่ใช่หรือไง
“เมื่อคืนพ่อมาที่บ้าน ”
ญาดาเอ่ยต่อ
“ พ่อมาที่บ้านหรอ แล้วพี่ดาบอกพ่อไปว่าไงอย่าบอกนะว่าพี่ดาเล่าเรื่องเมื่อคืนให้พ่อฟัง ”
หน้านารินถอดสีกลัวญาดาจะบอกเรื่องที่ตัวเองทิ้งให้ญาดาอยู่กับเสี่ยชัชคนอันตราย
“ เปล่า แต่ที่พี่ไปตามรินเมื่อคืนเพราะพ่อเจอรินที่นั่นเลยให้พี่ไปตามพี่พยายามจะบอกรินแล้วแต่รินก็ไม่ยอมฟังพี่เลย ”
ญาดาเท้าความถึงเหตุการณ์เมื่อคืนทันที ตอนที่นารินเห็นญาดาตามไปที่ไนท์คลับก็คิดอะไรขึ้นมาได้ นารินต้องการเงินจำนวนหนึ่งไปถอยกระเป๋าใบใหม่อวดเพื่อนแต่เพราะผู้ชายไม่ใช่สเปคของนารินและนารินเองก็มีนัดซ้อนกับผู้ชายอีกคนเลยออกอุบายว่าเธอกำลังจะกลับแต่ขอนั่งดื่มอีกหน่อยโดยขอให้ญาดานั่งเป็นเพื่อนเพราะไม่อยากอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง ญาดาใจอ่อนและด้วยความที่เป็นห่วงนารินเลยยอมนั่งด้วย พอนั่งไปสักพักนารินก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำและได้บอกกับญาดาว่ากลับออกมาจากห้องน้ำก็จะกลับทันทีโดยที่ญาดาไม่ได้เอะใจเลยว่านารินจะแอบหนีไป พอเสี่ยคนนั้นรู้จากคนขับรถที่รออยู่ด้านนอกว่าเห็นนารินขึ้นรถไปกับผู้ชายอีกคนก็เจ็บใจเลยจะให้ญาดาชดใช้ร่างกายแทนเงินที่เสียไปแต่ด้วยนิสัยกร่างไปทั่วบวกกับที่ เสี่ยชัช จะมาเอาคืนเพลิงอยู่แล้วเขาเลยมีเรื่องกับลูกค้าโต๊ะข้างๆจนเกิดเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ขึ้น
“ ห่ะ! พี่ดาว่าไงนะ ”
นารินร้อนใจมากกว่าเดิมเพราะถ้าสุพัฒน์เห็นเธอก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเห็นผู้ชายที่เธออยู่ด้วย แล้วถ้าสุพัฒน์ไม่ให้เงินเธอใช้อีกจะทำยังไง เธอจะเอาเงินที่ไหนไปกินไปเที่ยว
“ พ่อบอกให้รินโทรหาพ่อด้วย ”
ญาดาเอ่ยต่อ
“ อือ ไว้รินเรียนเสร็จรินค่อยโทรหาพ่อแล้วกัน”
นารินรู้ว่าสุพัฒน์ค่อนข้างจะตามใจเธอทุกอย่างและรักเธอมากนารินเลยคิดว่าถ้ายอมๆรับผิดไปสุพัฒน์ก็น่าจะไม่ว่าอะไรเธอเลยมีท่าทีที่อ่อนลง
“ งั้นพี่ไปก่อนนะวันนี้กลับไปนอนบ้านด้วยล่ะ ”
“ เดี๋ยวก่อนสิเมื่อคืน…...พี่ดาเป็นไงบ้าง ”
จังหวะที่ญาดากำลังจะหันหลังให้นารินก็เอ่ยขึ้น นารินอยากรู้ว่าเสี่ยชัชได้พาญาดาไปต่อที่อื่นหรือเปล่า ญาดาชะงักฝีเท้าแล้วค่อยๆหันกลับไปหานารินก่อนจะถามกลับด้วยแววตาที่ตัดพ้อน้องสาว
“ รินสนใจด้วยหรอว่าพี่จะเป็นยังไง พี่ว่ารินเลิกทำตัวแบบนี้เถอะนะพี่ไม่อยากให้พ่อเสียใจ ”
“ ทำไม รินทำตัวยังไงหรอพี่ดาพูดให้เคลียร์เลยนะ ”
ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้อยู่ที่มหาวิทยาลัยนารินคงจะขึ้นเสียงใส่ญาดาไปแล้ว เธอโตแล้วไม่ใช่เด็กไม่จำเป็นต้องญาดามาบอกว่าอะไรควรไม่ควร ชีวิตของเธอเธอตัดสินใจเองได้
“ แต่พี่เป็นห่วงรินนะรินรู้ไหมว่าผู้ชายคนนั้น….. ”
ญาดาหยุดเอาไว้แค่นี้เพราะเริ่มจะมีคนสนใจ
“ พี่ดาไม่ต้องพูดอะไรหรอกก่อนที่รินจะยุ่งกับใครรินรู้ดีว่าเขาเป็นยังไง รินไม่ได้โง่ ”
นารินลดเสียงลงแต่เน้นน้ำหนักคำว่า โง่ ใส่หน้าญาดาเต็มๆ
“ หมายความว่าไง แปลว่ารินตั้งใจให้พี่อยู่กับผู้ชายแบบนั้นหรอ ”
ญาดามองหน้าน้องสาวอึ้งๆ ถ้านารินไม่รู้ว่าผู้ชายเป็นคนยังไง ยังจะดีซะกว่า
“ พี่ดาต้องขอบคุณรินนะที่ทำให้พี่ดาได้ไปเปิดโลกกับเขาบ้าง รินต้องเข้าเรียนแล้วไปก่อนนะ ”
พูดจบนารินก็เดินกลับไปที่ห้องเรียนปล่อยให้ญาดาอยู่กับคำพูดที่ทำร้ายจิตใจคนเป็นพี่อย่างเธอ
ในวันอากาศร้อนญาดาตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพราะต้องรีบมารับผิดชอบงานบ้านก่อนจะไปมหาวิทยาลัย วันนี้ญาดามีเรียนตอนสิบโมง หลังจากที่ซักผ้ากวาดถูบ้านเรียบร้อยญาดารีบเข้าครัวไปจัดเตรียมอาหารง่ายๆสำหรับเธอกับนาริน
“ พี่ดากับข้าวเสร็จยังรินหิวแล้วนะ ”
นารินชะโงกหน้าเข้าไปถามญาดาในครัวขณะที่ตัวเองยืนปัดหน้าจอมือถืออยู่ นารินต่างจากพี่สาวของเธอทุกอย่างทั้งการแต่งตัวงานบ้านงานเรือนที่ไม่เคยแตะบวกกับมีพ่อให้ท้ายเธอจึงมีนิสัยชอบสั่งมากกว่าทำและเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็ก
“ ใกล้แล้วรินไปนั่งรอเลยเดี๋ยวพี่ยกออกไปให้ ”
ใบหน้าขาวผุดผ่องของญาดามีความมันเพราะทำงานบ้านมาตั้งแต่ตื่นนอน พอหันไปบอกนารินแล้วรีบจัดการตักข้าวสวยร้อนๆขึ้นมาจากหม้อก่อนจะตักกับข้าวสองสามอย่างแล้วเดินมาเสริฟให้นารินถึงโต๊ะอาหาร
“ ไข่เจียว ผัดผักบุ้ง หมูทอด มีแค่นี้เองหรอพี่ดา ”
นารินมองกับข้าวบนโต๊ะแล้วทำหน้าเอือมระอา อาหารพวกนี้มันแต่ของมันๆจะกินลงได้ยังไง
“ ในตู้เย็นไม่มีอะไรให้ทำแล้วไว้เลิกเรียนพี่ไปตลาดแล้วจะทำอย่างอื่นให้กินนะ ”
ญาดาใช้หลังมือปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามไรผมและหน้าผากโค้งก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนวางไว้เพื่อจะได้รีบอาบน้ำเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย
“ เย็นนี้รินไม่กลับมานอนบ้านนะ ”
“ รินจะไปไหนอย่าบอกนะว่าจะไปเที่ยวอีกแล้ว ”
ญาดาที่กำลังจะเดินขึ้นไปบนบ้านหันกลับมาถามนารินด้วยความเป็นห่วงเมื่อวานเธอพึ่งจะพูดไปหยกๆแต่เหมือนนารินจะเอาเข้าหูซ้ายออกหูขวา ผลการเรียนก็ไม่ค่อยดีเกรดออกมาแต่ละวิชาเกือบจะไม่ถึงเกณฑ์ด้วยซ้ำ ญาดาจึงเหนื่อยใจกับน้องสาวตัวเอง
“ เรื่องของรินพี่ดาก็อย่าบอกพ่อแล้วกันถ้าพ่อถามก็บอกว่ารินไปทำรายงานบ้านเพื่อนสิ ”
อีกแล้วหรอ ญาดาอยากจะพูดคำนี้ออกมาแต่ก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ นารินคงจะไม่ฟังสิ่งที่เธอเตือนเลยได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเอือมระอาแต่ลึกๆญาดาก็เป็นห่วงว่าน้องจะเรียนหนังสือไม่จบ ตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยญาดาเคยเห็นนารินขึ้นรถไปกับผู้ชายแปลกหน้าหลายครั้งแถมยังไม่เคยไม่ซ้ำหน้ากันแม้ญาดาจะรู้ว่านารินไม่ใช่พวกอ่อนต่อโลกไม่ทันคนตรงกันข้ามนารินทั้งเจนจัดและรู้จักเลือกคบผู้ชายแต่พี่สาวอย่างญาดาก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี
ยี่สิบนาทีต่อมาญาดาเดินลงมาจากบ้านด้วยชุดนักศึกษากระโปรงทรงจีบที่เลยเข่าลงมาเป็นคืบสองมือหอบหนังสือสองสามเล่ม ญาดาไม่เชิงเป็นผู้หญิงเรียบร้อยแต่เธอไม่ชอบใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือโชว์นั่นโชว์นี่ต่างจากนารินที่ตอนนี้นุ่งกระโปรงสั้นรัดติ้วนั่งไขว่ห้างอยู่ที่โซฟามองเห็นขาขาวๆและทรวดทรงองค์เอวทุกส่วน
“ ไปเลยไหมพี่เสร็จแล้วนะ ”
ญาดาเอ่ยถามนารินที่กำลังเล่นมือถืออย่างใจเย็นทั้งที่ตอนนี้ปาเข้าไปเก้าโมงกว่าแล้ว นารินเรียนคณะบริหารปีสองส่วนญาดาเป็นนักศึกษาทุนคณะแพทย์ปีสี่ ความฝันสูงสุดของเธอคือการได้เป็นศัลยแพทย์ผ่าตัด
“ พี่ดาไปก่อนเลยวันนี้รินมีคนมารับ นั่นไงมาพอดีเลยรินไปก่อนนะ ”
นารินได้ยินเสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านพอดีเลยรีบคว้ากระเป๋าแบรนด์เนมรีบร้อนออกไปจากบ้าน ญาดามองตามนารินออกไปเห็นด้านหลังของผู้ชายแวบๆแต่ก็พอเดาออกว่าคนที่นารินควงคราวนี้ท่าทางจะเป็นหนุ่มกระเป๋าหนักรถที่ขับมารับป้ายแดงราคาหลายล้าน ญาดาที่เห็นว่าสายมากแล้วก็รีบออกจากบ้าน ญาดาไม่มีผู้ชายที่ไหนมาคอยรับเลยต้องนั่งรถเมล์ไปมหาวิทยาลัยเองแต่ในระหว่างที่ญาดากำลังจะเดินผ่านรถที่ทั้งคู่นั่งอยู่ชายหนุ่มที่ขับรถหรูมารับนารินก็ลดกระจกลงมาถาม
“ ไปด้วยกันไหมครับ ”
หนุ่มหล่อหน้าตาลูกครึ่งเอ่ยถามด้วยสีหน้าและรอยยิ้มที่เป็นมิตรหรือถ้าจะพูดให้ถูกคงเป็นเพราะวิสัยของพวกผู้ชายเจ้าชู้ทั่วไป เอเดนรู้ว่านารินมีพี่สาวแต่เขาไม่คิดว่าญาดาจะเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้
“ ไม่เป็นไรค่ะพอดีว่าต้องแวะไปที่อื่นก่อน ”
ในตอนนั้นญาดาเห็นสายตาของนารินที่ส่งมาบอกเป็นนัยส์ๆว่าไม่ให้ญาดาตอบตกลงญาดาเลยต้องปฏิเสธ นารินเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร แม้ญาดาจะไม่เคยคิดแย่งผู้ชายของน้องสาวแต่เพราะญาดาเป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์นารินเลยดักไว้ทุกทาง เมื่อได้ยินดังนั้นเอเดนก็ไม่ได้คิดจะเซ้าซี้แต่ก็ไม่วายจะมองกระจกส่องหลังมองร่างบางระหงของญาดาพลางคิดในใจ
พี่สวยและน่าสนใจกว่าน้องอีกแฮะ