“ ปล่อยผู้หญิงไปซะ ” เจ้าของไนท์คลับยื่นคำขาด แม้ว่าเขาจะไม่ชอบผู้หญิงที่หาเงินด้วยวิธีนี้แต่เขาก็ไม่ใจร้ายขนาดที่จะไม่ยื่นมือเข้าช่วย อีกอย่างถ้าหากว่ามีคนมาตายในร้านมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี
“ ถ้าอยากให้กูปล่อยก็หลีกทางไปสิวะ ” ท่าทีของชายคนดังกล่าวแตกต่างจากในตอนแรกโดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าจะมีตัวประกันอยู่ในมือแต่เขาก็ยังไม่วางใจอยู่ดี การ์ดนับสิบคนที่มีอาวุธครบหลีกทางตามคำสั่งของผู้เป็นนาย ชายคนนั้นเล็งปืนซ้ายขวาจนเดินไปถึงทางออกด้านหลังของไนท์คลับโดยมีญาดาเป็นตัวประกันแต่แทนที่ชายคนดังกล่าวจะรีบหนีไปกลับหันกระบอกปืนไปที่กลางหน้าอกของอีกฝ่าย
ปั่ง!!!
ร่างใหญ่ค่อยๆล่วงลงสู่พื้นเพราะกระสุนทะลุตรงกลางอกได้พอดิบพอดี ญาดาเห็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญเต็มสองตา ในชีวิตของญาดาไม่เคยได้กลิ่นเขม่าปืนจริงๆมาก่อนนาทีที่กระสุนเข้าไปเจาะที่ขั้วหัวใจหัวใจของญาดาก็แทบจะหยุดเต้นไปด้วยก่อนที่สุดท้ายความตกใจกลัวจะทำให้ญาดาหมดสติ
“ เอาไงดีครับ ”
หลังจากที่การ์ดคนหนึ่งเข้าไปดูอาการเมื่อเห็นว่าหญิงสาวแค่เป็นลมหมดสติก็หันไปรายงานคนเป็นนาย เมื่อครู่ตอนที่เสี่ยใหญ่คนดังกล่าวเตรียมจะยิงเพลิงก็ใช้ความไวที่เหนือกว่าเหนี่ยวไกปืนไปกลางอกหนึ่งนัดจนทำให้เสี่ยคนนั้นหมดลมหายไปทันที
“ พาเข้าไปข้างใน เดี๋ยว ”
ในระหว่างที่การ์ดคนหนึ่งกำลังจะเข้าไปอุ้มญาดาเพลิงก็เปลี่ยนใจกระทันหัน
“ ไปจัดการข้างในเถอะผู้หญิงคนนี้ฉันจัดการเอง ”
การ์ดทำตามคำสั่งของเพลิงทันที เพลิงมองไปยังร่างบางของญาดาที่ยังหมดสติอยู่ ใบหน้าขาวใสและสวยธรรมชาติของญาดาทำให้เพลิงเผลอจ้องอยู่เป็นนาทีก่อนจะเข้าไปอุ้มญาดาแล้วพาไปที่ห้องทำงานของเขา
ญาดานอนหมดสตินานเกินครึ่งชั่วโมงกว่าที่เธอจะรู้สึกตัว หลังจากที่สายตาโฟกัสภาพตรงหน้าชัดเจนญาดาก็รีบลุกขึ้น
“ ฟื้นสักทีนะ ”
เพลิงที่กำลังนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะเห็นว่าญาดาลืมตาขึ้นมาก็เอ่ยถามพลางดูถูกญาดาในใจ
ก็แค่เสียงปืนกับเลือดนิดๆหน่อยๆทำมาเป็นสำออย
“ นี่ที่นี่ไหนคะ ”
เพราะพึ่งจะผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาหมาดๆญาดาจึงถามอีกฝ่ายด้วยความหวาดระแวงภาพที่เพลิงยิงผู้ชายคนนั้นล้มลงต่อหน้าต่อตายังทำให้ญาดาตกใจมาจนถึงตอนนี้
“ คุณยังอยู่ที่ไนต์คลับของผมและที่นี่ก็คือห้องทำงานของผม ”
เพลิงตอบโดยที่ไม่ได้ใส่ใจญาดา ปากพูดแต่สายตายังสนใจเอกสารที่อยู่ตรงหน้า
“ ห้องทำงาน ”
ญาดาทวนคำพูดของเพลิงดวงตาเรียวรีสำรวจสิ่งของที่อยู่ภายในห้อง แม้ตรงที่เพลิงนั่งอยู่จะใช้เป็นโต๊ะทำงานได้แต่เตียงขนาดใหญ่ที่อยู่ถัดไปจากด้านหลังของโต๊ะก็ชวนให้ญาดาระแวงไม่น้อย กระจกบานใหญ่ๆนั่นเขาเอาไว้ทำอะไรถ้าไม่ใช่เอาไว้สะท้อนตัวเองเวลาที่…….
แค่คิดญาดาก็นึกขยะแขยงแล้ว
ถึงแม้เพลิงจะเป็นคนที่ช่วยชีวิตญาดาเอาไว้แต่สิ่งที่ญาดาเห็นมันก็ไม่ได้ทำให้เพลิงดูเป็นคนดีไปกว่าผู้ชายที่จับเธอเป็นตัวประกันแล้วยิ่งสายตาที่ดูไม่ได้มีความเป็นมิตรบวกกับบรรยากาศภายในห้องที่เหมือนจะเตรียมพร้อมทุกอย่างเลยทำให้เพลิงไม่น่าไว้ใจ
“ คุณต้องการอะไรจากฉัน ”
ญาดาตัดสินใจถามออกไปตรงๆในตอนนั้นเพลิงก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เจ้าของร่างสูงในชุดสูทสีเพลิงสาวเท้าเข้าไปหาญาดาทีละก้าวอย่างช้าๆและเมื่อไปหยุดอยู่ตรงหน้าร่างหนาก็โน้มลงไปใกล้หวังจะปั่นให้ญาดากลัว แขนข้างหนึ่งค้ำยันด้านหลังของโซฟาเฉียดใบหน้าญาดาไปเพียงเล็กน้อยขณะเดียวกันใบหน้าของทั้งคู่ก็ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ
“ แล้วคิดว่าคนอย่างผมต้องการอะไรจากผู้หญิงอย่างคุณ ”
ดวงตาคมคายไล่มองญาดาอย่างจาบจ้วงตั้งแต่ช่วงใบหน้าต่ำลงไปเรื่อยๆทำเอาเจ้าของร่างบางนั่งสั่นไปทั้งตัว แม้ว่าญาดาไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาแต่ญาดาก็ใสซื่อและอ่อนต่อเรื่องพวกนี้เกินไปตรงกันข้ามกับเพลิงถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ชายประเภทเดียวกับรามสูรหรือเอเดนแต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบเรื่องพวกนี้ หรือถ้าจะพูดให้ถูก เพลิงก็เปรียบเหมือนเสือซ่อนเล็บที่รอขย้ำเฉพาะเหยื่ออันโอชะเท่านั้น
และในตอนนั้นอยู่ๆการ์ดคนหนึ่งก็เปิดประตูเข้ามาด้วยความเคยชินเลยทันได้เห็นภาพตอนที่เพลิงยืนคร่อมญาดาอยู่
“ ขอโทษครับคุณเพลิง ”
คนที่เข้ามาเห็นภาพล่อแหลมก็รับหันหลังไปเพราะกลัวความผิด
“ มีอะไร ”
เพลิงยันร่างออกมาจากญาดาทันทีเขาขยับเสื้อตัวเองเล็กน้อยก่อนจะหันไปถามคนของตน
“ ด้านล่างจัดการเรียบร้อยหมดแล้วครับ ”
การ์ดคนนั้นค่อยๆหันกลับมาแล้วกล่าวรีบรายงานสิ่งที่ได้รับมอบหมายและคำว่า เรียบร้อย นอกจากจะหมายถึงโต๊ะเก้าอี้ เศษแก้วที่กระจัดการจายอยู่ตามพื้นจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ย่อมหมายรวมถึงศพของชายคนนั้นด้วย
“ รู้แล้ว”
ได้ยินดังนี้การ์ดคนดังกล่าวก็โน้มศรีษะลงแต่ก่อนจะออกไปจากห้องยังแอบชำเลืองไปที่ญาดาพลางนึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย ปกติเพลิงไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนขึ้นมาบนห้องที่เป็นส่วนตัวจึงถือได้ว่าญาดาเป็นผู้หญิงคนแรก
“ บ้านอยู่ที่ไหนเดี๋ยวไปส่ง ”
เพลิงเอ่ยขึ้นหลังจากการ์ดคนนั้นออกไปแล้ว เหตุการณ์เมื่อครู่เพลิงแค่ต้องการจะแกล้งให้ญาดากลัวไม่ได้คิดจะทำอะไร ญาดาเป็นผู้หญิงที่จืดชืดเกินไปแล้วยิ่งเพลิงเข้าใจว่าญาดาเป็นผู้หญิงที่เอาตัวเข้าแลกเงิน เพลิงก็ยิ่งไม่อยากยุ่งเกี่ยว
“ ไม่เป็นไรค่ะฉันกลับเองได้ ”
ต่อให้สุดท้ายแล้วเพลิงจะไม่ได้ทำอะไรแต่ญาดาก็ไม่ไว้ใจจะให้ผู้ชายแปลกหน้าไปส่งที่บ้านยิ่งเป็นยามวิกาลเช่นนี้ยิ่งไม่เหมาะ อีกอย่างตอนนี้ญาดาอยากตามหาน้องสาวให้เจอก่อน
“ ตามใจแล้วกัน ”
เพลิงไม่คิดจะเซ้าซี้เดินไปเปิดประตูให้ญาดาทันที ใจหนึ่งญาดาก็นึกอยากขอบคุณเรื่องที่เพลิงช่วยชีวิตเธอเอาไว้แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดมันออกไป ทั้งสองคนหันหลังให้กันโดยที่ไม่มีใครประทับใจใคร ฝ่ายเพลิงก็คิดว่าญาดาเป็นผู้หญิงที่ยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวเพื่อแลกกับค่าเทอมหรือสิ่งของที่อยากได้ ส่วนญาดาเองก็คิดว่าเพลิงเป็นผู้ชายที่อันตรายเกินไปไม่ควรจะอยู่ใกล้โดยที่ญาดาไม่เคยล่วงรู้เลยว่าโชคชะตากำลังจะเล่นตลกกับเธออยู่