“ มึงอย่าปฏิเสธกุดีกว่ารับรองว่าผู้หญิงที่กุหามาให้คราวนี้เด็ดสุดๆ เด็ดจนมึงลืมไม่ลงเลยล่ะ ”
เอเดนทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แน่นอนว่าหนุ่มเจ้าสำราญเช่นเขาย่อมรู้จักผู้หญิงมากมายและผู้หญิงที่เอเดนคิดจะผูกโบว์แดงเป็นของขวัญให้เพลิงคราวนี้เขาก็เคยพาขึ้นเตียงมาพิสูจน์ลีลามาแล้วเขาจึงมั่นใจว่าของขวัญชิ้นพิเศษชิ้นนี้จะต้องถูกใจเพื่อนอย่างแน่นอน
“ เอาๆไปเหอะหมู่นี้มึงยุ่งจนไม่มีเวลาปล่อยน้ำไม่ใช่หรือไงวะ ”
รามสูรเห็นว่าความคิดของเอเดนเข้าท่าก็รีบโน้มน้าวเพลิง
“ อยากทำอะไรก็ทำมีเรื่องจะคุยแค่นี้ใช่ไหมงั้นก็กุกลับนะ ”
เพลิงไม่ได้คิดจะรอฟังคำตอบเขาเดินออกมาทันที พอมองดูเวลาถึงได้รู้ว่าเสียเวลาพอสมควร เสียงกดรีโมทดังขึ้นร่างสูงเข้าไปนั่งฝั่งคนขับของรถยนต์หรูค่ายหนึ่ง เพลิงไม่เหมือนรามสูรเขาไม่มีคนคนขับรถให้ เพลิงใช้เวลาไม่นานมากเขาก็มาถึงไนท์คลับแห่งหนึ่ง
Fire Night Club ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจของกรุงเทพสถานความบันเทิงที่มีระดับและได้รับความนิยมจากนักท่องราตรีเป็นอย่างมากเติบโตภายในเวลาไม่ถึงปีภายใต้การบริหารของเขา เพลิง…..เริ่มจับธุรกิจด้านนี้ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 20 ปี โดยครอบครัวของเพลิงเป็นคนปูทางให้ทั้งหมด เพลิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล อนันท์ไพศาล บิดามารดาทำธุรกิจแบบเดียวกันและปักหลักอยู่ที่ประเทศจีนส่วนธุรกิจที่นี่ก็มอบหมายให้เพลิงเป็นคนดูแลแต่เพียงผู้เดียว
ทันทีที่เพลิงก้าวลงมาจากรถการ์ดคนหนึ่งก็ทำหน้าที่ขับรถเข้าไปจอดในพื้นที่ส่วนตัว
“ มันมาหรือยัง ”
ยังไม่ทันจะเข้าไปข้างในเพลิงก็เอ่ยถามการ์ดขึ้น เนื่องจากเมื่อคืนนี้มีชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นผู้มีอิทธิพลอีกทั้งยังกร่างจนมีเรื่องกับลูกค้าคนอื่นจนสร้างความวุ่นวายและความเสียหายให้กับไนท์คลับหากเมื่อคืนเพลิงไม่เข้ามาจัดการด้วยตนเองเรื่องคงจะไม่จบง่ายๆ
“ มาได้สักพักแล้วครับผมให้คนของเราจับตาดูอยู่ ”
หัวหน้าการ์ดรีบรายงานต่อผู้เป็นนายแล้วก็เป็นอย่างที่เพลิงคาดการณ์เอาไว้ทุกอย่าง ชายคนนั้นกลับมาที่นี่อีกแต่จะมาเที่ยวหรือมาหาเรื่อง มันก็อีกเรื่องหนึ่ง
ร่างสูงในชุดสูทสีเพลิงก้าวเท้ายาวๆเข้าไปด้านในโดยมีการ์ดจำนวนหนึ่งเดินตามหลังไปติดๆ สีหน้าของเขานิ่งและน่าเกรงขามแต่เพราะรูปร่างหน้าตาที่จัดอยู่ในขั้นหล่อเหลาทำให้ความน่าเกรงขามสะดุดแก่ทุกสายตา ดวงตาคมคายมองเห็ยชายคนดังกล่าวทันที คืนนี้ชายคนนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย จากจุดที่เพลิงยืนอยู่เห็นผู้หญิงแค่ด้านหลังแต่ด้วยสายตาอันหลักแหลมก็เลยพอเดาได้ว่าผู้หญิงน่าจะยังเรียนหนังสืออยู่
“ จับตาดูมันไว้ให้ดี ”
เพลิงหันไปสั่งหัวหน้าการ์ดก่อนจะตรงมาที่ชั้นสองบริเวณชั้นสองทั้งหมดเป็นพื้นที่วีไอพีที่มีความส่วนตัวมากขึ้น ลูกค้าที่จะสามารถจองห้องได้จะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรก่อนทุกครั้ง
ภายในห้องทำงาน เพลิงกำลังตรวจสอบบัญชีต่างๆหากไม่ใช่เพราะถูกรามสูรเรียกประชุมเป็นการด่วนป่านนี้เขาคงจะทำเสร็จไปนานแล้วแต่นั่งทำงานยังไม่ทันจะเสร็จคนของเขาก็ขึ้นมารายงาน
“ คุณเพลิงครับ ” ไม่ต้องเสียเวลารายงานเพลิงก็รู้ได้ทันทีว่าข้างล่างเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มวางปากกาในมือรีบร้อนออกไปจากห้องแต่ไม่ทันที่เขาจะไปถึงเสียงปืนก็ดังขึ้นกลางไนท์คลับ
ปั่ง!!!
กรี๊ดดด!!!
ทุกคนพากันแตกตื่นวิ่งหนีกระสุนปืนกันโกลาหล เก้าอี้ล้มละเนระนาดขวดเหล้าและแก้วนับจำนวนไม่ได้แตกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นเพราะทุกคนต่างก็หนีตายเอาตัวรอดเพราะในขณะที่พวกเขากำลังสนุกและเคลิบเคลิ้มกับบรรยากาศอยู่ๆก็มีคนมีเรื่องกันและสาเหตุหนึ่งก็น่าจะมาจากตัวผู้หญิง
คนของเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ทันทีทุกคนออกไปจากไนท์คลับได้อย่างปลอดภัย
ภายในไนท์คลับ….ชายที่อ้างตัวว่าเป็นผู้มีอิทธิพลยกปืนขึ้นข่มขู่อย่างฮึกเหิม ตอนนี้ภายในไนต์คลับหรูหราที่เคยครึกครื้นไม่เหลือลูกค้าแม้สักคนนอกเสียจากหญิงสาวผู้โชคร้ายที่ถูกจับเป็นตัวประกัน
“ อย่าทำอะไรโง่ๆดีกว่า ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาใบหน้าเคร่งขรึมดูน่าเกรงขาม เจ้าของร่างสูงในสูทสีเพลิงก้าวไปข้างหน้าราวกับว่าไม่ได้เกรงกลัวกระบอกปืนที่เล็งมายังศรีษะแม้แต่น้อยและอีกเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเพลิงก็จะประชิดตัวชายคนนั้นได้ทว่า….ข้างกายของอีกฝ่ายดันมีผู้หญิงตัวปัญหาอยู่
“ มึงไม่รู้เหรอว่ากูเป็นใครกูขอเตือนมึงไว้ก่อนนะถ้าไม่อยากให้ที่นี่ถูกปิดก็ก้มลงกราบตีนขอโทษกูซะ ” ชายที่อ้างตัวเป็นใหญ่ยิ้มร้ายไม่ได้นึกเกรงกลัวคนของเพลิงแต่อย่างใด แม้ว่าเมื่อคืนเขาจะเสียท่าอับอายกลับไปแต่วันนี้เขาไม่ได้มาคนเดียวยังพาพรรคพวกพร้อมจะถล่มที่นี่ให้ยับเป็นหน้ากลองทุกเมื่อ กระบอกปืนที่เล็งไปหาเพลิงทีแรกเปลี่ยนเป็นเล็งเข้าหาศรีษะของหญิงสาวผู้โชคร้ายแทน ร่างบางยืนตัวสั่นเทาหน้าซีดด้วยความหวาดกลัวแต่เธอก็ไม่ได้ทำให้เพลิงรู้สึกสงสารแม้แต่น้อยตรงกันข้ามเพลิงกลับนึกสมน้ำหน้ามากกว่า
เพราะมีผู้หญิงที่ชอบใช้ร่างกายแลกกับเงินแบบนี้สังคมถึงได้วุ่นวาย
ถึงแม้จะถูกอีกฝ่ายข่มขู่แต่เพลิงก็ไม่ได้มีโทสะโต้ตอบ ความนิ่งของเขาเปรียบเสมือนน้ำทะเลยามค่ำคืนแต่ทว่าในความนิ่งงันน้ำทะเลกำลังก่อตัวเป็นคลื่นลูกใหญ่และพร้อมจะซัดเข้าหาฝั่งทุกเมื่อ
“ วันนี้คงจะเตรียมตัวมาดีสินะ ” เพลิงสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่ามีลูกค้าหลายโต๊ะที่ทำตัวน่าสงสัย โดยธรรมชาติของคนที่มาหาความสุขใส่ตัวควรจะจดจ่ออยู่กับสุราหรือไม่ก็สาวสวยสักคนแต่คนเพวกนั้นกลับไม่แตะอะไรสักอย่างสายตาเหมือนพยายามสอดส่องหาอะไรตลอดเวลา คนที่ช่างสังเกตและมีไหวพริบเช่นเขาจึงหาทางรับมือไม้หมดแล้ว
“ อยากรู้ก็หันไปดูเองสิ ” จบคำชายคนดังกล่าวก็ส่งสัญญาณให้พวกของตนเปิดเผยตัวออกมาทว่า….หลังจากที่เขาส่งสัญญาณกลับไม่ปรากฎกลุ่มคนดังกล่าวทำให้เขาเริ่มจะรู้ตัว
“ กำลังมองหาคนพวกนี้อยู่เหรอ ” คราวนี้เป็นตาของเพลิงบ้างที่ส่งสัญญาณให้คนของเขาทำตามแผนที่วางไว้ ชายฉกรรรจ์ไม่ต่ำกว่าสิบคนถูกมัดมือไพล่หลังมีปืนจ่ออยู่ที่ีศีรษะ
ชายกร่างกัดกรามแน่นด้วยความเจ็บใจ เพลิง….ไม่ใช่คนที่ใครจะจัดการได้ง่ายๆอย่างที่เขาเล่าลือแต่รอยยิ้มร้ายก็ปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าคมคายอีกครั้ง ก่อนที่ความคิดชั่วร้ายจะผุดชึ้นในหัว หญิงสาวสวยรูปร่างอรชรที่ถูกเขาจับไว้เป็นตัวประกันจะต้องมีประโยชน์กับเขาสิ
“ เอาเลยสิถ้าใครกล้าขยับแม้แต่ก้าวเดียวกุยิงนังนี่แน่ ” ไม่ใช่แค่คำขู่ปากกระบอกปืนกดลงไปที่ข้างศรีษะของหญิงสาว เธอหลับตาลงแน่นด้วยความหวาดกลัว
“ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะปล่อยฉันไปเถอะ ” หญิงสาวผู้โชคร้ายคือ ญาดา ญาดาพยายามตั้งสติและร้องขอชีวิต ทำไมฉันถึงได้โชคร้ายแบบนี้ ความจริงญาดาไม่ใช่ผู้หญิงที่ชายคนดังกล่าวควงมาเที่ยวด้วยคืนนี้ ญาดาแค่มาตามน้องสาวของเธอกลับบ้านแต่พอมาถึงญาดาก็ถูกน้องสาวแท้ๆหลอกให้นั่งเป็นเพื่อนและพอสบโอกาสน้องสาวของญาดาก็หนีกลับไปก่อนทิ้งให้ญาดานั่งอยู่กับผู้ชายแปลกหน้า ญาดาเลยกลายเป็นตัวแทนของน้องสาวตัวเองโดยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
“ ให้ปล่อยงั้นหรอรู้ไหมว่าน้องสาวตัวดีของเธอเชิ่ดเงินฉันไปเท่าไหร่ ” คำข่มขู่มีเพียงญาดาเท่านั้นที่ได้ยิน ปากกระปอกปืนที่กดลงไปกับศรีษะทำให้ญาดาไม่กล้าพูดอะไรอีกในใจก็กำลังเป็นทุกข์เพราะญาดาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าน้องสาวเธอจะมีพฤติกรรมแบบนี้ หนำซ้ำยังหนีเอาตัวรอดให้เธอเป็นคนรับผิดชอบแทน
“ ปล่อยผู้หญิงไปซะ ”