ตอนที่1/5
เถ้าแก่เยี่ยเล่าว่าหลังจากที่ท่านตานำสมุนไพรมาขายให้ท่าน ไม่นานก็เกิดสงครามทางชายแดนของแคว้นเรา
ทำให้สมุนไพรห้ามเลือดเป็นที่ต้องการของกองทัพ ทางราชสำนักประกาศตั้งราคาไว้สูงมาก
แล้วร้านเถ้าแก่เยี่ยมีเยอะที่สุด เพราะร้านอื่นก็ไม่มีใครรับซื้อ ถึงมีก็ไม่เยอะเหมือนร้านเถ้าแก่
ทำให้ร้านขายยาตั้งอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ต้องขอบคุณท่านตาและถึงว่าท่านตาเป็นผู้มีพระคุณของท่าน
“หวังลิ่วเจ้านะ เดือดร้อนขนาดนั้นทำไมไม่มาขอความช่วยเหลือจากข้าบ้าง เจ้าจะเป็นคนขี้เกรงใจจนทำให้คนรอบตัวลำบากไปหมดแล้ว เจ้าเห็นข้าเป็นคนยังไง”
“ใช่แล้วขอรับ ที่ผ่านมาข้าทำให้ครอบครัวลำบากจริงๆ โดยเฉพาะหลานสาวคนนี้”เหมือนท่านตาจะเสียใจที่โดนต่อว่า
“ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป ต่อไปเจ้ามาเป็นน้องข้า เราจะสาบานเป็นพี่น้องกัน
เจ้าไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น ที่ข้ามีทุกวันนี้เพราะสมุนไพรที่เจ้ามาขายให้ข้า ตอนนั้นชาวบ้านคนอื่นๆไม่ไปเก็บกันเพราะราคามันถูกมาก
แล้วหลังๆมาก็เริ่มไม่มีให้เห็นเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากขึ้นเรื่อย ๆ”
เหมือนท่านปู่คนใหม่จะบังคับให้ท่านตารับการคารวะเป็นน้องบุญธรรมให้ได้
ท่านตาก็เลยปล่อยเลยตามเลย ท่านตาก็รู้ว่าท่านปู่เยี่ยป็นคนดี ที่ผ่านก็วางตัวรักษาระยะห่างมาตลอด เพราะความเกรงใจมากกว่า
หลังจากที่ได้ทราบราคาโสม พวกเราสองตาหลานตกใจไม่หายกับจำนวนเงิน 30,000 ตำลึงทองเลย
จนท่านปู่คนใหม่ยกน้ำชาให้พวกเราสองคน ข้าได้เก็บเอาไว้ 10,000 ตำลึงทอง ที่เหลือให้ท่านตาเก็บไว้
เพราะที่ช่องของข้าก็มีอยู่แล้วส่วนหนึ่ง ท่านตาขอให้ท่านปู่เก็บเป็นความลับเรื่องที่ข้านำสมุนไพรมาขายให้ ท่านปู่รับปากว่าจะไม่บอกใคร
อีกอย่างตอนนี้ข้าก็เป็นหลานสาวเขาด้วย ก่อนกลับท่านปู่เยี่ยเลี้ยงข้าวพวกเรา และยังสั่งกลับบ้านให้เราอีก 1 ชุด
จากนั้นเราทั้งคู่ก็ขอตัวกลับ ท่านตาและข้าไปยังร้านขายกระเบื้อง เจ้าของร้านใจดีมาก ไม่สนใจด้วยว่าเสื้อผ้าของเราสองคนจะเก่าขนาดไหน
ท่านตาเป็นคนไปติดต่อว่าจะซื้อมากน้อยแค่ไหน ข้าเองก็ไม่รู้ แต่ว่าถ้าไม่เปลี่บน หน้าหนาวพวกเราจะหนาวแข็งตายแน่ๆ ทางร้านจะไปส่งของให้เราพรุ่งนี้
แต่จะบวกค่าขนส่งเพิ่ม ถ้าแตกหักระวังขนส่งทางร้านก็จะรับผิดชอบด้วย ข้าและท่านตาไม่มีปัญหา เอาตั๋วเงินให้เถ้าแก่แล้วเราได้ใบตราประทับว่าจ่ายเงินแล้ว
ข้าให้ท่านตาพาไปยังร้านเสื้อผ้า บ้านเราตอนนี้ใส่เสื้อผ้าที่มีแต่รอยปะ วันนี้มีเงินแล้ว ตั้งใจจะซื้อชุดให้ท่านตาท่านยาย และตัวข้าเอง
ร้านนี้มีผ้าหลากหลาย เถ้าแก่เนี้ยนางยิ้มแย้มต้อนรับข้าด้วยตัวเอง ส่วนท่านตาอยู่ข้างนอกรอ
ข้าเลือกชุดให้ ข้าเอามาคนละ 3 ชุด เป็นชุดสำเร็จรูป ซักแล้วใส่ได้เลย เนื้อผ้าธรรมดาสำหรับชาวบ้านอย่างเรา
เถ้าแก่เนี้ยบอกว่าถ้าจะมาซื้อคราวหน้าให้มาที่ร้านนางอีก นางจะลดราคาพิเศษให้ข้า
เมื่อจ่ายเงินประทับตราเรียบร้อย ข้าได้ใบจ่ายเงินมาเก็บไว้ที่ตัวเอง และบอกเถ้าแก่เนี้ยว่าเดี๋ยวจะมีมาคนมาเอาของ ข้าขอฝากไว้ในร้านก่อน นางบอกว่าไม่มีปัญหา
ข้าออกจากร้านจะไปซื้ออุปกรณ์ในห้องครัว ระหว่างนั้นข้าให้ท่านตาไปหารถม้าเพื่อจะบรรทุกของกลับบ้าน
ดูจากสภาพของในบ้านแล้ว ควรเปลี่ยนใหม่หมดเลย ไหนๆซื้อมาแล้วควรเอาอย่างดี จะใช้คุ้มค่ากับราคา
เพราะแต่ละอย่างสภาพบิดเบี้ยวหมดอายุการใช้งานแล้ว หม้อ ถ้วย จาน ชาม ตะเกียบ และชุดกาน้ำชาด้วย ร้านที่ข้าเข้าไปซื้อของ หลงจู๊มองข้าด้วยสายตาแปลกๆ
อาจเป็นเพราะเสื้อผ้าที่ข้าใส่ หรือรอยแผลเป็นที่หน้าข้า ช่างเถอะข้าไม่สน มีเงินจ่ายของพวกให้เจ้าละกัน
คราวหน้าร้านนี้จะไม่ได้เงินจากข้าอีกแล้ว ไม่มาบริการลูกค้า ยังไม่พอใช้สายตาดูถูกลูกค้าอีก เฮ้อ…ไม่ว่าที่ไหนๆคนจนจะโดนดูถูกตลอดสินะ
ในที่สุดท่านตาก็กลับมาพร้อมรถม้า ข้าจ่ายเงินเรียบร้อยท่านตาและพี่ชายท่านนั้นมาช่วยข้าขนของขึ้น
ข้ากับท่านตาจะแวะไปตลาดสดข้างๆ ให้พี่เจี่ยไฉ่ (มารู้ชื่อทีหลัง) ไปเอาผ้าที่ร้านเถ้าแก่เนี้ย พร้อมใบจ่ายเงินแล้ว
ตอนเย็นตลาดสดก็ยังคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ ข้าไปดูเครื่องปรุงก่อนอันดับแรก ตั้งใจว่าจะซื้อทุกอย่าง แล้ววันหลังจะเอาออกมาจากช่องนึกคิด
สิ่งที่ข้าต้องการ มีเกลือ 1 ชั่ง เม็ดถั่วเหลือง 1ชั่ง รวมทั้งเม็ดผักชีและเครื่องปรุงอื่นๆที่ใช้ในประกอบอาหาร ข้าเลือกเอาอย่างล่ะ 1 ชั่ง
มันหมูจะเอาไปทำแคบหมูและเอาน้ำมันมาผัดกับข้าว เอาสัก 2 จิน หมูสามชั้น 2 จิน กระดูกหมูที่เป็นส่วนซี่โครงอ่อน 2 จิน เนื้อหมูและเนื้อวัวอย่างล่ะ 2 จิน เอาไว้ทำเนื้อแดดเดียว
จากนั้นพี่เจี่ยไฉ่ก็กลับมารับพวกเรา ระหว่างทางก็มืดแล้ว ท่านตาบอกว่าดีแล้วจะได้ไม่เป็นที่สงสัย เพราะของที่เราเอามาเยอะมาก
สำหรับข้านะคิดว่า จะขอเอาชื่อท่านปู่เยี่ยมาใช้ ใครที่สงสัยพวกเราว่ามีเงินทองใช้จ่ายผิดปรกติ
ก็ขออ้างชื่อท่านปู่ เท่านี้ชาวบ้านก็จะรู้ว่าพวกเรามีกินมีใช้เพราะท่านปู่ได้ให้ความช่วยเหลือท่านตา
ไม่รู้ว่าท่านยายจะเป็นห่วงเราสองคนหรือเปล่านะ เพราะมืดมากแล้วพี่เจี่ยไฉ่มีตะเกียงน้ำมันสำรอง ทำให้การเดินทางค่อยๆไป
เมื่อมาถึงประตูบ้านท่านยายนั่งรอเราหน้าบ้านจริงๆด้วย มีตะเกียงสว่างเล็กๆวางอยู่ข้างๆ ชาวบ้านหลับกันหมดแล้ว
พี่เจี่ยไฉ่ช่วยท่านตายกของลง ข้าเอากับข้าวให้ท่านยายแต่มันเย็นมากแล้ว ท่านยายจะไปอุ่นให้ แต่ข้าบอกว่าพวกเราทานมาแล้ว ท่านยายก็ทานมาแล้วจึงเก็บไว้กินพรุ่งนี้
ตอนแรกท่านยายเห็นของบนรถแล้วตกใจมาก ท่านตาบอกว่าค่อยคุยกันในบ้าน ท่านตาจะเป็นคนบอกท่านยายสิน่ะ
ข้าและท่านตาตกลงกันว่าจะให้ค่าแรงพี่เจี่ยไฉ่ 1 ตำลึงเงิน เมื่อพี่เจี่ยไฉ่เห็นแล้ว บอกว่ามันเยอะไป แต่ท่านตาไม่ยอม เราใช้งานพี่เจี่ยไฉ่เลยเวลางานแล้ว เขาสมควรแล้วที่จะได้เท่านี้
พี่เจี่ยไฉ่ขอบคุณและบอกว่าวันหน้าถ้าต้องการจะลงไปในเมืองให้บอกเขาได้ จากนั้นก็ลากลับ
ท่านตาท่านยายเข้าห้องแล้ว ของที่ซื้อมาไม่เสียง่ายๆ เพราะที่นี่อากาศเย็นเกือบทั้งปี
“เล่อเล่อ ข้าเหนื่อยจังเลย”
ข้านึกถึงชุดนอน ชุดเครื่องนอน น้ำอุ่นอ่างอาบน้ำ เครื่องซักผ้าน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ทุกอย่างเหมือนทำงานอัตโนมัติ จากนั้นข้าก็นอนหลับสนิททั้งคืน
“ฝันดีนะเจ้าคะนายหญิง…..นางหญิงคงไม่รู้ ยิ่งเข้ามาอยู่ในที่นี่จะยิ่งแข็งแรงและผิวพรรณเปล่งปลั่งมากขึ้น”