ตอนที่ 1
สถานที่แห่งนั้นไกล มองไม่เห็นอะไร นอกจากความเงียบ ที่ช่าง สงบ และวังเวงยิ่งนัก เหมือนร่างนั้นทะเล่อทะล่าอยู่กลางความมืดที่ดายเดี่ยว และความหนาวเหน็บ ยะเยือกจนจับขั้วหัวใจ หมู่ดาวที่เคยระยิบพริบพราย อยู่เหนือขอบฟ้า สกาวแสงนั้น พลันหดหาย ความมืดแห่งราตรีกาล ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้ คือคำอุทานของผู้เผชิญเหตุการณ์ ฝีเท้าทั้งสองของเขากลับย่ำ ย่ำไปตาม พื้นทรายเม็ดละเอียด นึกถึงภาพของตัวเองอยู่อย่างโดดเดี่ยว ความมืดมิดเช่นนี้ ไม่อาจบ่งบอกได้ว่า บุรุษตรงหน้า สวมใส่เสื้อผ้าแบบไหน
เพราะถูกราตรี ทั้งเบื้องบนและข้างล่าง ขับจนมืดมิดไปหมด การเดินทางของเขา เหมือนเดินทางสู่ทิศทางมรณะ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?
อำนาจมนตราสะกดเขามาที่นี่ เบื้องหน้า คือความสงบราบเรียบของผืนน้ำ กว้างใหญ่ ที่ดูเวิ้งว้างไพศาล และข่มความน่ากลัวเอาไว้ ยิ่งกว่าน่ากลัวที่สุด เหมือนจะช๊อค เพราะทั้งความมืดมิดและน่ากลัวน่าสะพรึงที่สุดนั้น กลับมีบางสิ่งบางอย่างผุดโผล่มากจากที่ไกลๆ และกำลังมุ่งหน้ามา ราตรีแห่งท้องน้ำ ไม่ไกลจากนั้น กลับผุดร่างของวัตถุบางอย่าง ที่เคลื่อนไหวตัวมาอย่างช้า
พื้นผิวน้ำที่เรียบสงบ กลับแปรเปลี่ยนเป็นพลังคลื่นมหึมา ที่สะสมแรงพลัง ขับเคลื่อนขนาดมหึมา ท้องน้ำที่ว่าเริ่มกระจายเหมือนมีการขุ่นกวนอยู่ใต้ท้องน้ำ กระเพื่อมรุนแรง เป็นระลอกคลื่นขนาดใหญ่ กระแสน้ำนั้นหมุนวน คล้ายพายุลูกโต ที่กำลังจะถาโถม สู่ทิศทางเบื้องหน้า ร่างของเขาผงะแทบจะเซหงายหลัง กับสิ่งที่ปรากฏอยู่ เสียงที่ทำให้ ตกใจอย่างมากที่สุด แทบหัวใจจะหยุดเต้น
นั่นคือ เสียงคำรามแผดลั่น อันน่ากลัว ถึงขนาดขนพองสยองเกล้า อสุรสัตว์ดึกดำบรรพ์ตัวนั้น ที่อยู่ตรงหน้า คำรามพิโรธ ท่ามกลางความอนธกาลในยามนี้ ทุกเส้นขุมขนของร่างกาย ลุกตั้งชันโดยไม่รู้ตัว เขากำลังพบเจอกับสิ่งใดกันแน่
อสุรสัตว์เบื้องหน้า เหมือนขึ้งโกรธมานานนับพันปี เขายังมองเห็นคมเขี้ยวทั้งสองกับหงอนใหญ่สีแดง เกล็ดสีนิลตามลำตัวเหมือนเกล็ดปลา ยาวหกสิบถึงเจ็ดสิบเมตร ความมืดมิดเช่นนี้ เริ่มมีแสงจันทร์ทอแสงให้ประจักษ์ เขายังมองเห็นลูกตาของสัตว์ประหลาด มีสีแดงเท่าไข่ห่าน ทั้งสองเบ้าตาเหมือนมีประกายไฟลุกโชนออกมา จนกระทั่งเขาสามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้ชิด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย ที่แทบทำให้หัวใจหยุดเต้นในแทบจะทันที
ร่างที่ชูหัว นั้นสูงเกือบห้าเมตร นอกจากนั้น มันยังชูร่อน ส่ายไปมา พร้อมด้วยน้ำเสียงคำรามกึกก้องลั่นฟ้า ราวกับพญามัจจุราช เขาเห็นได้ชัดถึงลักษณะของมันที่เป็นสีดำสนิท งูยักษ์ งูขนาดใหญ่เท่าถังน้ำมัน ในความเป็นจริง บุรุษผู้นั้นถอยกราดร่นตัวหนีอย่างตื่นกลัว พร้อมกับดวงตาที่เบิกโพลง พร้อมกับสติที่ใกล้จะสิ้นสัมปชัญญะของเขาในบัดดลนั่นเอง
ธกฤต สะดุ้งตื่น เขาฝันร้ายอีกเช่นเคย มองกวาดตาไปรอบตัว เขายังอยู่บนที่นอน ในห้องคอนโดหรูกลางกรุง ขนาดว่าแอร์ที่เปิดทิ้งไว้ยังเย็นฉ่ำ แต่ทว่าเหงื่อเม็ดโป้งกลับแตกซิก ผุดซึมเต็มหน้าผาก และรินไหลลงข้างแก้ม ไม่ใช่แค่เพิ่งครั้งแรก ที่เขาฝันเป็นตุเป็นตะ ในเรื่องทำนองนี้ แต่ทว่านับครั้งไม่ถ้วน ที่เขาเกิดมาลืมตาดูในโลกใบนี้ ที่บ้านของเขา จำได้ว่า สิบครั้ง และที่คอนโดหรู ที่เขาเพิ่งได้กรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของประมาณสามครั้ง
เหมือนสิ่งลี้ลับมาจากมิติภพภูมิ เกินที่มนุษย์จะหยั่งรู้ได้ กำลังกวักมือ กำลังดึงตัวเขา เข้าไปสู่วังวน และเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งธกฤตเกลียดพลังอำนาจลึกลับบางอย่าง ทำให้เขาอยากต่อต้าน มันทุกครั้ง เขาอยากเป็นเช่นคนปกติ ที่ไม่ต้องพบเจอกับสิ่งเหล่านี้ มือขาวค่อยๆเอื้อมกดสวิชต์บนหัวเตียง แต่ความสว่างก็ไม่ได้ ทำให้เขาหายสะพรึงกลัว กับความฝันที่น่าขุนลุกขนพอง ราวกับเกิดเรื่องจริง เมื่อตะกี้นี้
ทบทวนอีกครั้งในความฝัน ที่เพิ่งเกิดชั่วครู่ คงอีกนานที่จะสว่าง เขามิสามารถข่มตาให้หลับลงได้ ชั้นที่ 23 ของคอนโดหรู ภายในห้องสะอาด และใหม่เอี่ยม มีพื้นที่ใช้สอยสองร้อยเจ็ดสิบตารางเมตร ซึ่งถือว่า ไม่ได้เล็กเลย สำหรับหนุ่มโสดอย่างเขา
ธกฤตจบการศึกษาด้านสถาปัตยกรรม จากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง อันดับหนึ่งของประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่บารมี เส้นสายของบิดาเลย แต่มาจากความสามารถของเขาล้วนๆ พูดถึงห้องของเขา ที่สะอาดใหม่เอี่ยม คอนโดยุคใหม่ พื้นที่ใช้สอย ถูกจัดตกแต่งให้เข้ากัน สีของผนังห้องแมตช์ เข้ากันกับที่นอนผ้าปูและหมอน
ที่นอนตั้งอยู่ชิดมุมสุด ติดกับหน้าต่าง โคมไฟที่อยู่เหนือเตียงนอน ให้แสงเป็นสีนวลนุ่ม ทำให้สบายตา ไม่อึดอัด เมื่อยามเพ่ง กิจวัตรประจำวันบางครั้งเขาชอบอ่านหนังสือ ถ้าหากมีเวลา เช่นที่บ้านหลังเก่า ซึ่งจะมีห้องสมุดของบ้าน ภายในมีตู้หนังสือเก่าแก่ล้ำค่า ที่มีคุณค่าทางจิตใจ ไม่อาจประเมินตีราคาได้ ทั้งที่เป็นนวนิยาย และสารคดี ข้อมูลสำคัญต่างๆ ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นของบิดาซื้อเก็บสะสม
แต่ในห้องคอนโดแห่งใหม่ มีหนังสือเพียงสองสามเล่ม ที่เขาซื้อติดมือ มาจากร้านหนังสือในศูนย์การค้า มีแต่เพียงตู้หนังสือสีไม้โอ้ค ใหม่เอี่ยมขนาดกะทัดรัด วางชิดติดกับผนัง มุมห้องด้านขวา และเขาไม่ได้วางสิ่งใดขวาง ให้ดูเกะกะ
นี่คือห้องนอนของหนุ่มน้อย ที่เขาไม่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นเพิ่ม ที่ปลายเตียงของเขา มีชั้นทีวีจอแบนบางเฉียบ ติดยี่ห้อชื่อดัง กับกล่องวางซีดี และลำโพงคู่ตั้งขนาบกัน เครื่องเล่นวีดีโอ และเครื่องเสียงที่มาพร้อมกัน แบบเบ็ดเสร็จในวันเดียว
เขาสั่งซื้อ จากศูนย์การค้าใกล้บ้าน และมีบริการให้พนักงานขนส่ง นำมาส่งและติดตั้งในห้องของเขา สิบโมงเช้าที่เขาตื่นอีกครั้ง หลังจากที่เผลอหลับ นาทีชั่วโมงผ่านไปตั้งนาน ชายหนุ่มลุกขึ้นบิดขี้เกียจหนึ่งครั้ง ก่อนจะลงจากเตียง ที่นี่ไม่ใช่บ้านหลังเก่า ที่เขามักจะตื่นได้ด้วยตัวเอง เพราะมีแม่บ้านทำงานอยู่ในครัวเสียงปัดกวาดถูบ้านของคนใช้ เสียงพูดคุยกันตามประสา นี่คือบรรยากาศในบ้าน
แต่ธกฤตเลือกเองที่จะเข้ามาอยู่ในคอนโดนี้ หลังจากที่ซื้อแล้ว เขารีบย้ายข้าวของมาอยู่ด้วยซ้ำ มีเสียงทัดทานจากมารดาที่รักยิ่งของเขา ไม่ต้องการให้ลูกชายคนโตแยกไปจากน้องๆ แต่ธกฤตตัดสินใจเด็ดเดี่ยว เขารู้ว่าเป็นเพราะอะไร อ้างด้วยเหตุผลว่า เขาโตพอเป็นผู้ใหญ่ที่จะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว
“ผมโตเป็นผู้ใหญ่พอแล้วนะครับแม่ อีกทั้งงานของผมบางทีต้องไปต่างจังหวัด และกลับไม่เป็นเวลา ผมไม่อยากรบกวนใคร เพื่อนของผมก็มีบ้าง ที่แวะมาหา ถึงที่นี่”
ธกฤตพูดให้รู้ว่าเขามีเหตุผล ทำให้นางละไมพูดจำยอมนิ่งรับฟังและยอมรับในที่สุด สิ่งที่บุตรชายขอร้อง ถึงจะเป็นคนตามใจลูก แต่ก็เพราะรักเพราะห่วง ธกฤตเป็นลูกชายคนแรกที่นางอุ้มเบ่งท้องคลอดออกมาก่อนน้อง จิตใจของนางจึงอยู่ที่ลูกชายคนโตมากกว่าใคร แต่เมื่อรับฟังความคิดของเขานางจึงพยักหน้าเข้าใจ
“แต่ก็อย่าลืมแวะเข้าบ้านบ้างนะลูก แม่คิดถึง” ท้ายที่สุดนางละไมกล่าวคำนี้ในวันที่ลูกชายนำข้าวของส่วนตัวเพื่อจะย้ายไปอยู่ที่คอนโดแห่งใหม่
“ได้ครับแม่ ถ้าผมเสร็จงานใหญ่ และผมมีเวลาพอ” คำตอบของลูกชายก็ทำให้นางละไมยิ้มออกมา
ธกฤตหวนมองภาพนั้นที่เขาจากมา ในวันที่เขาย้ายข้าวของออกจากบ้านใส่รถยนต์ส่วนตัว ที่เขาได้ครอบครองจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง หลังจากทำงานและเรียนจบ งานของเขาเกี่ยวกับแปลนแบบก่อสร้าง ซึ่งแล้วแต่ไซต์งาน สถานที่ ที่บริษัทกำหนด มีทั้งต่างจังหวัดและกรุงเทพ ชีวิตของเขาเหมือนการผจญภัยในตัวด้วย อีกอย่างที่เขาต้องการหลีกหนี “สิ่งลี้ลับ”ที่เกาะแกะวนอยู่รอบตัวเขา สิ่งที่เขาบอกคนอื่นได้ แต่คนเหล่านั้นมักไม่เชื่อ “พ่อปู่” ซึ่งไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นอมนุษย์ มีลักษณะไม่ต่างไปจากความฝันที่เขาเคยพบเจอ ทุกวันนี้ธกฤตถูกหลอน จนเขาหายหลอนไปแล้ว เขาพบเจอสิ่งน่ากลัว ที่มนุษย์คนหนึ่งหากได้เจอคงจะช๊อคไปเลยทันที แต่เขาผ่านมาได้ เมื่อเจ้าของเสียงจากสถานที่ลึกลับ พลันร่างที่ปรากฏนั้นก็เช่นกัน เขาชอบให้พ่อปู่ปรากฏกายในร่างอสรพิษธรรมดามากกว่าร่างเดิมที่เป็นเชื้อสายของบาดาล
“เจ้ามีไอกลิ่นแบบเดียวกับข้า” นี่คือครั้งแรกที่ได้เผชิญหน้าพบกัน เมื่อได้ฟังคำตอบ ธกฤตแค่พยักหน้า เหตุใดที่คนในบ้านไม่เคยเห็นพ่อปู่ ทั้งๆที่อาศัยอยู่ใกล้กัน ที่ ที่พ่อปู่บอกว่าสถิตอยู่คือ สระโบราณเล็ก มีส่วนเชื่อมต่อไปยังลำคลองสายเก่า ที่ปัจจุบันไม่ได้ใสสะอาดดังเดิม และสถานที่อยู่ใหม่ของเขาเช่นกัน เขาหนีพ่อปู่ หวังว่าพ่อปู่จะไม่มารบกวนเขาอีก
“เอ๊ะ” เขาฉุกคิดในความฝัน หรือว่าเมื่อคืนนี้ พ่อปู่มาหาเขาอีก ดลให้เป็นนิมิต อาการของธกฤตชักหงุดหงิดโมโหขึ้นบ้าง โดยเฉพาะพญานาคตระกูลสีดำ ที่เรียกว่า กัณหาโคตรมะ พ่อปู่บอกเขาเอง ใช่แล้วจริงด้วย ธกฤตเพิ่งนึกออก หลังจากที่เฉลียวใจทบทวนดูอีกครั้ง ไม่มีใครทำอย่างนี้ได้ นอกจากสิ่งเหนือจริง นี่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถหนีพ่อปู่ได้หรือ ขนาดเป็นสถานที่แสนหรูทันสมัย อยู่บนตึกสูงชั้นที่ 23 พ่อปู่ยังตามมาก่อเรื่องรำคาญชวนหงุดหงิดที่คอนโดอีก