นิมามองดูเอรินซึ่งมาที่ร้านตั้งแต่เช้าบอกว่าเป็นวันหยุด นิมาต้องมาดูแลจัดการเปิดร้านก่อน จึงแค่เพียงทักทายบ้างเล็กน้อย แต่ก็คอยมองดูอยู่ เอรินท่าทางเหม่อลอย ถึงแม้จะถือหนังสืออ่านอยู่ก็ตาม นิมาสังเกตเห็น
“มีอะไรหรือเปล่านิ่ม เห็นโทรฯ มา” ทองทิพย์ถาม เพราะเห็นมีสาย โทรฯ เข้าที่ไม่ได้รับจากนิมา ทั้งๆ ที่เพิ่งไปส่งที่ร้านเมื่อไม่นาน
“อ๋อมมานั่งหน้าจ๋อยอยู่ที่ร้าน เห็นว่าหยุดนะ”
“ดูไม่โอเค หรือ” ทองทิพย์ถาม
“ไม่ค่อยโอเคนะ นิ่มว่า แต่ยังไม่ได้คุยจัดร้านอยู่เลยปล่อยให้นั่งเหม่อไปก่อน” นิมาบอกน้ำเสียงฟังดูไม่ค่อยดีนัก
“งั้นเดี๋ยวเคลียร์งานแป๊บนึงนะ ทิพย์จะรีบไปที่ร้านพาอ๋อมขึ้นไปชั้นบนก่อนก็ได้ เผื่อมีอะไรเล่าแล้วเกิดดราม่า ลูกค้าจะได้ไม่ตกใจ” ทองทิพย์บอก
“บ้าอะไรจะขนาดนั้น”
“แหมอย่างกับตัวเองไม่เคย ร้องไห้เวลาทะเลาะกันน่ะ” ทองทิพย์พูดแหย่นิมา
“ก็ตัวเองนั่นแหละ ชอบแกล้งเค้า ชอบทำให้นิ่มร้องไห้ ไม่รักแล๊ว”
“จริงดิ รักหน่อยเหอะ คิดว่าสงสารทิพย์ ร้ายกาจขนาดนี้ ถ้านิ่มไม่รัก ก็ไม่มีใครเอาแล๊ว” ทองทิพย์หัวเราะเล็กๆ ผ่านมาทางโทรศัพท์ เผื่อว่าจะทำให้คนที่ตัวเองรักหายกังวลใจไปบ้างกับความห่วงใยที่มีให้เอริน
“ก็ได้รักก็ได้ น่าสงสาร รีบมานะเผื่อนิ่มรับมือไม่ไหว”
“แหมอันที่จริงคนเดียวก็เอาอยู่ แต่เพื่อนของเรา เราก็ต้องดูแลเนอะ แค่นี้ก่อนแล้วกันเดี๋ยวเจอกันจ๊ะ”
“ขับรถดีๆ น๊า” นิมายิ้ม เมื่อเห็นเอรินหันมา คงได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ ซึ่งน่าจะรู้ว่าคุยอยู่กับทองทิพย์ นิมาจึงเดินมานั่งลงข้างๆ
“หวานเว่อร์ เพิ่งแยกกันไม่ใช่เหรอ” เอรินพูดแหย่นิมาที่ยังนั่งอมยิ้ม
“รักกันนี่ค่ะ มีอะไร เป็นอะไรไป เราน่ะ” นิมาถาม มองดูคนที่ยิ้มจางๆ หันมองออกไปด้านนอกของตัวร้าน
“ไม่มีไร ขี้เกียจอยู่บ้านเลยมานั่งที่ร้าน อ๋อมมาเกะกะหรือเปล่า”
“เกะกะดิ ถ้าไม่เล่าจะไล่กลับ หรือต้องหยิบกระจกมาให้ดูว่า หน้าตาแย่ขนาดไหนกว่าจะยิ้มได้ต้องพูดแหย่ ปกติไม่เห็นเป็น มาตามมาจะได้คุยกันสะดวกๆ หน่อย” นิมาดึงมือเอรินให้ลุกขึ้นแต่เจ้าตัวไม่ยอม
“ว่างแล้วหรือ ไม่ต้องทำงานหรือไงคะ” เอรินถาม แต่ก็ยังไม่ยอมลุก
“หมออ๋อมคะ ดิฉันเป็นเจ้าของร้าน จะปิดร้านก็ได้นะ ถ้าไม่อยากทำ งานน่ะ ลุกมาเลยคิดอะไรอยู่ช่วยพูดออกมา รอยยิ้มสวยๆ
จะได้กลับมาเป็น ห่วงนะเว๊ย ลุกได้แล้ว” นิมาพูดดุ แต่ก็หันไปแอบยิ้ม เมื่อใช้ไม้ตายเรื่องของความห่วงใย
“รู้งี้ไม่มาก็ดี อุตส่าห์คิดว่าหาที่สบายใจได้แล้ว แต่สงสัยจะคิดผิด”
“ไม่ผิดรับรองได้ว่า ถ้าเล่าแล้วจะสบายใจแน่ๆ” นิมายิ้มๆ ดันหลังคน ที่เดินนำหน้าให้เข้าไปในห้องพัก ซึ่งอยู่ชั้นบนของตัวร้าน
“อ๋อมว่าผิดนะ อยากนั่งเงียบๆ เฉยๆ”
“เล่าก่อนดิแล้วค่อยเงียบ จะปล่อยให้เงียบทั้งวันเลย สัญญา” นิมายิ้มทำท่าชูสามนิ้วเป็นลูกเสือสาบาลตนเลย
“จริงนะ” เอรินยิ้มน้อยๆ ซึ่งทำให้นิมายิ้มกว้างมากขึ้น แต่น่าแปลกตรงที่ว่า ดูจะยอมง่ายเกินไป
“หรือควรจะรอกำลังเสริม หมอท่าทางจะมีลวดลายนะ”
“นิ่มเห็นเพื่อนเป็นอะไร ไม่เคยมีเลยนะลวดลายน่ะ” เอรินบอก
“ไม่รู้ตัวล่ะสิ ก็ได้ไหนว่ามา” นิมาทำท่าจริงจังและตั้งใจฟัง เอรินทำหน้าจ๋อยๆ ก่อนจะบอกออกมา
“พี่ป๊อบจะแต่งงานแล้ว” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ
“รู้เรื่องเลย เข้าใจแจ่มแจ้งไหวไหมล่ะ” นิมากอดเอรินเอาไว้
“ไหวสิ ไม่ไหวจะทำอะไรได้ล่ะ”
“มีอะไรเกิดขึ้นที่หัวหิน ทำไมงานแต่งงานมาไวขนาดนี้ วันก่อนมาซื้อขนมยังบอกว่าคงอีกนาน ยังไม่มีกำหนดเลย”
“อ๋อมไม่รู้หรอก แต่อ๋อมคุยกับพี่ป๊อบแล้วนะ”
“คุยว่า”
“จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกระหว่างอ๋อมกับพี่ป๊อบ ยินดีและดีใจที่พี่ป๊อบจะแต่งงาน แต่” เอรินไม่รู้จะเล่าออกมาอย่างไรที่จะทำให้
ตัวเองไม่รู้สึกอึดอัดมากนักและทำให้คนฟังเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
“เฮ๊ยเดียวเรื่องของอ๋อมกับพี่ป๊อบ มันไปถึงไหนแล้ว” นิมารู้สึกสงสัย เพราะถ้าแค่รู้สึกดีๆ แต่ยังไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น ก็ไม่น่าจะมีอะไร หากปานรวีจะแต่งงาน
“ก็” เอรินไม่รู้จะเล่าอย่างไร
“ก็อะไร”
“พี่ป๊อบเคยไปค้างที่บ้านสองคืน” เอรินบอกเพียงแค่นั้น หวังว่า นิมาจะเข้าใจและไม่ถามรายละเอียด
“เวรล่ะ แล้วที่จะแต่งงาน เพราะแฟนพี่ป๊อบรู้เรื่องแล้วหรือเปล่า”
“ไม่รู้ว่ารู้หรือยัง แต่ตรัยรู้แล้ว” เอรินก้มหน้าเล็กน้อย ความรู้สึกผิดยังมีอยู่ในใจ
“เดี๋ยวนะ นิ่มลงไปข้างล่างก่อน” นิมากอดเอรินอีกครั้ง ก่อนที่จะขอตัวลงไปข้างล่าง เพราะพนักงานของร้านมาเคาะประตูห้อง
กานดายิ้มเมื่อเห็นนิมาซึ่งเอรินเคยเล่าให้ฟัง กานดาจึงแนะนำตัวขึ้นก่อน เจ้าของร้านยิ้มต้อนรับ แต่ไม่รู้ว่ากานดานัดหมายกับ
เอรินเอาไว้หรือไม่
“นัดอ๋อมไว้ค่ะ” กานดาบอกกับนิมา
“กานดา นัดอ๋อม”
“ค่ะ”
“นิ่มถามอะไรหน่อยได้ไหม กานดาว่าอ๋อมดูซึมๆ ไปหรือเปล่า ไม่รู้ว่าได้เจออ๋อมบ้างไหม ถ้าอยู่บ้านติดกัน น่าจะได้เจอ ได้คุยกันบ้างหรือเปล่า” กานดายิ้มจางๆ ไม่รู้เหมือนกันว่า ควรจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นให้กับเจ้าของร้านขนมฟังหรือไม่
“รู้เรื่องพี่ป๊อบหรือเปล่าคะ” นิมาถาม เผื่อว่าบางทีเอรินอาจจะเล่าให้กานดาฟังบ้างแล้วก็ได้ เพราะดูท่าทางถ้านัดหมายมาที่
ร้าน ก็คงถือได้ว่าเป็นเพื่อนคนหนึ่ง
“ทราบค่ะ นิ่มอยากรู้เรื่องพี่ป๊อบหรือ แต่ถามจากอ๋อมเองดีกว่าไหม” กานดาไม่ค่อยแน่ใจนักว่า เอรินจะโกรธหรือเปล่า
“อ๋อมมานั่งซึม ตั้งแต่มาถึง เพิ่งคุยไปได้นิดเดียว อ้าวทิพย์ มาเร็วจัง” นิมาแนะนำทองทิพย์กับกานดาให้รู้จักกัน ทั้งสามคนจึงนั่งลงพูดคุยกัน นิมาเล่าเรื่องที่คุยไปกับเอริน เรื่องของปานรวีให้ทองทิพย์ได้รับรู้ซึ่งท่าทางก็ออกจะแปลกใจเช่นกัน
“นิ่มกับทิพย์รู้จักพี่ป๊อบ ใช่ไหมคะ” กานดาถามเสียงอ่อยๆ เพราะจากการแสดงท่าทีห่วงใยเอริน กานดาก็เลยคิดว่า น่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิด ขึ้นให้เพื่อนรักของเอรินทั้งสองคนได้รับรู้
“แล้วท่าทางพี่ป๊อบเป็นอย่างไรบ้าง” นิมาถามกานดา
“เอาตอนไหนล่ะ ตอนอยู่กับตรัยนั่นน่ากลัวที่สุด ไม่คิดเลยนะว่าคนเงียบๆ เวลาร้ายก็ร้ายสุดฤทธิ์” กานดาพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจระคนดีใจในความห่วงใยที่ปานรวีมีให้กับเอริน
“หลังจากนั้น ตอนอยู่กับอ๋อม”
“เอาจริงเลยนะ เราน่ะอยากเป็นขู่แข่งกับพี่ป๊อบ แต่เห็นเวลาเขามองกันแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ปลอบอ๋อมไม่เท่าไหร่หรอก ทาง
พี่ป๊อบนั่นแหละ ใครจะปลอบตัวคนเดียวน่าสงสารจะตาย” ทองทิพย์ยิ้มๆ กับคนที่กล้าพูดว่า อยากเป็นคู่แข่งปานรวีแต่ก็ใจอ่อน
“ก็จริงของกานดานะ พี่ป๊อบน่าสงสารที่สุด แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อตัด สินใจแบบนั้น อาจจะไม่เป็นไรก็ได้นะ ครอบครัวอบอุ่นพอมี
ลูกก็คงลืมเพื่อนเราไปได้ในสักวัน ส่วนหน้าที่พวกเราก็คือ ดูแลไอ้หมอซึมเศร้ากันต่อไป”
“เหมือนเราจะมีคนดูแลที่ดีด้วยนะ ว่าไหมทิพย์” นิมายิ้มให้กานดาที่ยิ้มอายๆ
“ฝากด้วยนะ อย่างไรกานดาก็อยู่ใกล้กว่าเราสองคน” ทองทิพย์บอกฝากเอรินไว้กับกานดา
“คราวหน้า ถ้าไอ้คุณตรัยมันทำอย่างนั้นให้เห็นอีก ต่อยแล้วช่วยเรียกตำรวจจับด้วยนะ นิสัยไม่ดีเลยกับพี่ป๊อบยังพูดจาไม่ดีทั้งที่
กำลังจะเป็นพี่สะใภ้ตัวเองแท้ๆ” นิมาพูดเสียงเข้มท่าทางเอาเรื่องอยู่ กานดาหัวเราะ นึกขำท่าทางของนิมา ซึ่งคงคล้ายๆ กับตัวเองตอนที่เกิดเรื่อง ถ้าสองคนนี้อยู่ด้วยคงสนุก กานดายิ้มๆ
“ทิพย์ขอขึ้นไปดูอ๋อมก่อนนะ อย่าแห่กันขึ้นไปหมดนี่เลยเดี๋ยวคุยแล้ว ทิพย์จะพาตัวลงมา กานดากับนิ่มรออยู่ข้างล่างนี่แหละนะ” ทองทิพย์ ซึ่งดูจะสนิทกับเอรินมากกว่าเพื่อน จึงอาสาที่จะไปพูดคุยด้วย จริงๆ แล้ว คนที่เสนอตัวก็ยังคิดไม่ออกว่า จะปลอบโยนเพื่อนอย่างไรเหมือนกัน นึกถึงปานรวีขึ้นมา ก็อดที่จะสงสารไม่ได้ การแต่งงานก็มาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังดีที่ความสัมพันธ์นั้นเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ แต่ก็คงผูกพันกันมากเอาการ เพราะจากที่นิมาบอกเล่า ไม่ใช่เพียงแค่รู้สึกดีๆ คงมีสัมพันธ์ทั้งทางใจและทางกายแล้ว แต่ทองทิพย์ยังรู้สึกว่า ปานรวีน่าจะมีหนทางที่จะจัดการกับชีวิตของตัวเอง ความสุขที่เห็นชัดเจนกับความรักและความผูกพันไม่สามารถที่จะต่อสู้กับความถูกต้องความมีเหตุมีผลได้เลยเชียวหรือ
เอรินยิ้มให้กับคนที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง ไม่แปลกใจนักที่เห็นทองทิพย์ ความห่วงใยที่เพื่อนมีให้ทำให้เอรินเริ่มมีน้ำตาคลอ ทั้งๆ ที่ทองทิพย์ยังไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
“ไง หมอไหวไหม” ทองทิพย์ยิ้มให้กับคนที่ยิ้มจางๆ ให้
“มีทิพย์ มีนิ่มไหวอยู่แล้ว” เอรินบอกและเช็ดน้ำตาที่ไหลรินออกมา
“มากอดที ทิพย์รักอ๋อมนะ เวลาทุกข์อย่าคิดว่าตัวคนเดียวล่ะ มาอยู่กับนิ่มและทิพย์ที่นี่นะ สัญญาได้ไหม” ทองทิพย์ยิ้มทั้งน้ำตา เมื่อเอรินกอดเอา ไว้แนบแน่นและคงร้องไห้อยู่
“อ๋อมก็รักทิพย์กับนิ่มนะ ขอบคุณที่เอาใจใส่ ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ นิ่มยังสังเกตเห็นเลยว่า มีเรื่องไม่สบายใจ” เอรินคลายอ้อมกอดออก ทองทิพย์เช็ดน้ำตาให้เอรินแล้วหัวเราะออกมา
“ทิพย์รู้นะ ว่าหมอน่ะ เข้มแข็ง ใช่มะ” ทองทิพย์พูดแหย่เอรินที่เริ่มยิ้มออกมาได้บ้าง
“ไม่โกรธอ๋อมเหรอที่เป็นแบบนี้ ไปรักคนที่เขามีเจ้าของอยู่แล้ว”
“ไม่ได้ไปตามตื้อเค้านี่หว่า พี่ป๊อบก็ชอบอ๋อมนะ ทิพย์ดูออก แต่อาจ จะเพราะอะไรหลายๆ อย่าง พี่ป๊อบมีเรื่องแวดล้อมในชีวิต
ไม่เหมือนอ๋อมไม่รู้สิ ทิพย์ว่าทิพย์เข้าใจพี่ป๊อบนะ ยิ่งนายตรัยมาอาละวาดใส่อ๋อมด้วยแล้ว พี่ป๊อบก็ยิ่งต้องรีบพาความวุ่นวายออกไปจากชีวิตอ๋อม จบแบบนี้ก็ดีกับทุกฝ่ายนะ”
“เดี๋ยวก่อน ทำไมรู้ล่ะ” เอรินมองดูทองทิพย์ที่ยิ้มๆ ให้อยู่
“พี่ป๊อบไป กานดาก็มา เนื้อหอมเหลือเกิ๊น” ทองทิพย์พูดแหย่
“บ้าคิดอะไรอยู่” เอรินพูดดุ
“กานดาอยู่ข้างล่างเล่าเรื่องที่เกิดให้ฟังแล้ว น่ารักดีนะ ทำได้ทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองชอบ แม้กระทั่งวางแผนให้อ๋อมได้คุยกับพี่ป๊อบตามลำพังหายากนะแบบนี้ บู๊ก็ได้ บุ๋นก็เก่งท่าทางฉลาด ถ้าเป็นทิพย์ละก็จับแยกน่าจะดี กว่าจะได้เอามาครอบครองเสียเอง” ทองทิพย์หัวเราะ เมื่อเอรินตีเข้าที่แขน
“อ๋อมชักจะเริ่มกลัวกับการที่มีความสัมพันธ์ แล้วทำให้คนที่เรารู้สึกดีด้วยเสียใจ ยิ่งกานดาดีกับอ๋อมมากเท่าไร ก็ทำให้ยิ่งกลัวมากขึ้น” เอรินบอก
“เฮ๊ยไม่ได้สิไม่เกี่ยวกัน กานดาอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนพี่ป๊อบนะ หาได้ที่ไหนไปชกผู้ชายแบบนั้นน่ะ นี่ไม่มีนิ่มนะ จะจีบเลย นึกภาพไม่ออก มือก็เล็กนิดเดียว” ทองทิพย์ยิ้ม เมื่อนึกถึงสิ่งที่กานดาทำ
“เข้าเบ้าตา เขียวเลยเหอะ”
“ห่วงใยชัดขนาดนั้น ก็เอาใจใส่เขาบ้าง เผื่อวันข้างหน้าจะได้มีใครสักคนที่ดูแลอ๋อมได้มากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ แผลหายก็ลองเปิดใจอีกสักครั้งเนอะ” ทองทิพย์ยิ้มๆ เอามือจับศีรษะเอรินแล้วขยี้ผมเล่น
“แผลเหวอะหวะมากจากผู้หญิงอีกต่างหาก ช่วยรักษาแผลเค้าก่อนน๊า เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” เอรินพูดอ้อนทองทิพย์ที่หัวเราะเสียงดังลั่น