ตอนที่ 18 : พร้อมหรือเปล่า

1840 คำ
เอรินยิ้มจางๆ เมื่อได้ยินคำถามจากนิมา ซึ่งเดินเข้าไปสวมกอดเอาไว้หลวมๆ เพื่อเป็นการปลอบโยน คนที่กอดอยู่พอจะดูออกและเข้าใจในความรู้ สึกของเอรินที่คงก้าวหน้าไปไกลกว่าที่คิด ซึ่งน่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างผู้หญิงสองคนที่ไม่ได้คิดว่า ความรู้สึกแปลกๆ จะเกิดขึ้นในหัวใจ “รักบางทีก็ไม่จำเป็นต้องได้มาครอบครองหรอกนะ เก็บไว้เป็นกำลังใจในหลายๆ เรื่องก็ได้ อ๋อมเข้าใจใช่ไหม” นิมาพูดปลอบโยนและเตือนไปในคราวเดียวกันเชื่อว่า เอรินคงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองและคนที่ตัวเองรักด้วย “นิ่มว่า อ๋อมกำลังทำผิดอยู่หรือเปล่า” เอรินถามเสียงอ่อยๆ “ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกนะ ว่าไหม” นิมายิ้มให้เอริน “แต่อ๋อมรู้สึกผิดเหมือนกันนะ” เอรินบอกกับนิมาที่ยิ้มและตบบ่าของเอรินเบาๆ “ไม่ได้ฉุดเค้ามา เค้ามาเอง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ นิ่มเชื่อการตัดสินใจของอ๋อมนะ คนเราไม่สมหวังทุกอย่างในชีวิตหรอก มีได้ก็ต้องมีเสีย แล้ววันหนึ่งจะมีคนดีๆ สำหรับอ๋อม ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร อ๋อมจะมีทิพย์มีนิ่มที่จะอยู่เคียงข้าง อ้อแต่ถ้าทำผิดด่าได้ใช่ปะ” นิมายิ้ม “ได้สิ บางที บางเรื่อง อ๋อมอาจจะทำไม่ถูกก็ได้นี่ เขกกบาลได้” นิมาหัวเราะ เอรินก็เช่นกัน “ไปล่ะ ความรักมันดีนะ ถ้าทำความรู้จักให้ดี บายจ๊ะ” นิมายิ้ม “ขอบใจนะ นิ่ม ขับรถดีๆ ล่ะ” ปานรวีลงมาต้อนรับนิมาด้วยตัวเอง ปลีกตัวจากการประชุมมาครู่หนึ่ง โดยมีคนลงมาจัดการเรื่องยกขนมที่นิมานำมาส่ง จึงทำให้มีเวลาได้สนทนากับเพื่อนรักของเอริน “ขอบพระคุณมากค่ะ พี่ป๊อบ ที่อุดหนุนขนมที่ร้านตลอดเลย” “ก็ขนมร้านนิ่มอร่อยนี่นา รีบกลับหรือเปล่า ดื่มกาแฟกันก่อนไหม” “ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ อ้อมีคนฝากของมาให้” นิมาเดินไปหยิบช่อดอก ไม้ช่อใหญ่มาส่งให้ปานรวีที่ยืนยิ้มๆ แต่ไม่มีท่าทีอะไรผิดปกติ นิ่งๆ ยิ้มๆ ไม่ได้ออกอาการดีอกดีใจให้เห็น “จากไหนคะ” ปานรวีถาม ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นปกติมาก นิมายิ้มน้อยๆ กับการเก็บอาการของปานรวี กุหลาบสีชมพูช่อใหญ่น่าจะทำให้คนได้ รับยิ้มได้ ถึงไม่ได้แสดงออกให้เห็นชัดนัก แต่แววตาที่แสนสดใสนั้น นิมาพอ จะสังเกตได้ “หมอค่ะ” นิมายิ้มน้อยๆ ให้ “อ๋อม” “แปลกดีนะคะ ฝากดอกไม้มาให้พี่ป๊อบ” นิมาแสร้งถาม “พี่เคยได้กุหลาบมาก่อนหน้านี้แล้วค่ะ” ปานรวีบอก เดาเอาว่า เพื่อนของเอรินน่าจะระแคะระคายมาบ้างกับเรื่องระหว่างตัวเธอกับเอริน “ถ้าพี่ป๊อบมั่นใจและจริงใจกับเพื่อนนิ่ม พวกเราก็พร้อมจะยืนเคียงข้างนะคะ แต่ถ้าพี่ป๊อบไม่ได้คิดจะจริงจังล่ะก็ นิ่มว่าสงสารหมอมันเถอะ ปล่อยไปเสียแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องเจ็บมากนัก นิ่มขอตัวก่อนนะคะ” นิมาทำท่าจะเดินจากไป “ขอบคุณนะคะ นิ่ม หวังว่านิ่มจะให้โอกาส” ปานรวีบอก นิมาหันมายิ้มมองสบตาแววตาที่แสดงออกถึงความจริงใจ ถึงแม้เส้นทางของสองคนนั้นค่อนข้างจะมืดมน แต่ถ้าสิ่งที่ปานรวีบอก ออกมาจากความรู้สึกที่อยู่ข้างใน นั่นก็อาจจะทำให้สองสาวก้าวเดินไปด้วยกันได้ หากแต่ว่าภาวะแวดล้อมหน้าตา หน้าที่การงานอาจจะสำคัญกว่าความรู้สึกที่มีในหัวใจ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่นิมาคิด “นิ่มมีให้พี่ป๊อบเสมอค่ะ แต่คงไม่ใช่เฉพาะพวกเราหรอกนะคะ มีอีกตั้งมากมาย พี่ป๊อบต้องถามตัวเองแล้วล่ะว่าพร้อมหรือเปล่า” นิมายิ้มน้อยๆ ให้กับคนที่ใบหน้าเรียบนิ่งไปในทันทีที่ได้ยินสิ่งที่นิมาพูด “พร้อมหรือเปล่า” ปานรวีถอนใจ มองดูช่อกุหลาบสีชมพู ซึ่งประคับ ประคองเอาไว้เป็นอย่างดี ปานรวียิ้มน้อยๆ หลังจากจอดรถอยู่เยื้องๆ กับบ้านของเอรินและเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู ซึ่งดูเหมือนเอรินตั้งตารออยู่แล้ว จึงเห็นในทันที เมื่อมีคนมายืนอยู่ ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันจะกดออด เอรินมองดูช่อดอกไม้ที่ปานรวีถือติดมาด้วย “สวัสดีค่ะ” เอรินทักทายขึ้นก่อน “สวัสดีค่ะ ดอกไม้สวยไหม” ปานรวีถาม จ้องมองคนที่มองอยู่ด้วยสายตาแปลกๆ แต่ก็ยิ้มๆ “สวยดีค่ะ ใครให้มาคะ” เอรินถาม “นิ่มให้มา เมื่อตอนสายๆ เลยเอามาใส่แจกันไว้ที่บ้านอ๋อมดีกว่า” “นิ่มหรือคะ” ปานรวีจึงบอกเล่าเรื่องที่นิมานำดอกไม้ไปให้ โดยบอกว่าเอรินฝากมา คนที่ได้ยินเข้ายิ้มจางๆ มองจ้องปานรวี ไม่รู้ว่าคิดเห็นอย่างไรกับการที่นิมาทำอย่างนั้น “เพื่อนๆ อ๋อมน่ารักนะ” ปานรวีบอก “พี่ป๊อบทราบ ตั้งแต่นิ่มเอาไปให้แล้วหรือเปล่าคะ” เอรินถาม “ถ้าพี่ไม่มีใคร พี่คงดีใจนะ เพราะคงคิดว่า นิ่มเป็นแม่สื่อแม่ชัก แต่ที่นิ่มทำแบบนี้ เพราะเป็นห่วงอ๋อมนั่นแหละ พี่เข้าใจ นิ่มคงอยากดูปฏิกิริยาว่าจะรู้สึกอย่างไร หากรู้ว่า ดอกไม้ช่อนี้อ๋อมฝากมา” ปานรวีมองดูคนที่กำลังนำดอกไม้จัดใส่แจกัน “ไม่น่าจะแค่เรื่องดอกไม้ นิ่มไปพูดอะไรที่ทำให้พี่ป๊อบไม่สบายใจหรือเปล่าคะ” เอรินถามคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วกอดเข้าที่เอวจากทางด้านหลังของเอริน “ไม่เห็นพูดอะไร คิดถึงจัง” ปานรวีอยากให้ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเอรินนั้นเกิดความสบายใจมากกว่า จึงไม่ได้บอกเรื่องที่นิมาพูด “อย่าชวนเปลี่ยนเรื่องค่ะ ไม่มีอะไรแน่นะ พี่ป๊อบ” “ก็ไม่เห็นมีอะไรได้คุยกันนิดหน่อย เพราะพี่แอบหนีประชุมมาเลยคุยได้แป๊บเดียวเอง หรือมีอะไรที่อ๋อมอยากบอกพี่หรือเปล่า” ปานรวีกอดกระชับให้แน่นขึ้นอีก “ไม่มีค่ะ แต่กอดแน่นแบบนี้ขยับไปไหนไม่ได้เลยนะคะ” “ไม่ต้องขยับขอสักห้านาที จะได้หายเหนื่อย ถ้ายอมให้หอมแก้มด้วยก็จะดีมากนะ” ปานรวีอมยิ้ม “อาบน้ำก่อนดีกว่าค่อยหอม เชื้อโรคทั้งนั้นเลยนะคะ ตัวอ๋อมน่ะ” “พี่อาบน้ำให้ไหมล่ะ จะได้สะอาดปราศจากเชื้อโรค” ปานรวียิ้มกว้างมากขึ้น เมื่อคลายอ้อมกอดแล้วเอรินหันมาในทันทีที่ได้ยิน “อ๋อมไม่ได้ใส่เสื้อผ้านะ เวลาอาบน้ำ ผ้านุ่งก็ไม่มีอายตายเลย” “ไม่ใส่น่ะ ดีแล้ว จะได้ถูตัวให้สะอาด เอาไหมล่ะอาบให้” ปานรวียิ้มทะเล้นให้กับคนที่ยืนอายจนแก้มแดง “ดูเหมือนหวังดี แต่สายตาแปลกๆ นะคะ” “สายตาพี่เป็นแบบไหนคะ” ปานรวีถามและโอบกอดเอรินเอาไว้ “เห็นแล้วก็อ่อนแอค่ะ สายตาพี่ป๊อบเวลามองอ๋อม” เอรินบอกและเข้าสวมกอดปานรวีเอาไว้แนบแน่น “เหมือนกันเลย อ่อนแอตั้งแต่วันแรกที่อ๋อมมองพี่แล้ว รู้ไหม” “จริงหรือคะ อ๋อมเสียมารยาทจ้องมองพี่ป๊อบขนาดนั้นเลย หรือคะ” เอรินถามขึ้นในทันที “เปล่าคะ แต่รู้สึกแปลกๆ นะ รู้สึกดีเวลาได้สบตาด้วย เวลาอ๋อมยิ้มให้ เวลาได้พูดคุย โดยเฉพาะเวลาได้อยู่ใกล้ๆ” ปานรวีถอน ใจเบาๆ “รู้สึกดีทำไมต้องถอนใจด้วยล่ะคะ” เอรินยิ้มคลายอ้อมกอด มองสบตากับปานรวีที่ยิ้มน้อยๆ ให้อยู่ “พี่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร ไม่เคยรู้สึกเลยว่าเวลาถูกกอดและการได้กอดจะรู้สึกดีขนาดนี้ มันดีมากจนทำให้พี่รู้สึกกลัวว่าถ้าไม่มีอ๋อมชีวิตจะเป็นอย่างไร” ปานรวียิ้มทั้งน้ำตา “ไม่งอแงสิคะ ผู้กอง” เอรินยิ้มจูบปลอบโยนปานรวีที่ยิ้มน้อยๆ และดึงตัวเอรินให้เข้าแนบชิดกับตัวเองให้มากที่สุด “รอพี่นะ อ๋อม อย่าไปไหน” ปานรวีจูบเอรินหลังจากที่จ้องมองแววตาเรียบนิ่ง ซึ่งไม่มีคำพูดใดๆ หัวใจกลับรู้สึกเคว้งคว้าง ปานรวีรู้สึกอย่างนั้น จึงพรมจูบอย่างร้อนแรง แม้นเอรินจะตอบรับทุกสัมผัส แต่การบอกให้รอคอยนั้นไร้ซึ่งคำตอบ ปานรวีรู้สึกว่า ความ เหงาเข้าแทรกซึมหัวใจในทันทีทั้งๆ ที่เอรินยังคงอยู่ใกล้ชิดด้วยจูบอันอ้อยอิ่ง ปานรวีนอนเงียบหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดของเอรินที่หลับไปได้พักใหญ่ อ้อมกอดนั้นยังคงกอดกระชับเอาไว้ไม่แน่นและไม่หลวมนักพอทำให้รู้สึกสบาย ปานรวียิ้มน้อยๆ มองดูคนที่นอนหลับอยู่ “เราน่าจะเจอกันนานแล้วนะ คงจะดีกว่านี้” ปานรวีรำพึงออกมาเบาๆ เบียดตัวให้แนบชิดกับตัวของเอรินที่ขยับตัวเล็กน้อยและกอดกระชับให้แน่นขึ้นอีก ปานรวียิ้มทั้งน้ำตา อีกครั้งที่ได้นอนอยู่ในอ้อมกอด ของเอริน ซึ่งไม่ได้แตก ต่างจากครั้งแรกนัก เอรินกอดกระชับเหมือนคนที่หวงแหน ในหัวใจคงรู้สึกเช่น กันว่า ตื่นมาแล้วจะไม่ได้พบกันอีก ปานรวีเช็ดน้ำตาของตัวเองไม่อยากให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาเห็น “ไม่ขี้แยสิคะ ผู้กอง ขยับตัวขึ้นมาหน่อยค่ะ อ๋อมเช็ดน้ำตาให้นะ” “ไม่เป็นไร ไม่ร้องแล้ว” ปานรวีรีบเช็ดน้ำตาของตัวเอง “เพราะอ๋อมหรือเปล่าคะ พี่ป๊อบ” เอรินถามจ้องมองคนที่ขยับตัวขึ้น มาจนใบหน้าแนบชิดกัน “ถ้าเป็นอ๋อม พี่คงร้องไห้เพราะความปิตินะ ไม่ใช่เพราะความเสียใจ” ปานรวียิ้มให้เอรินที่ยิ้มอยู่เช่นกัน “ฟังดูเหมือนอ๋อมเป็นคนดีเลย” เอรินบอก “ดีที่สุดเลยนะ สำหรับพี่” ปานรวียิ้มและจูบเบาๆ ไปที่ริมฝีปากอันอบอุ่นของเอรินที่ตอบรับสัมผัสนั้นในทันที “นอนเถอะนะคะ บางเรื่องเราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้คิดไปก็ไม่มีอะไร ดีขึ้น ปล่อยให้เป็นไปตามวิถีของมันเองดีกว่านะคะ อ๋อมเคารพการตัดสินใจของพี่ป๊อบในทุกๆ เรื่องเลยค่ะ” เอรินพูดจบก็หลับตาลง “พูดจาแปลกๆ นะ อ๋อม” “นอนเถอะค่ะ ผู้กอง คิดมากเดี๋ยวริ้วรอยขึ้นนะคะ” เอรินยิ้มๆ อยากให้คนที่เธอกอดอยู่นั้นสบายใจ หยุดกังวลใจในเรื่องที่กำลัง คิดอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม