เอรินทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ เช้านี้กานดาวิ่งได้ไกลขึ้น เมื่อวานอาจจะเพราะนอนดึกหรือเปล่าไม่แน่ใจท่าทางเลยเหนื่อยง่าย คนที่วิ่งตามอยู่นั้นไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ หลังจากเอรินหยุดวิ่งหอบหายใจอยู่นั้น กานดายังคงวิ่งเหยาะๆ อยู่ หัวเราะเล็กๆ หยอกล้อเอรินที่หัวเราะออกมาเมื่อเห็นคนที่กำลังแกล้งอยู่นั้นแสดงท่าทางว่าตัวเองยังวิ่งต่อไหว
“ดีเหมือนกันนะ ออกกำลังกายตอนเช้า รู้สึกสดชื่นทั้งวัน ไม่ง่วงหงาว หาวนอนด้วย” กานดายิ้มๆ ยืนหอบอยู่เช่นกัน
“งั้นก็มาด้วยกันทุกวันสิ” เอรินบอก
“ได้หรือ” กานดาถามยิ้มๆ
“ได้สิแต่บางวันอ๋อมก็ไม่ได้มานะ ถ้าเข้าเวรจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้านะจ๊ะ กลับกันดีกว่าเดี๋ยวจะเดินไม่ไหวเวลาทำงาน” เอรินหัวเราะ
“เดี๋ยวยืนนิ่งๆ” กานดาช่วยเช็ดเหงื่อให้คนที่ยิ้มน้อยๆ จ้องมองแววตาสวยใสนั้นด้วยความขอบคุณ
“ช่างเอาใจใส่ดูแลเหมือนกันนะ ใครเป็นแฟนโชคดีชะมัดเลย” เอรินไม่ได้คิดอะไรพูดเป็นปกติ แต่คนที่เดินตามมานั้นยิ้มๆ
“เกือบมีแล้วล่ะ” กานดายิ้ม เมื่อเห็นเอรินหันมาขมวดคิ้วจ้องมองแล้วก็ยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร
“อ๊ะขนมจากร้านเพื่อนอ๋อม รับรองความอร่อย” วุ้นกรอบสีสวยๆ ที่อยู่ในถุงนั้น สีสวยสดใส เอรินหยิบมาเพราะหวังว่า สาวที่ชอบศิลปะน่าจะชอบสีสวยๆ ของขนมด้วย
“สีสวยนะ” กานดายิ้มๆ
“สีผสมอาหารรับรองได้ ติดใจไปดูขนมที่ร้านก็ได้นะ มีชื่อที่อยู่พร้อมเบอร์โทรศัพท์อยู่ที่ถุงเลย” เอรินหัวเราะ เมื่อช่วยพูดโฆษณาร้านขนมให้เพื่อน
“ได้ค่าโฆษณาหรือเปล่าคะ”
“ไม่ได้ค่ะ” เอรินยิ้มๆ นำขวดน้ำดื่มที่เตรียมมายื่นให้กานดา
“ขอบคุณนะ เราก็มีของให้อ๋อมเหมือนกัน อาหารเช้าข้าวไข่พะโล้ แม่ทำตั้งแต่เมื่อวาน เช้านี้อุ่นแล้วน่าจะอร่อยขึ้น เพราะน้ำแกงเข้มข้นกว่าตอนทำใหม่ๆ ทานได้ไหม” กานดาถามคนที่ยืนยิ้มๆ จ้องมองอยู่
“ฝากขอบคุณ คุณแม่ด้วยนะคะ เดี๋ยวอีกวันสองวันจะไปเข้าไปกราบขอบพระคุณด้วยตัวเองเลย ถ้าวันไหนอ๋อมกลับบ้านไว ไปล่ะ ขอบคุณมากๆ นะ กานดา ขอให้มีความสุข สนุกสนาน และเฮฮา ในการสอนนะ” เอรินอมยิ้มเมื่อเห็นกานดายืนท้าวสะเอวแล้วส่ายหน้า
“อารมณ์ดีนะ ไปทำอะไรมา เมื่อวันก่อนแววตายังดูกังวลอยู่เลย”
“อ๊าวไม่ดีหรือ จะให้กังวลอะไรกันทุกวัน ขับกลับบ้านดีๆ นะ”
“ขอให้คนไข้น้อยๆ นะ คุณหมอ จะได้ไม่เหนื่อยอย่าลืมทานอาหารเช้าล่ะ รับรองได้ว่าจะติดใจ” กานดาโบกมือให้คนที่เข้าไปนั่งในรถยิ้มๆ และโบกมือให้เช่นกัน
เอรินจอดรถที่ลานจอดของโรงพยาบาลมองดูนาฬิกาข้อมือ ยังพอมีเวลาและคิดว่า ปานรวีน่าจะถึงที่ทำงานแล้ว แต่จำได้ว่ามีประชุมเช้าหรือควรจะส่งเพียงแค่ข้อความไปดี มัวแต่คิด คนที่คิดถึงอยู่นั้นทำให้เอรินยิ้มออกมา
ทันที เมื่อเห็นชื่อคนที่โทรศัพท์เข้ามา
“สวัสดีค่ะ เหมือนใจตรงกันเลยนะคะ กำลังจะโทรฯ ไปพอดี” เอรินยิ้มๆ แอบนึกถึงคนตัวอุ่นๆ ขึ้นมาทำให้แก้มแดงระเรื่อใบหน้าร้อนผ่าว
“หวานไปนะคะ ขับรถอยู่หรือเปล่า”
“ถึงโรงพยาบาลแล้วค่ะ เดี๋ยวจะไปอาบน้ำ ทานอาหารเช้าค่ะ” เอรินรู้สึกแปลกๆ เมื่อพูดเหมือนเป็นการรายงานตัว
“คิดถึงนะ” ปานรวีพูดเสียงเบาๆ
“น้อยนิดแน่ๆ ค่ะ เบาขนาดนี้” เอรินหัวเราะเล็กๆ
“คนเยอะมากค่ะ แถวนี้ อยากได้ยินดังๆ เดี๋ยวเข้าห้องทำงานแล้วจะโทรฯ ไปใหม่ตะโกนให้หูแตกเลย” ปานรวียิ้ม
“คิดถึงเหมือนกันค่ะ ทานอาหารเช้าด้วยนะคะ”
“ค่ะ เย็นๆ พี่ไปหาที่บ้านนะ อยากทานอะไรหรือเปล่า จะได้ซื้อไปให้” ปานรวีถาม
“อยากทานพี่ป๊อบ” เอรินยิ้มทะเล้นอยู่คนเดียวในรถ พูดแหย่ปานรวีไปอย่างนั้น อยากตีตัวเองนักมีหวังโดนดุแน่ๆ
“ร้ายนักนะ หมอ น่านัก”
“น่ากอด น่าฟัด ใช่ไหมคะ” เอรินยิ้ม
“ใช่พูดแบบนี้ยิ่งคิดถึงหนักกว่าเดิมอีก คืนนี้จะไปนอนให้กล่อม พี่ขอตัวก่อนนะ หน้าห้องกวักมือเรียกแล้ว ดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าทานขนมเยอะนัก บ๊ายบายจ๊ะ”
“อย่าเครียดมากนักนะคะ ผู้กอง บายค่ะ” เอรินยังคงนั่นยิ้มอยู่ในรถ ไม่รู้ว่ากล้าพูดอะไรตั้งหลายอย่างออกไปอย่างนั้นได้อย่างไร เสียงเคาะกระจกทำเอาคนที่นั่งอยู่ตกใจ นิมายืนหัวเราะอยู่ข้างนอกแอบมายืนมองดูคนที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ได้สักครู่ วางสายแล้วยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวอีก
“ยังไงคะ คุยกับใครแก้มแดงอีกต่างหาก มีพิรุธนะ เรา” นิมาพูดแหย่เอรินที่ยิ้มอายๆ เอามือจับไปที่แก้มของตัวเอง
“วิ่งมาร้อนมั้ง แก้มเลยแดง” เอรินบอกแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“เหรอมีพิรุธ เอาโทรศัพท์มาดูดิ๊ คุยกับใคร” นิมาแกล้งทำท่าจะคว้าโทรศัพท์ที่เอรินถืออยู่ แต่เจ้าตัวก็ปัดป้องไม่ยอมให้
นิมายิ้มแต่แอบสังเกตท่าทางแปลกๆ ถ้ามองอีกมุมก็อาจจะเป็นตรัย หากแต่ว่าอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นั้น ถ้าเป็นตรัย ป่านนี้เอรินคงตกลงยอมเป็นแฟนไปแล้วหรือจะเป็น นิมาคิด
“เออเมื่อวานพี่ป๊อบไปสั่งขนมที่ร้านด้วย” นิมาพูดขึ้นแล้วแอบยิ้ม แต่เอรินนิ่งๆ ไม่มีท่าทางผิดแปลกอะไร
“แล้วไง” เอรินถามและพานิมาเดินมาที่ห้องทำงาน
“แค่บอกเฉย ไม่สนใจอะไร ก็ไม่ต้องเล่า” นิมายิ้มๆ วางกระเป๋าหาที่มองดูคนที่ขอตัวไปอาบน้ำ
“ว่าแต่ มาทำไมแต่เช้าคะ” เอรินเดินกลับมาถามและยักคิ้วล้อนิมา
“นัดผู้กองไว้ เอาขนมมาส่งค่ะ ระดับผู้กองหรืออาจจะเป็นแฟนเพื่อน เจ้าของร้านอย่างนิ่มเลยต้องมาเองน่ะสิ ชัดยังไปอาบน้ำได้แล้ว หิวข้าว” นิมาหัวเราะคิกคัก เมื่อเห็นเอรินทำหน้ามุ่ย
“แฟนเพื่อน คือไร แม่นิ่มนวล”
“ขี้เกียจจะอธิบาย อ๋อมยังมีความลับกับนิ่มเลย นิ่มก็ต้องมีบ้างสิไปอาบน้ำได้แล้ว เร็วๆ ด้วย” นิมาอมยิ้ม มองคนที่ทำหน้าจ๋อยๆ เดินไปอาบน้ำ
นิมาถือได้ว่า เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ไม่ค่อยจะมีเรื่องอะไรปิดปังกันนักระหว่างตัวเองกับเอริน ซึ่งท่าทางแปลกๆ นั้น ก็คงยังไม่พร้อมที่จะบอกเล่าอะไรนัก มาลองคิดดูก็น่าจะเป็นเรื่องเมื่อวาน ซึ่งตัวเธอเองนั้นเป็นคนจัดขนมให้กับปานรวีด้วยตัวเองและเป็นขนมที่เอรินชอบทั้งนั้น เพราะคาดเดาเอาว่าปานรวีน่าจะซื้อไปฝากเอริน
“เอาว๊ะลองไม่มีมารยาทดูสักที นิ่มเอ๊ย” นิมาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของเอริน ซึ่งวางอยู่ที่โต๊ะทำงาน กดดูว่าใครกันนะ คือ คนที่ทำให้เพื่อนรักยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ในรถตั้งแต่เช้า
“ว่าแล้วเชียวพี่ป๊อบ เกิดอะไรขึ้นว๊ะ หมอ” นิมารำพึงออกมาเบาๆ วางโทรศัพท์กลับคืนที่เดิม ถอนใจเบาๆ หรือที่เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อาจจะคุยกันธรรมดาพูดแหย่กันเล่นอะไรแบบนั้นหรือเปล่า
เอรินใช้เวลาในการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นานนัก นิมาอมยิ้ม เมื่อเพื่อนหายไปแค่เพียงครู่เดียวก็กลับออกมาแล้ว หน้าตาสดใส ปกติเอรินไม่ค่อยได้แต่งหน้านัก เพียงแค่ทางแป้งและลิปสติกสีอ่อนๆ เท่านั้น ซึ่งความสวยที่คุณหมอสาวมีอยู่แล้ว ทำให้แทบจะไม่ต้องพึ่งพาเครื่องสำอางให้เสียเวลา
“ฟอกสบู่หรือเปล่า อะไรจะเร็วขนาดนั้น” นิมาถามยิ้มๆ
“ก็เห็นบ่นหิวเลยรีบอาบ ตกลงเอาไงแน่คะแม่นิ่มนวล ถามจริงไปติดเอาความร้ายมาจากทิพย์หรือเปล่า” เอรินยิ้มกว้างมากขึ้น เมื่อนิมาทำสายตาดุใส่เพราะเอรินพาดพิงไปถึงทองทิพย์
“อย่านะ แฟนข้าใครอย่ามาแตะ” นิมาหัวเราะ เอรินก็เช่นกัน
“ไปอยากกินอะไร” เอรินถามนิมา
“ต้มเลือดหมู แต่หมอมีข้าวกล่องแล้วนี่” นิมาทำท่าขมวดคิ้วจ้องมองเอรินที่รู้ว่า กำลังถูกจ้องจับผิดอยู่
“ก็ถือไปกินด้วยไง” เอรินบอกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ไอ้อ๋อมยังไง อย่าบอกนะว่าทำเอง” นิมาเดินมาบังเอรินไม่ให้เดินหนี
“เพื่อนบ้านให้มา ไปวิ่งด้วยกันเมื่อเช้าเขาเลยให้ข้าวไข่พะโลมา อ๋อมยังเอาวุ้นกรอบของร้านนิ่มให้ไปเลยนะ” เอรินหน้าจ๋อยไปในทันที เมื่อพูดถึงวุ้นกรอบ ซึ่งนิมามีรอยยิ้มแปลกๆ เหมือนรู้ว่า ขนมนั้นมาจากปานรวี
“สารภาพมาซะดีๆ หรือต้องให้เรียกทิพย์มาอีกคน” นิมาพูดขู่
“โหคนเดียวก็แย่แล้ว แต่เรื่องมันยาวนะ ไว้ค่อยไปเล่าที่ร้านได้เปล่า ไม่อย่างนั้นคนไข้จะแย่นะ” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ เหมือนรู้สึกผิดที่มีอะไรปิดบังเพื่อน หากแต่ว่าก็ยังไม่พร้อมที่จะเล่าเรื่องของปานรวี
“เพื่อนเตือนแล้วไม่ฟัง ต้องรอปลอบตอนมาร้องไห้ซะล่ะมั้ง” นิมาพูดทีเล่นที่จริง
“ถ้าอ๋อมร้องไห้ไปหา นิ่มจะปลอบไหมล่ะ” เอรินถามเสียงอ่อยๆ
“จะด่าก่อนค่อยปลอบ เตือนไม่ฟัง” นิมาหัวเราะ
“โห มีด่าด้วย”
“รู้ใช่ไหมว่าอาจจะเสียใจมากกว่ามีความสุข” นิมาถามขึ้นลอยๆ
“ตอนนิ่มล่ะ ทุกข์ขนาดนั้น ทำไมยังยอมให้ทิพย์อยู่ในชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ได้ล่ะ” เอรินถามกลับจ้องมองนิมาที่มองตาแป๋วอยู่
“รัก แต่นิ่มไม่มีปัญหาแวดล้อมเยอะแยะนะ ปัญหาแก้ที่ทิพย์คนเดียว แต่ของอ๋อมมันจะหนักหนากว่า ถึงจะไม่มีพี่ เอ่อ” นิมาไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ ซึ่งตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่า ระหว่างเอรินกับปานรวีนั้นเรื่องราวไปถึงไหนกันแล้ว นอก เสียจากว่า เจ้าตัวจะยอม
บอกออกมาบ้าง
“ไว้อ๋อมไปเล่าให้ฟังที่ร้านดีกว่า ถามหน่อยสิ ตอนโน้นน่ะที่ทิพย์ร้ายใส่อยู่ตลอด นิ่มรู้สึกอย่างไรเวลาทิพย์เข้าใกล้” เอรินถามเพราะอยากรู้ว่า เป็นอย่างที่ตัวเองรู้สึกเวลาที่อยู่ใกล้กับปานรวีหรือไม่
“แพ้ตลอด รายนั้นน่ะ ชอบยั่ว ถึงเนื้อถึงตัว ปากว่าเกลียด แต่เบียดเข้าหาจนหลังชนฝาตลอดแหละ นิ่มก็ยอมให้จูบอยู่ร่ำไป” นิมายิ้ม เมื่อนึกถึงเรื่องของตัวเองกับทองทิพย์
สองสาวทานอาหารไปคุยกันไป เรื่องโน้นเรื่องนี้ โดยไม่ได้พูดถึงเรื่องของปานรวีเลย เพราะผู้คนที่นั่งรับประทานอาหารกันอยู่มากพอสมควร ซึ่งคงไม่เหมาะที่จะมานั่งคุยเรื่องราวระหว่างปานรวีกับเอริน
“สวัสดีค่ะ พี่ป๊อบ” นิมารับสายแล้วอมยิ้ม ยักคิ้วให้เอรินที่คิ้วขมวดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจเพราะคุยกันเรื่องนัดส่งขนมกันเสียมากกว่า
“ขอโทษทีนะคะ ที่เลื่อนมาเป็นวันนี้”
“ยินดีค่ะ นิ่มอยู่กับอ๋อมทานอาหารเช้ากันอยู่ค่ะ พี่ป๊อบจะคุยอะไรกับ อ๋อมไหมคะ” นิมายิ้มทะเล้นให้คนที่จ้องเขม็งมองด้วยสายตาดุๆ
“ฝากความคิดถึงก็แล้วกันค่ะ ขอบคุณนะคะ นิ่ม เดี๋ยวเจอกัน” นิมาอมยิ้มทำเป็นนิ่งๆ แต่เชื่อว่าเอรินคงอยากรู้แน่เลยว่า ปานรวีพูดว่าอะไร หลัง จากได้ยินว่าจะคุยอะไรกับเอรินหรือเปล่า
“ไปเหอะอิ่มแล้ว เดี๋ยวพี่ป๊อบรอ” นิมาเดินนำลิ่วๆ ไปที่รถ แอบยิ้มเมื่อเห็นเอรินรีบเดินตามมาติดๆ
“เดี๋ยวสิ นิ่ม” เอรินดึงนิมาเอาไว้ หลังจากเดินมาถึงรถของคนที่ยืนกอดอกยิ้มอยู่ ดูก็รู้ว่าแสดงอาการเล่นตัวออกมาให้เห็น
“ว่ามาค่ะ หมอ” นิมาพูดเสียงเข้ม
“คือ”
“ผู้กองบอกว่า ฝากความคิดถึงมาถึง หมอค่ะ พอใจไหมคะ” นิมายิ้ม เมื่อเห็นคนที่เดินตามมาหน้านิ่งๆ ยิ้มออก
“อ๋อมชอบพี่ป๊อบ ชอบแบบที่นิ่มกับทิพย์ชอบกันน่ะ” เอรินพูดโพล่งออกมา แต่ก็รู้สึกสบายใจเมื่อเห็นนิมายิ้มน้อยๆ ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจอะไร
“แล้วพี่ป๊อบล่ะ” นิมาถามกลับ