bc

บ่วงอสูรพยศรัก

book_age12+
963
ติดตาม
3.8K
อ่าน
เย่อหยิ่ง
ข่มขี่
หวาน
ชายจีบหญิง
หนักใจ
นางเอก
เมือง
first love
เจ้าเล่ห์
punishment
like
intro-logo
คำนิยม

ขคราช - หนุ่มเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ ปากร้าย แต่ความหล่อเหลาระดับแถวหน้า เขาเกลียดมารตรี ดูถูกเธอสารพัด กล่าวหาเธอเป็นเพียงผู้หญิงหิวเงิน ขายร่างกายหวังแลกเศษเงินจากผู้ชาย โดยผู้ชายหนึ่งในนั้นคือบิดาบังเกิดเกล้าของเขาเอง เรื่องอะไรเขาจะยอม ถ้าอยากนักเขาจะสนองเธอเอง...

มารตรี - หญิงสาวสวยหมดจด ครอบครัวล้มละลาย เธอจึงทำงานทุกอย่างไม่เกี่ยง ขอแค่เป็นงานสุจริต หวังเพียงเลี้ยงตัวเองกับคุณตา เธอถูกขคราชคอยกล่าวหา ยัดเยียดให้เป็นผู้หญิงขายตัว เป็นผุ้หญิงของบิดาเขา แต่ทำไมเขาถึงชอบเข้าหาเธอนักก็ไม่รู้ ยิ่งหนีเขายิ่งตาม ยิ่งเธอรำคาญเขายิ่งตามตอแย...

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
Ep1 : เปิดตัวอสูร By...kanokrot
เอี๊ยด!!! เสียงเบียดยางล้อรถครูดไปตามพื้นถนน ดังกังวานไปทั่วบริเวณโดยรอบของตัวคฤหาสน์ ยมดิสรณ์  ตัวตึกฉาบสีขาวสูงตระหง่านตั้งโดดเด่นอยู่บนเนื้อที่เกือบสามไร่ ตรงส่วนของด้านหน้าถัดจากถนนคอนกรีตราดยาว เป็นโซนของน้ำพุขนาดใหญ่ จุดตรงกลางโดดเด่นด้วยหัวมังกรพ่นน้ำ เป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์สื่อถึงความสงบสุขร่มเย็นของคนในบ้านนั่นเอง นอกจากจะเป็นการโชว์สถาปัตยกรรมชิ้นเอกจากช่างมีฝีมือดังระดับโลกที่ใครหลายคนต่างต้องยกนิ้วให้ ยังเป็นเครื่องหมายแสดงถึงอำนาจบารมีอันยิ่งใหญ่ ของเจ้าของสถานที่นี้อีกด้วย... “ลุงมั่นจ้า...เร็วเข้าเถอะจ้ะ ฉันได้ยินเสียงรถของคุณราชเธอแล่นเข้ามาถึงด้านในแล้วนู่น รู้สึกกำลังจะถึงลานน้ำพุอยู่แล้วนะนั่น...” มะยมสาวใช้วัยรุ่น ตะเบ็งเสียงเรียกผู้เป็นลุงแท้ๆของตน ก่อนจะโผล่ร่างผอมบางเข้ามาถึงด้านในห้องครัว ในมือถือถาดพัดไปมาในอากาศเพื่อคลายความร้อน “เออน่า ข้าได้ยินแล้ว เอ็งจะตื่นตูมอะไรนักหนาวะมะยม” ลุงมั่นเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว แกเป็นคนขับรถเก่าแก่ของที่นี่ ซึ่งตอนนี้หน้าที่ของแกมีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือคอยวิ่งออกไปรับกุญแจรถจากเจ้านายคนเล็ก แล้วขับนำไปเก็บยังโรงจอดต่ออีกทอดหนึ่ง... “นี่อย่าบอกนะ ลุงไม่กลัวอารมณ์ของคุณราชเธอแล้ว เหลือเชื่อจริงๆ..” ผู้เป็นหลานเบ้ปาก พอนึกถึงเรื่องคราวก่อนขนในกายยังลุกไม่หายเลย เด็กสาวส่ายหัวให้กับอารมณ์พายุของเจ้านายหนุ่ม  “เร็วเข้าเถอะลุง ฉันยังไม่อยากถูกหางเลขไปกับลุงด้วยอีกคนหรอกนะ ฉันกลัวจ้ะ ยิ่งวันนี้คุณรตรีเธอมาส่งงานให้ท่านเจ้าสัวด้วย ฉันนี่ไม่อยากจะนึกภาพตามเลย ไม่รู้คุณรตรีจะโดนอะไรอีกบ้าง...” มะยมพูดไปก็ถอนหายใจไป เพราะตนเองนั้นยังมีหน้าที่ต้องออกไปเสิร์ฟเครื่องดื่มให้พวกคุณๆข้างนอกอีก ก่อนจะเดินนำถาดเครื่องดื่มอันเก่า วางลงบนโต๊ะหินอ่อน แล้วหันไปคว้าเอาถาดกาแฟร้อน ชาร้อนชุดใหม่ ซึ่งเจ้าตัวได้จัดเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านั่นมาเตรียมถือไว้ในมือ พร้อมจะออกไปเสิร์ฟให้พวกคุณๆด้านนอก ส่วนปากก็หันไปเร่งลุงมั่นอีกครั้งด้วยความร้อนใจ ไม่ใช่อะไร กลัวจะโดนลูกหลงนั่นเอง... " เออๆ ข้าได้ยินแล้ว แต่ขอข้ากินอีกสักคำเดียวเถอะนะ ก่อนที่ข้าจะกินอะไรไม่ลง เอ็งก็ได้ยินเสียงรถไม่ใช่เหรอ เล่นขับเข้ามาราวกับพายุบุแคมแบบนี้ มีหวังข้าไม่น่ารอดหรอก พวกเอ็งคอยดูก็แล้วกัน” ท้ายประโยคลุงมั่นหันไปโอดครวญกับคนงานคนอื่นภายในห้องครัว ช่วงหลังมานี้แกมักถูกเจ้านายคนเล็กดุอยู่เป็นประจำ นั่นเป็นเพราะความเชื่องช้าไม่ทันใจ เนื่องจากวัยที่เพิ่มมากขึ้น ร่างกายเลยทำงานไม่ว่องไวเหมือนตอนสมัยแกเป็นหนุ่มอีกแล้ว แต่ก็อย่างว่า ตอนนี้หน้าที่หลักของแกคืองานในสวนเล็กๆน้อยๆ ออกจะสบายกว่ามากใครทั้งหมดในห้องครัวนี้อยู่มากโข ด้วยอายุอานามที่มากขึ้นเรื่อยๆ หูตาจึงเริ่มเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา ท่านเจ้าสัวราพจึงตัดสินใจ ปรับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ให้แกเสียใหม่ โดยการหาคนขับรถคนใหม่มาแทน แล้วสลับให้แกกลับไปทำงานอยู่ในสวนอย่างที่บอก พร้อมกับทำหน้าที่คอยวิ่งเก็บรถเข้าโรงจอดอีกทอดหนึ่งให้กับเจ้านายคนเล็กของบ้านหลังนี้... “ก็ถ้าพี่ยังจะชักช้า มัวแต่ห่วงกินอยู่นั่น พี่ก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้รอได้เลย ฉันว่ายังไงพี่ก็คงไม่รอดหรอก ตกงานขึ้นมาตอนแก่แล้วจะรู้สึก แต่ตอนนี้คนที่ฉันเป็นห่วงมากที่สุดน่าจะเป็นคุณรตรีมากกว่านะ อย่างที่มะยมมันพูด ไม่รู้วันนี้คุณรตรีจะถูกคุณราชเธอรังแกอะไรอีกบ้าง...” ชบาเมียสาวขัดขึ้น ในมือยังคงถือทัพพีค้างไว้ ตอนหันหน้าไปพูดคุยกับผู้เป็นสามี ยิ่งวันนี้คุณมารตรีมาส่งงานให้ท่านเจ้าสัวราพถึงในบ้าน พายุลูกย่อมที่เคยปรากฏมาหลายครั้ง อาจกลายเป็นพายุทอร์นาโดได้ในที่สุด ในเมื่อคุณราชเคยสั่งห้ามไม่ให้คุณมารตรีมาเหยียบในบ้านหลังนี้อีกเป็นอันขาด เคยแม้กระทั่งมีเรื่องทะเลาะกันใหญ่โตมาก่อนหน้านั้นแล้วหนหนึ่ง จนเป็นสาเหตุทำให้คุณราชงอนคุณพ่อไม่ยอมกลับเข้าบ้านอยู่เป็นเดือนๆ เดือดร้อนท่านเจ้าสัวราพ ต้องคอยวิ่งตามไปง้องอน ขอให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกลับเข้าบ้านมาเสียที เพราะท่านมีลูกชายเพียงคนเดียว ทั้งรักทั้งตามใจกันมาโดยตลอด จนเจ้านายคนเล็กกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่เคยฟังใครมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง... “ปากเอ็งนี่นะอีชบา เดี๋ยวเหอะมึง พูดอะไรออกมาหัดเป็นมงคลกับชีวิตข้าเสียบ้างสิ เอ็งก็รู้ข้าแก่แล้ว ถ้าตกงานขึ้นมา เอ็งนั่นแหละจะเป็นคนลำบากไม่ใช่เฉพาะข้าคนเดียวเสียเมื่อไหร่...” ลุงมั่นชี้หน้าเมียด้วยสีหน้าบึ้งตึง กะจะหันไปด่าเมียให้หายโมโหอีกสักยก แต่ทว่ากลับถูกหัวหน้าแม่บ้านพ่วงท้ายด้วยตำแหน่งคุณนมของเจ้านายคนเล็ก ส่งเสียงเข้มขัดทัพขึ้นมาเสียก่อน  “เอ็งสองคนก็มัวแต่ทะเลาะกันอยู่นั่น ประเดี๋ยวเถอะ พายุอารมณ์ของคุณราชจะได้เข้ามาพัดถล่มกันถึงห้องครัวอีกจนได้ เที่ยวนี้ข้าไม่ช่วยใครทั้งนั้นนะ บอกเอาไว้ก่อนเลย ตัวใครตัวมันนะโว้ยงานนี้...”  ป้าน้อยหัวหน้าแม่บ้าน พูดขัดทัพศึกน้ำลายระหว่างผัวแก่กับเมียสาว ขืนปล่อยให้เถียงกันไปเถียงกันมา คุณราชของแกคงได้เข้ามาอาละวาดจนถึงในห้องครัวอีกจนได้ คนงานในบ้านหลังนี้ต่างรู้ซึ้งถึงอารมณ์ร้ายรุนแรงของเจ้านายคนเล็กดี มีใครในบ้านหลังนี้บ้าง ที่ไม่กลัวคุณราชของแก... “ มะยมเอ็งอย่าลืมเอาโกโก้ร้อนออกไปให้หนูรตรีของข้าด้วยล่ะ มาเช้าๆแบบนี้ไม่รู้ทานอะไรรองท้องมาหรือยัง ก่อนเธอจะเข้าไปหาท่านเจ้าสัว อุตส่าห์มีน้ำใจ เดินถือเอาโถขนมปังกรอบมาฝากข้าถึงในห้องครัว แล้วก็ขอตัวออกไปส่งงานให้ท่านเจ้าสัวเลย บอกวันนี้เช้ามีสอบต้องรีบไปเสียด้วย คงไม่ได้อยู่ทานอาหารเช้าพร้อมกับพวกท่านๆแน่...” พอแกห้ามทัพเสร็จ จึงหันไปร้องสั่งมะยมให้ยกเอาเครื่องดื่มร้อนออกไปเผื่อสาวน้อยแสนน่ารักของแกด้วย นอกเหนือจากกาแฟร้อน ชาร้อน ของท่านเจ้าสัวราพกับของคุณราช มะยมคันปากอยากจะแย้งคุณป้าแม่บ้านใหญ่นัก ไอ้โถขนมปังกรอบที่คุณรตรีเอามาฝากนั้น เธอเอามาฝากให้ทุกคนในนี้ต่างหาก ไม่ใช่เอามาฝากเฉพาะคุณป้าน้อยคนเดียวเสียเมื่อไหร่กัน เหอะ...คนแก่นี่ขี้ตู่ชะมัด เขาเอามาให้แบ่งกันทาน แต่คุณป้าแม่บ้านใหญ่กลับเก็บเงียบ เอาไปทานคนเดียวหน้าตาเฉย มะยมคันปากยิบๆแต่สิ่งเดียวที่ทำได้ นั่นก็คือพยักหน้าเออออไปตามน้ำ “ได้จ้ะ ป้าน้อย ฉันเตรียมเอาไปให้คุณรตรีเธอเรียบร้อยแล้วละ แต่ว่า...เอ่อ...วันนี้คุณราชแกจะไม่อาละวาดคุณรตรีอีกใช่ไหมจ๊ะป้า ฉันล่ะรู้สึกเป็นห่วงคุณรตรีเธอจริงๆเลย ไม่รู้จะโดนคุณราชเธอแกล้งอะไรให้อีกน่ะสิ...” “คงไม่หรอกมั้งเอ็ง วันนี้ท่านเจ้าสัวท่านก็อยู่ด้วย คุณราชคงไม่กล้าทำอะไรหนูรตรีเหมือนวันนั้นหรอกน่า ก็ถูกยื่นคำขาดจากท่านเจ้าสัวแล้วนี่นา ถ้าขืนคุณราชยังทำตัวเกเร หาเรื่องอะไรหนูรตรีจนต้องร้องไห้เสียใจอีกหน ท่านเจ้าสัวจะรับคุณรตรีมาเป็นลูกสาวแท้ๆ เอาสมบัติของคุณราชยกให้ครึ่งหนึ่ง คุณราชเธอไม่ยอมให้ท่านเจ้าสัวทำแบบนั้นหรอกนะเอ็งก็รู้ เธอเลยไม่กลับเข้าบ้านมาตั้งนาน เพราะกลัวจะอดใจไว้ไม่อยู่ ยามต้องเจอกับคุณรตรีที่บ้านหลังนี้ไง...”  คุณแม่บ้านใหญ่เล่าสิ่งที่ตนได้ยินมาให้บรรดาลูกมือฟัง ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ยังเหลืออีกนิดแอบกลัวหน่อยๆ กลัวคุณราชจะทำอะไรหนูรตรีของทุกคนให้เจ็บตัวอีก คนเคยทำร้ายกันเห็นหน้ากันจะอดใจได้เหรอ... “ถ้าเป็นอย่างที่ป้าน้อยบอกจริง ฉันก็ค่อยโล่งใจได้หน่อย ฉันจะได้หายใจสะดวกตอนเอาเครื่องดื่มออกไปเสิร์ฟให้พวกท่านๆนะจ้ะป้า” มะยมบอกในสิ่งที่ตัวเองนึกผวา “ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีเหมือนกันนะมะยม” ชบาไม่วายหันไปเอ่ยเตือนหลานสามีเบาๆ “ป้าชบาก็...ฉันยิ่งกลัวๆอยู่ด้วย” “อ้าวไอ้มั่น นั่นเอ็งยังจะห่วงกินอยู่อีกหรือไง ทำไมถึงยังไม่รีบออกไปอีกล่ะโว้ย ไอ้นี่... มันวอนโดนด่าเสียแล้วไหมละ” ป้าน้อยแหวใส่มั่นเมื่อแกหันกลับมาเห็นมั่นนั่งโซ้ยข้าวสบายใจเฉิบ ไม่รีบร้อนจะออกไปทำงาน “จ้ะๆพี่น้อย ฉันรีบไปแล้วจ้ะ อีชบาข้าฝากเอ็งเก็บโต๊ะให้ทีนะ ข้าไปล่ะ..." ลุงมั่นรีบวางช้อนในมือลง หูตาเหลือกขึ้นมา เมื่อถูกหัวหน้าแม่บ้านดุใส่อีกครั้ง ก่อนจะหันไปสั่งเมียสาวให้เก็บสำรับอาหารเลย ถึงแกยังนึกเสียดายอาหารที่ยังเหลืออีกตั้งหลายคำ แต่ถ้าขืนชักช้าโอ้เอ้มัวแต่ห่วงกินอยู่ ผมหงอกบนหัวแกคงไม่วายถูกคุณราชถอนทิ้งดั่งคำพูดของชบาเป็นแน่แท้ "เออ...รีบไปให้ทันคุณราชเถอะพี่มั่น เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการให้เอง...” ชบาขานรับสามีตัวเองด้วยเสียงระเหี่ยใจ เรื่องกินนี้ไม่ได้เลย ต่อให้ถูกด่าจนสะเทือนผมหงอกบนหัว ผัวเธอก็ยอมได้หมดทั้งนั้น...   ********************   และทันทีที่ร่างใหญ่ผึ่งผายสมชายชาตรีก้าวขาขึ้นตัวตึกใหญ่ พลันสายตาคมดุดุจพญาเหยี่ยวมองจ้องเหยื่ออันโอชะ ดันเหลือบแลไปเห็นรถยนต์มินิคันเก่าแสนคุ้นตาเข้าพอดี มันจอดนิ่งสงบอยู่ใต้ต้นหูกระจงริมกำแพง หัวใจแกร่งที่นิ่งสงบมาหลายวัน จึงร้อนรนดั่งไฟเผาขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่... “แม่นั่นมาเหรอ?” คนร้อนใจเอ่ยถามเสียงกระด้างเมื่อเห็นสาวใช้เดินผ่านเข้ามาทางที่เขายืนอยู่พอดี คิ้วเข้มหนาของชายหนุ่มเลิกขึ้นสูงด้วยความสงสัย แม่นี่จะมาบ้านของเขาทำไมแต่เช้าวะ... หรือว่าไม่ได้มาตอนเช้า แต่มาตั้งแต่เมื่อวาน หรือไม่แน่ เจ้าหล่อนอาจจะมาขลุกตัวอยู่กับป๋าของเขาได้หลายวันเสียแล้วก็ไม่รู้ พอคิดได้ดังนั้นฝ่ามือใหญ่จึงกำเข้าหากันแน่น อารมณ์ดั่งพายุเริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย เนื่องจากเขาต้องไปทำงานต่างจังหวัดเสียหลายสัปดาห์ เลยไม่ได้กลับเข้าบ้านเลย ไม่ได้รับรู้ข่าวสารความเป็นมาเป็นไปภายในบ้านยมดิสรณ์สักเท่าไหร่ ใครจะมาใครจะไปเขาก็ไม่รู้ เพราะมันไม่มีเวลาจริงๆ กว่าเขาจะหาตัวต้นตอเจอ ก็เล่นเอาซะปวดหัวไปหลายวัน  วันนี้งานที่ต้องเร่งไปสะสางปัญหาต่างๆเสร็จสิ้นเรียบร้อยในทิศทางดีขึ้น เขาจึงคิดกลับเข้าบ้านมาเพื่อรายงานปัญหาต่างๆของโรงแรมที่เป็นปัญหา ให้ป๋าของเขาได้รับรู้ หากทว่ากลับต้องเจอเข้ากับเรื่องร้อนใจ ทำให้หงุดหงิดทุกครั้งยามเมื่อเห็นแม่ผู้หญิงร้อยเล่ห์จอมมารยาสารพัดพิษ มาขลุกตัวอยู่กับป๋าของเขาที่บ้านยมดิสรณ์แห่งนี้ ไม่รู้ป๋าเขาจะหลงอะไรแม่ร้อยเล่ห์คนนี้หนักหนาสินะ หลงกันตั้งแต่แม่นั้นยังไม่เป็นสาว จนปัจจุบันมารตรีแตกเนื้อสาวส่งกลิ่นยั่วน้ำลายอย่างดี จนทำให้ป๋าของเขานั้นกลับยิ่งหลงหนักจนชนิดที่เรียกว่าหัวปักหัวปำก็ว่าได้... “ฉันถามว่าแม่นั่นมาเหรอ...” เสียงเข้มกลายเป็นเสียงเขียว เมื่อสาวใช้ดวงกุดมัวแต่กลัวแต่ไม่ตอบ  “เอ่อ..คุณราชถามถึงใครหรือคะ... “  สาวใช้ดวงกุดละล่ำละลักถามกลับ เพราะตัวเองมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน เลยไม่รู้เจ้านายนั้นถามถึงใครกันแน่ “ โง่หรือหูหนวกกันวะ” เจ้านายหนุ่มตะคอกลั่นจนสาวใช้สะดุ้ง พยายามงอตัวให้เหลือเล็กที่สุด เหลือบมองเจ้านายหวาดๆ “บ้านนี้เขาก็เลี้ยงด้วยข้าว ไม่ได้ตัดหญ้าให้กินเสียเมื่อไหร่ ทำไมถึงได้โง่กันนักนะ ถามอะไรไม่เคยได้ดั่งใจสักคนเดียว...” คนอารมณ์ร้อนด่ากราด ใจเขาหงุดหงิดร้อนรุ่ม มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ยามได้เห็นมารตรีมาบ้านหลังนี้ และอยู่กับป๋าของเขาเพียงลำพัง  คนถูกด่าอ้าปากเหวอ หน้าซีดเผือดมือเท้าเย็นไปหมด เมื่อคืนนี้ตัวเองฝันว่าอะไรหว่า เช้ามาถึงได้ดวงซวยขนาดหนัก เจอใครดันไม่เจอ ดันเดินออกมาเจอคุณราชเข้าได้ เจ้านายคนเล็กที่อารมณ์ไม่ได้เล็กตามเลยสักนิดเดียว... “ฉันจะถามหาใคร ถ้าไม่ใช่ยายรตรี”  “อ้อ...คุณ...คุณมารตรีเธอมาแต่เช้าแล้วค่ะ” เมื่อเจ้านายเฉลยให้กระจ่างใจขึ้น ตุ๊กตาจึงรีบตอบออกไปเสียงสั่น ไม่รู้จะจงเกลียดจงชังอะไรคุณมารตรีเธอนักหนา ทั้งที่ความจริง คุณมารตรีเธอออกเป็นคนดีแสนดี สวยก็สวย ขยันก็ขยัน แถมนิสัยยังอ่อนหวานนุ่มนวลอีกต่างหาก ใครได้ไปเป็นศรีภรรยาคงจะมีแต่คนอิจฉาที่เกิดมามีเมียดีขนาดนี้... “มาตอนเช้าเหรอ?...”  พอได้ยินมารตรีมาเมื่อเช้าไม่ได้มานอนค้าง ใบหน้าตึงผ่อนคลายลง โล่งใจไปที แม่นั่นไม่ได้มานอนค้างกับป๋าเขาอย่างนึกกลัว แต่ทว่าใจเขาก็ยังไม่สงบสุขเสียทีเดียว มันยังรู้สึกเดือดดาลอยู่ภายใน เมื่อสมองมันดันคิดเรื่องไม่ดีของแม่นั่นขึ้นมาอีกจนได้ คนมันเกลียดก็เป็นเรื่องปกติจะคิดแต่เรื่องไม่ดีของอีกฝั่งอยู่ในหัว ในเมื่อช่วงพักหลังๆมานี้ แม่ร้อยเล่ห์จอมมารยามักจะมาเยี่ยมป๋าของเขาบ่อยครั้งขึ้นเหลือเกิน ได้ข่าวว่าปีนี้เจ้าหล่อนกำลังเรียนเป็นเทอมสุดท้ายแล้วด้วย และดูเหมือนป๋าของเขามีความคิดไม่เข้าท่าเอาเสียเท่าไหร่ เมื่อท่านต้องการให้แม่ผู้หญิงร้อยมารยามาเป็นผู้ช่วยเลขาส่วนตัวของท่าน แทนผู้ช่วยเลขาคนเก่าที่กำลังจะขอลาคลอดอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ป๋าเขานี่ก็เหลือเกินเตือนอะไรไม่เคยจะฟังกันเสียบ้าง ไม่รู้จะหลงเสน่ห์อะไรของแม่นั้นนักหนา ถึงได้ชอบเรียกใช้บริการจากแม่ร้อยเล่ห์เกือบจะอาทิตย์เว้นอาทิตย์ก็ว่าได้ ผู้หญิงที่ใช้เนื้อเนื้อหนังมังสาเข้าแลกกับเศษเงินเล็กๆน้อยๆ ไม่รู้ว่ามีดีอะไร ถึงทำให้ทั้งคนหนุ่มทั้งคนแก่หลงกันหัวปักหัวปำ โดยเฉพาะป๋าของเขาแล้วยิ่งไปกันใหญ่ หลงถึงขั้นมองแม่นี่เป็นผู้หญิงดีงามไปหมดเสียอย่างนั้นเลยทีเดียว...  เขาเคยเตือนท่านกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เคยจะฟังกัน ผู้หญิงที่มีดีแต่รูปอย่างมารตรี เบื้องลึกเบื้องหลังนั้นกลับส่งกลิ่นเน่าเหม็นโฉ่ จนเขานั้นรับแทบไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาเห็นเจ้าหล่อนในบ้านของตนเอง อาการบ้าคลั่งมันมักจะกำเริบ ฆ่าได้เขาคงฆ่ามารตรีไปนานแล้ว คงไม่เก็บเจ้าหล่อนมาคอยทำให้เขาเสียอารมณ์จนจะกลายเป็นบ้าอย่างทุกวันนี้แน่นอน “ค่ะ...คุณรตรีเธอเพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี้เอง...” ตุ๊กตารีบตอบเสียงสั่น เพราะกลัวจะถูกต่อว่าให้อีก “ฉันไม่ได้ถามเธอ...อย่ามาเที่ยวสะเออะตอบอะไรส่งเดชไม่เข้าท่า จะไปไหนก็ไป รีบไปให้พ้นหูพ้นตาของฉันเร็วๆยิ่งดี คนใช้บ้านนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด ชอบทำตัวน่ารำคาญสิ้นดี ไอ้ที่ถามไม่ยอมตอบ แต่ไอ้ที่ไม่ได้ถามนี่ทะลึ่งตอบออกมากันนักเชียว...” คนถูกดุได้แต่ยืนหน้าซีดตัวสั่นไม่กล้าขยับขาเดินไปไหน “หนู...ขะ...ขะ...ขอ...” ตุ๊กตากำลังจะเอ่ยปากขอโทษเจ้านายคนเล็ก ก็มีอันต้องสะดุ้งโหยงขาแทบทรุดลงนั่งกับพื้น เมื่อเสียงขับไล่ดังยิ่งกว่าฟ้าผ่ากลบเสียงติดอ่างของตัวเองซะงั้นไป “ไปไหนก็ไปสิ...จะมายืนหาสวรรค์วิมานทำไมอีกวะ” “ค่ะๆ หนูไปแล้วค่ะ” ตุ๊กตาลนลานขานรับเสียงสั่น ก่อนจะรีบวิ่งปู๊ดหลบหายไปทางด้านหลังตึกใหญ่ ขคราชกระแทกส้นเท้าลงกับพื้นเสียงดัง ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ เขาเกิดอาการหงุดหงิดงุ่นง่านไม่สบอารมณ์ หวังจะระบายออกกับพื้นกระเบื้อง เผื่อมันพอจะช่วยบรรเทาให้อารมณ์ร้อนของเขาได้ทุเลาลงบ้าง ด้วยลักษณะนิสัยส่วนตัวของเขา เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองชนิดใครๆรอบตัวต้องยกนิ้วให้ ไม่เคยให้ความสนใจหรือความสำคัญกับใครหน้าไหนทั้งนั้น ยามเมื่อถูกขัดใจไม่ได้ดั่งหวัง เขานั้นพร้อมอาละวาดใส่คนรอบข้างไม่ยั้ง เพื่อความซะใจได้เสมอ...   *******************   “อาทิตย์หน้าหนูพอจะมีเวลาว่างหรือเปล่ารตรี หรือว่ารับงานที่ไหนเอาไว้บ้างแล้ว...” ท่านเจ้าสัวราพวางกระดาษขาวเก็บเข้าในแฟ้มด้วยความพึงพอใจ ก่อนเอ่ยปากถามหญิงสาวคราวลูกตรงหน้า ที่ท่านทั้งรักและเอ็นดูไม่ต่างจากบุตรสาวอีกคนของตัวท่านเอง ถ้าแลกได้ ตัวท่านเจ้าสัวก็อยากจะแลกลูกชายให้กลายเป็นลูกสาวน่ารักๆ อย่างมารตรีเสียเหลือเกิน เพราะคงจะทำให้เขาปวดหัวน้อยลงกว่าการมีลูกชายที่ทั้งดื้อและเอาแต่ใจตัวเองสุดๆอย่างขคราช “น่าจะว่างค่ะคุณลุง เพราะวันนี้รตรีมีสอบเป็นวันสุดท้ายพอดี อาทิตย์หน้าก็ยังไม่มีงานอะไรเข้ามาเสียด้วย คงจะว่างทั้งอาทิตย์เลยล่ะค่ะ ว่าแต่คุณลุงมีอะไรให้รตรีรับใช้หรือเปล่าคะ บอกกับรตรีมาได้เลย รตรียินดีรับใช้คุณลุงค่ะ...” เธออาสาช่วยด้วยความเต็มใจ ใบหน้าหวานจึงเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มยินดี “กับลุงน่ะไม่มีอะไรหรอกนะ ที่ถามหนูนี่ ก็เพราะมีงานดีๆอยากจะให้หนูลองทำดู มันเป็นงานของคุณหญิงช่อฟ้า เพื่อนสนิทของลุงเอง คุณหญิงคนที่ลุงเคยให้หนูออกแบบลวดลายเครื่องประดับให้เมื่อปีก่อนไง หนูรตรีพอจะจำได้ใช่ไหม” ท่านเจ้าสัวเท้าความไปเมื่อปีก่อน มารตรีพยักหน้าเพราะเธอจำได้ “ลุงดูรายละเอียดคร่าวๆของงานให้แล้ว เห็นไม่มีอะไรน่าเสียหาย มันเป็นงานถ่ายแบบธรรมดา เป็นปกหนังสือจัดทำพิเศษเพื่องานเปิดตัวอัญมณีชุดใหม่ ลุงว่าหนูน่าจะถนัดอยู่แล้ว เลยลองเสนอชื่อหนูกับทางนั้นเขาดู พอเขารู้ว่าเป็นหนูเท่านั้นแหละ คุณหญิงช่อฟ้าเธอก็ตอบตกลงรับทันทีเลยนะ...” ท่านเจ้าสัวราพเล่าถึงงานถ่ายแบบเครื่องเพชรคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดด้วยท่าทางสบายๆ เพราะท่านเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญของที่นั่นด้วยเหมือนกัน  เนื่องจากมีความสนใจอยากลองเปิดประสบการณ์ด้านใหม่ๆให้กับตัวเองดูบ้าง ส่วนงานด้านโรงแรม ตอนนี้เขาได้วางมือให้ไอ้ตัวดีมันรับช่วงทำต่ออย่างเต็มตัว จึงพอมีเวลาว่างเหลือ เลยอยากจะหาอะไรทำแก้เหงาเสียหน่อย เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกมารตรี เพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไรมากมาย “รตรีสนใจค่ะ ขอให้เป็นงานสุจิตรตรีทำได้หมด...” ใบหน้าหวานเปิดยิ้มกว้างอย่างยินดี เมื่อเธอจะได้มีรายได้เข้ามาอีกช่องทางหนึ่ง งานถ่ายแบบเป็นงานที่เธอเคยทำมาบ้างแล้ว จึงไม่คิดจะปฏิเสธออกไป อีกทั้งเธอยังมั่นใจ ถ้าหากท่านเจ้าสัวราพเป็นคนเอ่ยปากหางานให้ งานนั้นย่อมเป็นงานที่ดีและปลอดภัยกับตัวเธออยู่แล้ว “นั้นเดี๋ยวลุงจะคอนเฟิร์มกลับไปทางนั้น ยืนยันว่าหนูตกลงก็แล้วกันนะ ถ้าเขานัดเซ็นสัญญาเมื่อไหร่ลุงจะบอกหนูอีกทีก็แล้วกัน” “ขอบคุณมากนะคะคุณลุงที่ยังเมตตารตรีเสมอมา” หญิงสาวพนมมือยกขึ้นไหว้พร้อมรอยยิ้มขอบคุณด้วยความซึ้งใจ รายได้จากการทำงานส่วนมาก เธอก็ได้มาเพราะได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าสัวราพทั้งนั้น ท่านรู้ว่าถ้าหากให้เงินฟรีๆ เธอต้องไม่รับแน่ ท่านจึงเปลี่ยนวิธีจากการให้เงิน เป็นการหางานให้เธอทำแทน “ไม่ต้องมาเกรงจงเกรงใจอะไรลุงทั้งนั้น ถ้าเรามีอะไรเดือดร้อน ขอให้บอกลุง ไม่ต้องไปคิดอะไรมากด้วย อย่าลืมสิครอบครัวหนูกับลุง มันก็คนกันเองทั้งนั้น หนูไม่ต้องขอบคุณลุงหรอกนะ ลุงเสียอีกที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณครอบครัวของหนูรตรี ติดหนี้ชีวิตไว้มากเสียด้วย...” เมื่อนึกถึงเรื่องอดีตขึ้นมา ก็ได้แต่ถอนใจ ถ้าหากวันนั้นเขาไม่ได้มารดาของมารตรีช่วยเหลือเอาไว้ได้ทันเวลา ป่านนี้เขาคงได้ไปเฝ้ายมบาลเสียนานแล้วก็ไม่รู้ “แล้วนี่จ้ะหนู....ค่าเหนื่อยงวดนี้ ลุงต้องขอบใจหนูมากๆเลยนะ งานสวยเก๋ไม่มีที่ติเลย ลุงชอบมาก ลูกค้าทางต่างประเทศเขาก็ชอบ ยังฝากชมฝีมือของหนูมากับลุงด้วย รอบนี้ออเดอร์คงจะมาอีกหลายสิบชุดเชียวละ ถ้ามีมาอีกเมื่อไหร่ลุงจะโทรไปบอกหนูก็แล้วกัน แต่คงไม่น่าจะเกินปลายเดือนหน้า เพราะเท่าที่ลุงได้คุยรายละเอียดคร่าวๆกับทางนั้นมา เขาบอกต้องการอีกหลายคอลเลคชั่นเลยนะ...” หญิงสาวรับซองสีขาวมาถือไว้บนตัก ก่อนจะพนมมือไหว้ขอบคุณเจ้าสัวราพอีกครั้ง “ขอบคุณค่ะ” “ส่วนนี่ก็รายละเอียดเกี่ยวกับงานถ่ายแบบของคุณหญิงช่อฟ้า เมื่อวานเธอให้เลขาส่งแฟ็กซ์มาให้ลุงดู เขาคงอยากให้หนูเอาไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจอีกที จะได้ตอบรับงานของเขาอีกทางหนึ่งน่ะ ทางนั้นเขาคงอยากได้หนูไปเป็นนางแบบให้จริงๆ ถึงได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้าอย่างนี้...”   ท่านเจ้าสัวราพหยิบเอกสารแผ่นใหม่ที่มีรายละเอียดของโครงงานยื่นให้หญิงสาวดู มารตรียื่นมือออกไปรับ ก่อนจะกวาดสายตาอ่านรายละเอียดด้วยความสนใจไม่น้อย “ปีสุดท้ายแล้วสินะหลาน...เฮ้อ!...ลุงละดีใจแทนคุณพิธานเขาจริงๆ มีหลานสาวทั้งสวยทั้งเก่งแถมยังขยันขันแข็ง สู้งานสู้การแบบหนูรตรี ไม่เสียแรงจริงๆถ้าหากลุงจะได้หนู...” “เอ่อ...” เสียงหวานรีบขัดขึ้น เมื่อเธอเองพอจะรู้ ท่านเจ้าสัวราพจะพูดอะไรต่อ แต่ทว่าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยต้องการ และจะไม่ขอรับความช่วยเหลือด้วยเงื่อนไขโบราณคร่ำครึอย่างนั้นเด็ดขาด “หนูยังยืนยันคำตอบเดิมอยู่ค่ะ และคิดว่าคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้หนูคิดเปลี่ยนใจด้วย ไม่ใช่เฉพาะแค่หนู แม้แต่คุณราช เธอคงไม่ยอมเหมือนกัน...” มารตรีเน้นคำยืนยัน เธอใช้น้ำเสียงบอกปฏิเสธด้วยความหนักแน่นมั่นใจ เธอไม่คิดเปลี่ยนใจ หากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่อาจจะทำให้ชีวิตของตัวเอง ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดและหาความสุขไม่ได้ คนที่เกลียดกันจะมาใช้ชีวิตร่วมเป็นครอบครัวเดียวกันได้ยังไง ไม่ใช่ฝ่ายเธอที่เกลียด แต่ทว่าเป็นอีกฝ่ายหนึ่งต่างหาก เขาตั้งแง่รังเกียจเธอสารพัด ทั้งๆที่เธอก็ไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้เขาเลยสักครั้ง อยู่ดีๆก็มากล่าวหากันเสียอย่างนั้น แล้วใครจะไปทนใช้ชีวิตร่วมกับเขาเป็นครอบครัวได้ เขาต่อว่าเธอ กล่าวหาด้วยถ้อยคำหยาบคาย เขาหาว่าเธอเป็นผู้หญิงขายตัวจอมมารยาสารพัดพิษ ต่างๆนาๆที่เขาจะขุดขนเอามาด่าเธอให้เจ็บช้ำน้ำใจ เขาต่างหากละ ไอ้คนนิสัยแย่ปากก็ไม่ดี หาความเป็นสุภาพบุรุษในตัวแทบไม่เจอ... “ครอบครัวต้องใช้ความรักเป็นพื้นฐานนะคะคุณลุง แต่หนูกกับเขาไม่มีในจุดนั้น” “อยู่กินกันไปเดี๋ยวก็รักกันเองนั่นแหละ” เจ้าสัวเสนอความเห็นตามหลักการทั่วไป “สำหรับคนที่ไม่มีอคติต่อกันคงจะรักกันได้ไม่ยากอย่างที่คุณลุงว่า แต่คุณลุงก็ทราบดีนี่ค่ะ คุณราชไม่ค่อยจะชอบขี้หน้ารตรีสักเท่าไหร่...” แม้ความจริงเธออยากจะใช้คำว่าเกลียดก็ตาม ท่านเจ้าสัวหมดคำพูด เมื่อท่านรู้จักนิสัยของไอ้ลูกชายตัวเองดี ท่านจึงได้แต่นั่งถอนใจ ใครบ้างจะไม่ผิดหวัง ลูกสะใภ้มีครบหมดทุกอย่างในตัวแบบนี้ เป็นใครก็อยากได้ทั้งนั้นแหละ... “เฮ้อ! นี่สรุปว่าคนแก่จะต้องผิดหวังไปตามๆกันอีกแล้วใช่ไหมงานนี้ น่าเสียดายแทนไอ้ลูกชายตัวดีของลุงนะ มันอดได้เมียดีๆอย่างหนูรตรีเลย ตัวลุงเองก็หวังกับหนูรตรีเอาไว้มากเสียด้วยสิ จะเอาใจคนแก่อย่างลุงสักนิดไม่ได้เลยหรือไงหลาน...” ท้ายประโยคเจ้าสัวราพลองหยั่งเชิงดู เมื่อเห็นแววตาหวานแต่เด็ดเดี่ยวของหญิงสาวคราวลูกตรงหน้า “ให้รตรีทำอย่างอื่นตอบแทนดีกว่านะคะ...” “เอ้า...ลุงตามใจหนู ลุงจะถือซะว่าไอ้ลูกชายตัวแสบของลุงมันบุญน้อยก็แล้วกันนะ...” ท่านเจ้าสัวหัวเราะลั่น นี่ถ้าหากไอ้ลูกชายตัวดีมันได้รู้ว่าถูกผู้หญิงปฏิเสธไม่เอาทำพันธุ์ มันจะไม่คลั่งหนักไปมากกว่านี้หรือไงนะ ท่านเจ้าราพได้แต่ส่ายหน้าเมื่อนึกถึงลูกชายตัวแสบ อีกใจก็นึกเอ็นดูหญิงสาวสู้ชีวิตตรงหน้าท่านเสียเหลือเกิน นี่จะมีผู้หญิงสักกี่คน ที่กล้าปฏิเสธในสิ่งที่พวกเธอจะได้รับโดยที่ท่านเป็นผู้หยิบยื่นให้ด้วยความเต็มใจอย่างที่สุดแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ... ทุกอย่างมันต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคนทั้งสองฝ่าย เขาซึ่งก็อายุอานามปาเข้าไปจะเจ็ดสิบปีอยู่อีกไม่กี่เดือน ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาก็มิใช่น้อย เรื่องบางเรื่อง เขาก็ไม่สามารถไปบังคับหรือจับให้ใครหรืออะไรมาอยู่หรือวางไว้ในที่ที่ตนต้องการได้เสมอไป..   *****************************          

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.5K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.0K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook