บทที่ 01 คนแพ้ [2]

1383 คำ
บทที่ 01 คนแพ้ [2]  ลองทาน 21.32 น. “อย่าเรียกคุณนะครับ” ศรุตม์ย้ำอีกรอบก่อนจะเปิดประตูรถแล้วก้าวนำลงไป พาขวัญก้มเช็กเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วก้าวตามเขามา ถึงแม้ตอนนี้จะเลิกงงานแล้วแต่ไม่ว่าเธอจะมากับเขาในฐานะอะไร เธอก็ไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาถูกคนอื่นมองไม่ดี แม้ว่าเขาจะยืนยันว่ามีแต่เพื่อนที่สนิทกันกับเขาเท่านั้นก็ตาม “ไอ้ตาร์” ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เดินเข้าไปในร้าน ปั้นแป้งที่เพิ่งจะมาถึงเหมือนกันก็ตะโกนเรียกเรียก สายตาของเธอก็ดูแปลกใจมากเมื่อเห็นว่าศรุตม์มากับพาขวัญ ทว่าสายตาของศรุตม์ที่มองกลับไปกลับไม่ได้แปลกใจที่เห็นว่าปั้นแป้งเองก็มาที่นี่ในคืนนี้ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอเธอแน่นอน แต่แปลกใจที่เห็นว่าเธอมากับใครอีกคนที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายต่างหาก “ยังไม่หมดเวลางานอีกหรือไง นายถึงได้ลากยัยขวัญมาด้วย” ปั้นแป้งเอ่ยปากถามยิ้มๆ พาขวัญมองออกว่าคนถามไม่ได้คิดอะไร ส่วนคนถูกถามก็เหมือนจะไม่สนใจคำถามด้วยซ้ำ เพราะสายตาของศรุตม์ในตอนนี้ยังเอาแต่มองไปที่เป็นหนึ่งที่เพิ่งจะเดินตามปั้นแป้งมา “อ้าว สวัสดีครับคุณศรุตม์ เจอกันอีกแล้วนะขวัญ” “ค่ะ เจอกันอีกแล้ว” พาขวัญทวนคำแล้วยิ้มแห้ง กำลังจะหันไปมองหน้าปั้นแป้งอีกรอบแต่ไม่ทันได้มองเพราะถูกศรุตม์ดึงมือเดินเข้าไปด้านในเสียก่อน แม้เขาจะไม่ได้จับข้อมือเธอแน่นมาก แต่สีหน้าและความเร็วของจังหวะการก้าวก็บ่งบอกว่ากำลังอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ก้าวเข้างานกันเลยทีเดียว “ไอ้เสือมาแล้ว วันนี้มันมากับสาวด้วยเว้ย” เสียงแซวดังมาจากโต๊ะอาหารด้านในทำให้พาขวัญรีบกระตุกข้อมือออกจากมือของศรุตม์ในทันที โชคดีที่เขาไม่ได้ยื้อเอาไว้เพราะคงได้สติแล้วเหมือนกัน “นี่ถ้าฉันไม่โทรตาม นายจะลืมจริงเหรอวะไอ้ตาร์” “เออ โทษที ช่วงนี้มัวแต่ยุ่งๆ ว่ะ ยินดีด้วยก็แล้วกัน” ศรุตม์เดินเข้าไปกอดบ่าเพื่อนรุ่นน้องที่พาขวัญมองว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านนี้ และเมื่อเห็นว่าสายตาของเขาคนนั้นมองมา เธอจึงรีบยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ “นี่น้องขวัญ ผู้ช่วยฉันเอง พอดีเพิ่งมาจากตรวจงานด้วยกันน่ะ” ศรุตม์แนะนำเธอให้รู้จักกับทุกคนที่กำลังมองด้วยความสนอกสนใจ เดาออกว่าทุกคนคงกำลังสงสัยแน่ๆ ว่าเธอเป็นใคร และทำไมถึงได้มากับเขา “อ้อ ไอ้เราก็คิดว่ามูฟออนแล้ว” “ไอ้ตาร์ไม่มูฟ แต่เหมือนอีกคนจะมูฟแล้ว” เพื่อนของศรุตม์คนหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นว่าปั้นแป้งเดินเข้ามาพร้อมกับเป็นหนึ่ง ทุกคนจึงรีบพากันหันไปมอง มีเพียงศรุตม์เท่านั้นที่ทำทีเป็นไม่สนใจ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกให้พาขวัญนั่งลง ยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนที่ตัวเขาจะนั่งลงข้างๆ “ยินดีด้วยนะไม้” “ฉันต้องตัดสูทหรือเปล่าเลยหรือเปล่า” “ไม่ต้อง นี่หนึ่ง เพื่อนเรา ไม่ใช่แฟน” ไม่รู้ว่าศรุตม์จะสบายใจได้ไหมที่ได้ยินปั้นแป้งแนะนำใครอีกคนต่อหน้าเพื่อนๆ แบบเดียวกับที่บอกกับเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดีที่เห็นเธอไปไหนมาไหนกับคนอื่น แถมยังตัวติดกันมาตั้งแต่ช่วงบ่าย พาขวัญได้แต่เหลือบมองศรุตม์ที่ดูตั้งใจอ่านเมนูเป็นพิเศษ สักพักเครื่องดื่มก็ถูกยื่นมาจากเพื่อนของเขา ก่อนที่เพื่อนคนนั้นของเขาจะเอ่ยปากถามเธอ “น้องขวัญดื่มอะไรครับ” “ขอน้ำเปล่าค่ะ” พาขวัญตอบยิ้มๆ ลางสังหรณ์บอกว่าคืนนี้คงไม่จบลงง่ายๆ เมื่อเห็นกับตาว่าศรุตม์กระดกเหล้าหมดแก้วไปเมื่อครู่ก่อนจะวางแก้วเปล่าที่มีเพียงน้ำแข็งกลับลงบนจานรอง นับตั้งแต่ที่รู้จักกับศรุตม์มา เขาเป็นผู้ชายใจดี มีเหตุผล ค่อนข้างเข้าถึงง่าย แต่เวลาทำงานก็จะจริงจังและเด็ดขาดไม่ต่างจากศิลาและศรัณย์ ไม่บ่อยนักหรือแทบจะเรียกได้ว่าไม่เคยเห็นศรุตม์ในมุมที่ดูอ่อนไหวอย่างนี้มาก่อน และคงจะได้เห็นเขามีอาการแบบนี้เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับปั้นแป้งเท่านั้น “น้องขวัญเป็นผู้ช่วยของไอ้ตาร์มานานหรือยังครับ เจอกันคราวก่อนมันยังบ่นว่าผู้ช่วยแก่อยู่เลย ไม่น่าใช่น้องขวัญ” เพื่อนของศรุตม์คนหนึ่งเอ่ยถามเจือเสียงหัวเราะขึ้นมา “จริงๆ ขวัญไม่ใช่ผู้ช่วยโดยตรงของพี่ตาร์หรอกค่ะ แค่มาช่วยงานแทนผู้ช่วยตัวจริงที่ลาป่วยค่ะ” “ยัยหยีเป็นอะไรมากหรือเปล่าขวัญ” ปั้นแป้งถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แค่เป็นหวัดเพราะตากฝนแต่เมื่อวานมันนั่งจามทั้งวัน วันนี้คุณศรัณย์ก็เลยสั่งให้มันลา” พาขวัญส่งยิ้มให้กับปั้นแป้งที่นั่งอยู่ที่ฝั่งตรงกันข้าม และเพราะเหตุผลนี้จึงทำให้ศรุตม์นั่งดื่มเอาๆ ไม่พูดไม่จา “แกรู้จักกับน้องขวัญมาก่อนด้วยเหรอไอ้แป้ง” “รู้จัก ทำไม แกจะจีบน้องฉันเหรอไอ้ไม้” “แหม ได้ไหมล่ะ ถ้าไม่ใช่แฟนไอ้ตาร์แล้วน้องขวัญมีแฟนหรือยังครับ” “น้องขวัญไม่มีแฟน แต่แกมีไม่ใช่เหรอ ชื่ออะไรนะ น้องฟอง” ศรุตม์ที่นั่งฟังเงียบๆ แกล้งถามขึ้นมาลอยๆ “โอ้โห โดนสกัดดาวรุ่งเฉยเลย” “เหอะ อย่าไปฟังมันเลยครับน้องขวัญ ทั้งโต๊ะที่นั่งอยู่เกือบสิบคนเนี่ย มีแค่พี่กับไอ้แป้งที่โสด” ศรุตม์ย้ำเสียงเข้มพลางเงยหน้าขึ้นมองไปที่ปั้นแป้งอย่างตั้งใจจะจ้อง “ผมก็ยังโสดนะครับ” แต่กลับกลายเป็นการเปิดโอกาสให้เป็นหนึ่งแนะนำตัวเองขึ้นมาเสียอย่างนั้น “เหอะ!” “ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วกันนะ” ปั้นแป้งชักสีหน้าไม่พอใจเมื่อได้ยินศรุตม์แค่นหัวเราะในลำคอทั้งยังมองเป็นหนึ่งด้วยสายตาที่ตั้งใจจะประกาศความเป็นศัตรูกันอย่างชัดเจน ทั้งที่เธอก็พูดและย้ำไปแล้วว่าไม่ว่าจะกับศรุตม์หรือเป็นหนึ่ง ต่างก็เป็นแค่เพื่อนของเธอ “เดี๋ยวพี่มานะครับน้องขวัญ” “พี่ตาร์คะ” พาขวัญหันไปรั้งข้อมือของศรุตม์เอาไว้แทบไม่ทัน เธอไม่ได้มีเจตนาจะฉวยโอกาสแต่ก็ไม่กล้าพอจะปล่อยให้เขาลุกออกไปทั้งที่รู้ว่าเขาตั้งใจจะไปตามปั้นแป้ง อีกอย่างเมื่อครู่ก็ไม่ทันได้นับว่าเขาดื่มไปแล้วกี่แก้ว เล่นดื่มอั่กๆ ราวกับน้ำเปล่าอย่างนั้นจะให้เธอวางใจได้อย่างไรกัน “พี่ไม่ตามไปทำอะไรไม่ดีหรอกครับ” “แต่ว่า...” “เฝ้าเขาไว้ให้พี่ที ตกลงกับแป้งเสร็จพี่จะรีบกลับมา” ศรุตม์ก้มหน้าลงไปกระซิบเบาๆ อย่างต้องการจะรู้กันสองคน ทว่าการกระทำของเขากลับอยู่ในสายตาของทุกคนบนโต๊ะอาหารตลอดโดยเฉพาะเป็นหนึ่งที่เฝ้ามองทุกอย่างมาตั้งแต่แรก “ก็ได้ค่ะ อย่านานนะคะ ไม่งั้นขวัญจะลุกไปตาม” “โอ้โห ห่วงพี่หรือห่วงไอ้แป้งครับ” “ไม่น่าไว้ใจทั้งคู่นั่นแหละค่ะ” พาขวัญย้ำเบาๆ ศรุตม์หัวเราะเสียงทุ้มก่อนจะขยิบตาแทนการให้สัญญากับพาขวัญแล้วจึงเดินตามปั้นแป้งออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม