อนัญติญา พรีเวดดิ้ง
"ข้าวสาร ปลากระป๋อง ผักกาดกระป๋อง มาม่า ยาสีฟัน ยาสระผม สบู่เหลว แปรงสีฟัน ชุดลำลอง ขนมขบเคี้ยว ครบแล้ว แต่เอ... ผ้าอนามัยนี่ใส่แยกถุงใบเล็กไปดูท่าจะเหมาะสมกว่า
เสียงหวานๆของคนอายุสามสิบปลายๆคิดทบทวนรายการในถุงยังชีพสีสันสดใสว่ายังมีอะไรขาดตกบกพร่องบ้างอีกหรือไม่ เมื่อชัดเจนว่าทุกอย่างโอเคเจนซี่จึงค่อยๆขนถุงยังชีพจำนวนหลายร้อยถุงขึ้นท้ายรถกระบะรั้วทรงสูงของตัวเองในทันที
"โชคดีนะที่เป็นผู้หญิงชอบขับรถกระบะทรงสูง" อนัญติญาหลุดหัวเราะเมื่อพบว่าถุงยังชีพที่เธอพึ่งจัดทำไปนั้นใช้พื้นที่ในการจัดวางไปมากแค่ไหน และหากเธอชอบที่จะขับรถเก๋งเหมือนผู้หญิงทั่วไปก็คงจะไม่พ้นต้องรบกวนน้องชายของเธออีกสองคนอย่างแน่นอน
"จะไปไหนเจนซี่" ร่างสูงใหญ่ของชายวัย68ปีที่มีฐานะเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเจนซี่อย่าง 'จอร์แดน อรรถพล อภัยสุขแสน' เดินเข้ามาพร้อมด้วย'กระเจี๊ยบพิยดา อภัยสุขแสน' ผู้ซึ่งเป็นมารดาและ 'เจสัน อนันตพัฒน์กับ จัฟฟี่ อนันตพงศ์ อภัยสุขแสน' น้องชายอีกสองคนของเธอ
หากแต่จะขาดก็เพียงหมอหนุ่มประจำบ้านอย่าง 'จัสติน อนุพันธ์ อภัยสุขแสน' ที่ไม่ได้เดินทางมาด้วยเพราะจะต้องเข้าเวรดึกในเย็นวันนี้
"พ่อคะ พึ่งออกจากโรงพยาบาลแท้ๆไม่เห็นจำเป็นต้องเสียเวลามาหาเจนซี่เลยค่ะ" เจนซี่กล่าวอย่างอ่อนอกอ่อนใจขณะถลาตัวเข้าไปช่วยพยุงแขนผู้เป็นพ่อที่เริ่มจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา
"พ่อไม่มาก็ไม่ได้เจอแกนะสิ ทำงานจนลืมไปแล้วหรือไงว่าแกมีพ่อที่ป่วยใกล้ตายอยู่อีกคน" อรรถพลว่าอย่างงอนๆ เพราะถึงแม้ภรรยาอย่างพิยดาและลูกชายอีกสองคนดูแลเขาดีแค่ไหน แต่ก็คงจะไม่ดีเท่าการที่ได้มีลูกสาวสุดที่รักสุดหวงดวงใจของเขาคอยดูแล
"น้อยใจเป็นคนแก่ไปได้" เจนซี่หัวเราะ "เจนซี่จะนำถุงยังชีพไปมอบให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอร่อนพิบูลย์ค่ะคุณพ่อ"
"ดี งั้นพ่อไปด้วย"
อำเภอร่อนพิบูลย์,นครศรีธรรมราช
"ไหวไหมเนี่ยพ่อ" เจนซี่แอบส่ายหัวให้กับความดึงกันของผู้ชายวัยหกสิบแปดปีบางคนอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
"รอบนรถก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพวกพี่ๆเขาก็มาช่วยเจนซี่ขนไปอีกต่อนึงค่ะ เสร็จแล้วก็กลับเลย"
"เจนซี่" อรรภพลเอ่ยเรียกบุตรสาวเพียงคนเดียวด้วยน้ำเสียงไม่ใคร่สู้ดีนัก
"พ่อเองก็แก่ชึ้นทุกวันแล้วนะลูก จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้"
"พ่อคะ พูดอะไรอย่างนั้น" เจนซี่เลื่อนตัวเข้ามานวดไหล่บิดาอย่างเอาใจ "แบบพ่อนี่เขาเรียกวัยเก๋าค่ะ ใครว่าแก่"
"เจนซี่"
"เจนซี่อยากทำงานอย่างเดียวค่ะ ไม่อยากมีพันธะ" เจนซี่รีบเอ่ยขัดอย่างรู้ทันในสิ่งที่พ่อกำลังจะกล่าวออกมา
"เจนซี่ไม่ได้สนใจใคร"
"อืม"
ตลอดระยะทางจากอำเภอร่อนพิบูลย์จวบจนถึงอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช บรรยากาศบนรถก็เงียบสนิทราวเพราะทั้งพ่อและลูกสาวก็ต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง
"พ่อคะ ถึงแล้วค่ะ" มือเรียวแตะลงบนแขนของผู้เป็นพ่อเบาๆ "พ่อคะถึงแล้วค่ะลงมาเถอะค่ะ"
"..." ดวงตาสีซีดของอรรถพลเหลือบมองลูกสาวที่เปิดประตูรถให้เขาครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ พยุงร่างกายแก่ชราของตัวเองลงมาจากรถโดยไม่แม้จะแตะแขนของลูกสาวที่ยื่นเข้ามาหมายช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย
"ให้ตายสิ!" เจนซี่ที่เห็นดังนั้นก็ได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโหหากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อพอจะรับรู้ได้ว่าพ่อนั้นกำลังจะเริ่มเปิดสงครามทางประสาทกับเธออีกแล้ว
"พ่อคะ! อย่ารีบเดินนักสิเดี๋ยวก็ได้ล้มลงอีกหรอก" แม้จะรู้สึกหัวเสียกับพ่อที่แสนจะเอาแต่ใจ หากแต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอจะละเลยหน้าที่ของคนเป็นลูก
"เจนซี่ช่วยนะคะ"
"ไม่ต้อง" อรรถพลปลายตามองลูกสาวด้วยอารมณ์ที่ยังขุ่นมัวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ผ่านมาไม่หาย
"พ่อเดินของพ่อเองได้ ไม่ตายหรอก"
"โอเคค่ะพ่อเจนซี่จะแต่งงาน" กล่างจบประโยคเจนซี่ก็แทบจะกัดลิ้นตัวเองให้มันตายๆไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ แล้วจะไม่ให้เธออยากตายได้อย่างไรก็ในเมื่อแฟนสักคนเธอยังไม่มีแล้วจะให้เธอไปเข้าพิธีวิวาห์กับไอ้หน้าปลาดุกที่ไหนกันละ
"จริงนะ! อย่าหลอกคนแก่นะลูกเจนซี่" ใบหน้าเหี่ยวย่นของคนชราขี้เอาแต่ใจเผยยิ้มกว้างอย่างดีใจหนักหนาเมื่อได้ยินประโยคที่อยากได้ยินจากปากลูกสาวมานานหลายปี
"จริงสิคะ" เจนซี่ว่าอย่างเอาอกเอาใจ "แต่ตอนนี้พ่อต้องเข้าบ้านก่อนนะคะ แดดแรงอย่างนี้เดี๋ยวพาลจะไม่สบายเอาได้ นะคะ"
"ก็ได้ๆ" เมื่อความปรารถนาที่เฝ้ารอกำลังจะเผยให้เห็นเป็นรูปร่าง คนที่เอาแต่ใจตัวเองก่อนหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นคนว่านอนสอนง่ายในทันที
"ระวังนะคะ" เจนซี่ลอบถอนใจออกมาเบาๆเมื่อพอจะสัมผัสได้ว่าที่ในที่สุดคนเป็นพ่อก็เข้าสู่ภาวะปรกติ เห็นทีงานนี้เธอคงจะต้องเร่งมือหาว่าที่เจ้าบ่าวมาให้คุณพ่อโดยเร็วที่สุดเสียแล้ว
หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็คงมีความทะเล้นมากพอที่จะผลัดวันประกันพรุ่งผู้เป็นพ่อไปเรื่อยๆแต่สำหรับสถาการณ์ในวันนี้นั้นต่างออกไปโดยสิ้นเชิงเพราะพ่อนั้นเริ่มที่จะแก่ชราและมีปัญหาด้านสุขภาพคอยรุมเร้า เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้มีเรื่องใดๆมารบกวนจิตใจจนอาการป่วยไข้ของพ่อกำเริบขึ้นมา
แม้ว่าสิ่งนั้นที่จะทำให้พ่อสบายใจคือการแต่งงานที่เธอไม่เคยแม้แต่จะฝันถึงก็ตามที่เธอนะ
ภายในทานอาหารของบ้านสไตล์ยุโรปสามชั้นสุดหรูที่เคยมีแค่คู่สามีภรรยานั่งทานข้าวด้วยกันในแต่ละวันอย่างเงียบเหงาได้เปลี่ยนไปเมื่อบรรดาลูกสาวและลูกชายจำนวนสี่ชีวิตแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยียนพวกเขา
"ทานเยอะๆ นะคะพ่อ พรุ่งนี้เจนซี่จะพาแฟนเข้ามาที่บ้านนะคะ" เจนซี่จำใจต้องเอ่ยปากโกหกพ่อขึ้นมาอีกครั้งด้วยว่าอยากให้พ่อนั้นทานอาหารให้ครบตามสัดส่วนที่หมอประจำตระกูลอย่างจัสติน น้องคนเล็กของบ้านแนะนำมา
ซึ่งประโยคดังกล่าวนั้นทำให้บรรดาพี่ชายต่างแม่อย่าง 'จอห์นี่ อัครพล อภัยสุขแสน' และน้องชายอย่างเจสันและจัฟฟี่ถึงกับส่งสายตาเชิงคำถามมาให้เธอพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
"โก หก" เจนซี่เปิดปากอย่างไม่มีเสียงให้กับสามหนุ่มที่จ้องมองมาก่อนจะพบว่าทั้งสามพากันตีหน้าถมึงทึงใส่ตัวเองและยกนิ้วกลางขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายอีกครั้งมาให้เธอ
"มีอะไรกันหรือเปล่าลูก"
"ไม่นี่คะพ่อ ทานข้าวกันเถอะค่ะ คุณแม่ก็ทานเยอะๆ นะคะ"
เป็นลูกคนโปรดมันก็เหนื่อยแบบนี้แหละเจนซี่