ข้าถามก่อน เจ้าตอบซิ

1211 คำ
อุตส่าห์ชื่นชมตนเองว่ามีฝีมือยุทธ์เป็นรองแค่พี่ใหญ่ ไฉนจึงถูกจับง่ายดายเพียงนี้! กำลังตกตะลึงว่าตนเองตกอยู่ในตาข่ายนี้ได้อย่างไร พลันหางตาเห็นความเคลื่อนไหว แส้หนังสีดำตวัดรัดรอบเอวของเขาก่อนที่เจ้าของแส้จะมาถึงตัว ผ้าไหมสีม่วงสดตัดกับสีสันของป่าเขา สตรีนางหนึ่งพลิ้วกายราวเหาะเหินมาหยุดเบื้องหน้า ใบหน้างามปรากฏรอยยิ้ม ทว่าเมื่อก้าวเข้ามาใกล้ แล้วยื่นหน้าจ้องมองชายหนุ่มที่ตะลึงงันอยู่ รอยยิ้มนั้นจางหายกลายเป็นบึ้งตึงไปทันที “เจ้าเป็นใคร!” “เจ้าเป็นใคร!” เกาเทียนฉีได้สติก็รีบตะโกนไปด้วยประโยคเดียวกัน “ข้าถามก่อน เจ้าตอบซิ” นางเงยหน้าขึ้นยกมือกอดอก ปรายตามองอย่างหยามเหยียดแล้วค่อยกวาดตามองไปรอบๆ เมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เป้าหมายจึงเก็บแส้กลับคืน “หายไปไหนนะ” “นี่! สนใจข้าก่อน” เขาโวยวายเรียกหญิงสาว หงุดหงิดที่ถูกเมินเฉยใส่ “แล้วจับข้าไว้ทำไม” “ข้าไม่ได้จะจับเจ้า” นางหันมาตอบแล้วเบ้ปากใส่ “คนที่ข้าตามหาเป็นบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลา ไม่ใช่เจ้า!” “นั่นปากเรอะ!” วาจาร้ายกาจไม่สมกับใบหน้างดงามเลยสักนิด เกาเทียนฉีถึงกับเลือดลมเดือดพล่าน หยิบมีดสั้นออกมากรีดตาข่ายแล้วลุกขึ้นยืน เมื่อยืนเต็มความสูงแล้ว นางตัวเตี้ยกว่าเขาแค่ครึ่งศีรษะเท่านั้น เขากวาดตามองคนตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจมารยาท เสื้อผ้าเนื้อดีสีม่วงสดสวย เครื่องประดับเงินและหินสีถักเรียงร้อยงดงามเป็นสร้อยรอบเอว เขาอยู่ที่นี่มานานไม่เคยเห็นนางมาก่อน นางคงมิใช่คนแถบนี้และไม่น่าจะเป็นคนชนเผ่าในละแวกนี้ด้วย หรือจะเป็นชาวยุทธ์ หญิงสาวตวัดสายตาจ้องมอง เพียงเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจที่เห็นตา- ข่ายของตนถูกตัดออกอย่างง่ายดาย นางยกมือขึ้นกอดอกแล้วกวาดตามองขึ้นลงก่อนจะเบ้ปากใส่ “ท่าทางเหมือนบัณฑิตคงแก่เรียน มิรู้ว่าพอมีฝีมือบ้างเหมือนกัน แต่เจ้าไม่ใช่คนที่ข้าตามหา” นางย่นจมูกใส่ด้วยท่าทีรังเกียจ “จะไปไหนก็ไป อย่าให้ข้าเสียเวลาตามหาคน” “นี่!” ปกติเขาเป็นคนสุภาพอยู่นะ เอ่อ...เท่าที่จำได้ก็นับได้ว่าสุภาพพอสมควร แต่กับสตรีประหลาดไร้กิริยาผู้นี้มันช่าง... “อะไร? ข้ามิเอาเรื่องที่เจ้ามาขวางทางข้าตามหาสามีก็นับเป็นบุญของเจ้าแล้ว!” นางตวัดแส้ในมือเล่นไปมาหมายข่มขู่อีกฝ่าย “เจ้าตามหาสามี! แต่เอาตาข่ายมาจับนี่นะ! มันใช้ได้ที่ไหนกัน!” เกาเทียนฉีตวาดอย่างลืมตัว พลันนึกถึงบุรุษโชคร้ายที่มีภรรยาเช่นนี้ “เจ้าจะไปรู้อะไร บุรุษผู้นั้นข้าหมายตาให้เขาเป็นสามีของข้า แต่เขาไม่ยอมรับ ซ้ำยังหนีข้าอีก หักหน้าข้าเช่นนี้ ข้าไม่หักคอก็นับเป็นบุญแล้ว!” คราวนี้เป็นเกาเทียนฉีที่ผงะไป ตกลงนี่มันเรื่องอันใดกันแน่ สรุปว่าเป็นสามีแล้วหรือยังไม่ได้เป็นสามี แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับข้า! “ท่านประมุข” ท่านประมุข? ชายหนุ่มมองคนกลุ่มหนึ่งที่กระโจนมายืนขนาบข้างหญิงสาว ดวงตาคมหรี่มองป้ายหยกที่ห้อยข้างเอว จำได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของพรรคเงาอสูร เขาผงะไปเล็กน้อย แต่เก็บซ่อนความรู้สึกของตนเองไว้ สำนักคุ้มภัยราชสีห์คำราม แม้ไม่ใช่สำนักคุ้มภัยอันดับหนึ่ง แต่ก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง คนที่ทำงานในสำนักคุ้มภัยมีหลากหลาย แต่ยึดมั่นในคุณธรรมไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคมาร “หายไปได้อย่างไร” หญิงสาวสบถหยาบคายหลายคำ “โดนพิษลับของพรรคเราเข้าไปแล้วแท้ๆ ไม่น่าจะมีเรี่ยวแรงหนีรอดข้าไปได้” “ท่านประมุข เราออกนอกเส้นทางมานาน เกรงว่า...” “ข้าไม่เลิกล้มความตั้งใจง่ายๆ แน่” นางตวัดแส้ในมือลงพื้นระบายอารมณ์ แต่ปลายแส้ถูกปลายเท้าของชายหนุ่ม ทำเอาอีกฝ่ายกระโดดหลบแทบไม่ทัน “ช่างเถอะ คนผู้นั้นต้องพิษของข้าคงไปได้ไม่ไกล พวกเจ้าลองหาอีกสักรอบ ถ้าไม่เจอ เราก็มุ่งหน้าไปตามเป้าหมายเดิม” “นี่เจ้า!” “เจ้านี่ก็เกะกะสายตาข้าเสียจริง” หญิงสาวเก็บแส้แล้วเหยียดยิ้มมองด้วยสายตาเวทนา “เอาเถิด เห็นแก่ที่เจ้าเป็นปัญญาอ่อน ข้าจะไม่ถือสา หลีกทาง!” “ปัญญาอ่อน?” ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเบิกตากว้าง “มารดาเถอะ! เจ้าด่าข้าเรอะ!” เกาเทียนฉีชี้นิ้วใส่อีกฝ่ายด้วยความโมโห ไม่คิดว่าจะถูกสตรีบอบบางคนหนึ่งด่าว่าเอาเช่นนี้ ด้วยความโมโหจึงพุ่งตัวไปหมายสั่งสอนอีกฝ่าย แต่หญิงสาวพลิ้วกายหลบหลีกได้ไม่ยากเย็น ซ้ำยังอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายรุกอย่างไร้ท่วงท่าจี้สกัดจุดอีกฝ่ายแล้วยกเท้าถีบร่างสูงโปร่งกลิ้งไปบนพื้น “หญิงบ้า! เจ้ากล้า!” “ถ้าไม่หุบปาก ข้าจี้จุดใบ้เจ้าแน่” นางใช้ปลายเท้าเขี่ยร่างที่แข็งทื่ออยู่บนพื้นดิน “ทำข้าเสียเวลา อยู่นิ่งๆ สักสองสามชั่วยามเถอะ! ว่าที่สามีของข้าไม่รู้ป่านนี้ไปถึงไหนแล้ว” “นี่เจ้า!กลับมาก่อน!” เกาเทียนฉีได้แต่มองแผ่นหลังของสตรีชุดสีม่วงสดกระโจนแผ่วหายวับราวล่องหน เห็นชัดว่าวิทยายุทธ์ของนางสูงกว่าเขาแน่ ชายหนุ่มได้แต่ร้องโอดครวญในอก ร่างกายที่แข็งทื่อนอนนิ่งอยู่ใต้ต้นไม้ หวังว่าสวรรค์จะเมตตา ไม่ส่งตัวอะไรมาให้เขาต้องลำบากมากยิ่งไปกว่านี้เลย เสียงเด็กวัยขวบเศษร้องไห้เริ่มสงบลง เด็กสาวอุ้มเด็กน้อยลูบหลังเบาๆ เมื่อมั่นใจว่าเด็กน้อยสงบลงแล้วจึงส่งคืนมารดาให้อุ้มเข้านอน “ลำบากเจ้าแล้วจริงๆ” “พี่ชาย ท่านกล่าวหนักเกินไปแล้ว” เสิ่นฉางซีหัวเราะเบาๆ “ข้าเพียงทำตามที่เรียนรู้มาเจ้าค่ะ ลูกชายท่านร้องไห้งอแง อึดอัด พะอืดพะอม สงสัยว่ามีลมในท้องมากเกินไป ข้าจึงลองอุ้มเจ้าตัวน้อยมาแนบอก ให้คางเกยไหล่ แล้วลูบหลังเบาๆ เพื่อไล่ลม นวดบริเวณจุดกึ่งกลางของช่องท้อง หมุนวนขวาสอง สามครั้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของลำไส้” “นี่เป็นลูกคนแรกของข้า มารดาของข้าก็เสียไปนานแล้ว พวกเราต่างก็ไร้ความรู้ เรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ยังต้องรบกวนเจ้าอีก” เด็กสาวโบกไม้โบกมือไปมา “พี่สาวพี่ชายทั้งสองอย่าคิดมาก ข้าเองเพียงแค่ติดตามนายท่านรองจึงพอรู้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ หากเด็กน้อยเจ็บป่วยมากกว่านี้ ข้าไม่สามารถรักษาเขาได้” “ถึงอย่างไรพวกข้าต้องขอบใจเจ้ามาก” หญิงสาวเอ่ยพลางเช็ดน้ำตาที่หางตาแล้วหันไปตบต้นแขนสามีเบาๆ “ท่านพี่ไปส่งแม่นางน้อยที่เรือนสมุนไพรของนายท่านรองเถิด”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม