เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวหลงรัก ตอนที่ 8

1717 คำ
“เป็นเด็กเป็นเล็กอยู่บ้านดีกว่าไหม จะไปทำไมล่ะคะ อยากกินอะไรอาจะซื้อมาฝาก” ต้องแทนตัวเองว่าอาก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก เนื่องด้วยยังไม่อยากแก่ขนาดนี้ จริงๆ เขตต์และเด็กอีกสองคนเรียกเธอว่าพี่ยังได้เลย แต่เพราะอยากให้เหมือนที่เด็กๆ เรียกเขื่อนก็เลยเออออห่อหมกยอมให้เรียก “อ้าว... อาจินดาบอกว่าจะพาไป” “อากลับก่อนนะ ไว้ค่อยคุยกัน อาเขื่อนของเราน่ะอยากไปกับอาสองคนไม่รู้หรือไง” จินดารีบตัดบทหยิกแก้มเด็กชายก่อนจะเดินไปที่รถ “เมื่อกี้เขาว่ายังไงเหรอ” มาหยาแอบถามเพื่อนเมื่อเห็นว่าเขตต์ทำหน้าจ๋อย “เขาก็บอกว่าไม่ให้เราไป” “อ้าว... เห็นต่อหน้าบอกว่าจะให้ไปด้วย ทำเหมือนอยากไปกับอาหมอสองต่อสองเลย แบบนี้เรียกหน้าไหว้หลังหลอกใช่ไหมริน” มาหยาหันไปถามเพื่อนรัก ดารินก็รีบพยักหน้าเห็นด้วย “เขาอยากไปกันสองคนจริงๆ นั่นแหละ” คนขี้หวงคอตก ชักไม่ชอบว่าที่อาสะใภ้ที่แอบเชียร์เสียแล้ว “เราช่วยไหม” มาหยาเอ่ยถาม “ช่วยยังไงเหรอ” “กำจัดคนหน้าไหว้หลังหลอกไง แม่เคยพูดให้ฟังว่าคนบางคนต่อหน้าพูดดีกับเรา ลับหลังชอบนินทาหรือด่าว่าทำไม่ดีกับเรา เหมือนป้าข้างบ้านไง” เด็กน้อยพูดตามที่มารดาเคยสอน ป้าข้างบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามชอบมาพูดดี ขอโน่นขอนี่ แต่วันนั้นเธอเห็นว่าป้าคนนั้นแอบนินทามารดาของเธอเสียๆ หายๆ เธอเลยไปฟ้องมารดา มารดาก็เลยสอนให้เธอรับมือกับคนประเภทนี้  “แม่บอกว่าคนแบบนี้ต้องแก้เผ็ดเอาให้เข็ดหลาบ” มารดาของเธอก็เลยเอาคืนป้าคนนั้นอย่างเจ็บแสบ วันหลังอีกฝ่ายจึงไม่กล้ามาขออะไรอีก คนบางคนเห็นแก่ได้ อยากได้ของคนอื่น ใครดีมาเราก็ต้องดีตอบ ใครร้ายมาเราก็ต้องทำให้เขารู้ว่าเราไม่ยอมให้ใครรังแกหรือเอาเปรียบได้ง่ายๆ “หยาจะทำยังไงเหรอ” ดารินเอ่ยถาม เรื่องแกล้งเอาคืนคนอื่นมาหยาก็แสบไม่แพ้ใคร วันก่อนแกล้งวารุณีจนอีกฝ่ายเลิกอวดรวยเหยียดเพื่อนในห้องไปพักใหญ่ แต่ใช่ว่ามาหยาจะหาเรื่องแกล้งทุกคน แค่คนไหนที่นิสัยไม่ดี เพื่อนของเธอก็จะเอาคืนแบบเจ็บๆ คันๆ เหมือนที่พวกผู้ใหญ่เรียกว่าแก้เผ็ดน่ะ พอดารินเอ่ยถาม มาหยาก็ยิ้มแฉ่ง เด็กน้อยแก้มใสปากแดงเรียกเพื่อนทั้งสองมาประชุมกัน ก่อนจะกระซิบกระซาบแผนการ “ทำอะไรกันครับเด็กๆ” เขื่อนเอ่ยถาม “เปล่าค่ะ” มาหยารีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ หันไปยิ้มยิงฟันให้เพื่อนทั้งสอง จากที่เคยคิดจะเชียร์และชอบจินดา เขตต์ก็นึกไม่ชอบขึ้นมาในทันที ถ้าคนที่จะมาเป็นแฟนของผู้เป็นอาไม่ชอบตน ยังไงก็จะขัดขวางให้ถึงที่สุดเพราะต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน จินดาพยายามเข้าหาเขื่อน เธอพึงพอใจเขาและคิดว่าหากได้เป็นแฟนคงจะดีไม่น้อยและไม่คิดเลยว่าจะเจอตัวป่วนทั้งสามกลั่นแกล้ง จินดาคิดว่าไม่น่าเป็นอริกับเขตต์เลย แต่เธอไม่ชอบเด็ก จะให้ทนทำดีด้วยคงไม่ไหว เป็นแค่หลานไม่ใช่ลูก ถ้าเขื่อนกับเธอเป็นแฟนกัน เธอจะส่งเขตต์กลับไปอยู่กับปู่ย่าทางภาคเหนือ “ไหนอาเขื่อนล่ะจ๊ะเขตต์” จินดาเอ่ยถามเด็กชาย เธอโทร. หาเขื่อนไม่ติดเลยโทร. เข้าบ้าน เขตต์รับโทรศัพท์บอกว่าเขื่อนอาบน้ำอยู่ “อาเขื่อนออกไปซื้อของครับ อาจินดาเข้ามาก่อนสิครับ” เขตต์ยิ้มรับ ในขณะที่หันไปขยิบตากับมาหยาและดาริน จริงๆ อาของเขาไม่อยู่เพราะมีเคสด่วนต้องไปโรงพยาบาล เขาอยู่บ้านกับเพื่อนรักทั้งสอง และมีแจ่มมาดูแล แต่เด็กๆ หลอกล่อให้แจ่มกลับไปเอาขนมที่บ้านมาหยา “เหรอจ๊ะ” จินดาเดินเข้าไปในบ้านก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เดี๋ยวผมไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้อาจินดานะครับ” เขตต์รีบอาสา “เดี๋ยวหนูไปเอาขนมมาให้นะคะ” มาหยากับดารินรีบอาสาเช่นกัน “จ้ะ” จินดารับคำ ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดเพราะรู้สึกกระหายน้ำอยู่เหมือนกัน “ใส่เยอะเกินไปหรือเปล่า” ดารินเอ่ยถามเขตต์ที่ใส่ยาถ่ายลงไปเยอะพอสมควร “แบบนี้แหละจะได้จู๊ดๆ ไง” เขตต์ตอบอย่างหมายมั่น “น้ำครับอาจินดา” เขตต์ยกน้ำเย็นๆ ออกมาเสิร์ฟด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจจ้ะ แล้วอาเขื่อนออกไปนานแล้วเหรอจ๊ะ” จินดารับน้ำเย็นๆ มาดื่มก่อนจะเอ่ยถาม “นานแล้วครับ เดี๋ยวผมโทร. ตามให้นะครับ ไม่แน่ใจว่าทำไมยังไม่กลับมาอีก” เขตต์กดโทร. หาผู้เป็นอา ก่อนจะแกล้งพูดเสียงดัง “อ้อ... อาเขื่อนอยู่โรงพยาบาลมีเคสด่วน คงไม่กลับมาตอนนี้” “อ้าว...” จินดาครางออกมาอย่างผิดหวัง ก่อนหน้านี้เธอโทร. หาเขื่อนแต่ไม่ติด “เค้กมาแล้วค่ะ” มาหยากับดารินเดินออกมาจากห้องครัว นำเค้กมาเสิร์ฟ ก่อนจะแกล้งหกล้มใส่จินดา “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” “ว้าย! นังเด็กเปรต สกปรกเลอะเทะหมดแล้วเห็นไหม” จินดาโวยวาย เด็กๆ มองหน้ากันตาปริบๆ นิสัยแบบนี้ไม่ผ่าน พูดจาหยาบคายแถมยังไม่มีความเมตตาเอ็นดูเลยสักนิด ถ้าวันไหนโมโหขึ้นมาเขตต์คิดว่าจินดาคงจับเขาหักคอจิ้มน้ำพริกแน่ๆ “พวกหนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ” มาหยาโกหกตาใส ดารินจับมือเพื่อนเอาไว้ แอบไปทางด้านหลังอย่างหวาดกลัว ทำให้นึกถึงคุณครูฟ้าใสเมื่อหลายปีก่อนที่เคยทำร้ายเพื่อนๆ ในห้องรวมถึงเธอด้วย “หลีกไป!” จินดาผลักร่างเด็กๆ จนกระเด็นก่อนจะวิ่งไปเข้าห้องน้ำ เพื่อทำความสะอาดชุดของตัวเอง เธอดึงทิชชูมาเช็ดและล้างแขนที่เลอะไปด้วยเค้กอย่างโมโห “ไอ้เด็กเปรต คอยดูนะ ถ้าฉันได้เป็นเมียเขื่อนเมื่อไหร่ ฉันจะไม่ให้แกสองคนมาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก” เขตต์ มาหยาและดารินที่แอบมองอยู่ถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะมองสบตากันเลิ่กลั่ก “นี่เหรอว่าที่อาสะใภ้ของนาย” มาหยาเท้าสะเอวถาม เขตต์ส่ายหน้าไปมาด้วยท่าทีสยองพองขน “ตัดสินใจถูกแล้วที่พวกเราสามคนร่วมมือกันกำจัดนางมารร้ายออกไปจากชีวิตของอาเขื่อน” เด็กทั้งสามวางมือประสานกันก่อนจะร้องเย่ “โอ๊ย! ปวดท้องๆ” จินดากุมท้องตัวเองก่อนจะวิ่งเข้าออกห้องน้ำ พอออกมาจากห้องน้ำไม่ถึงสามก้าวเธอก็กุมท้องด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างรีบอุดก้นเอาไว้เพราะปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำอีก เสียงตดและกลิ่นของเหลวที่ขับถ่ายออกมา ทำเอาเด็กๆ ทั้งสามปิดจมูกแทบไม่ทัน จินดาวิ่งเข้าวิ่งออกห้องน้ำจนแทบหมดแรง ใบหน้าของอีกฝ่ายซีดเซียวลงถนัดตา “ทำยังไงดีหยา ถ้าเกิดอาจินดาตายขึ้นมาจะทำยังไง” ดารินเขย่าแขนเพื่อนอย่างร้อนใจ “ไม่ตายหรอก แค่ท้องเสีย” เขตต์เองก็ไม่มั่นใจ หน้าซีดตกใจอยู่มากไม่คิดว่าจินดาจะอาการหนักขนาดนี้  “ต้องโทร. หาอาหมอ” มาหยาตั้งสติ เธอเองก็กลัวจินดาจะอาการหนักกว่านี้เพราะตอนนี้จินดาคลานมานั่งอยู่หน้าห้องน้ำด้วยสภาพดูไม่จืดและถ่ายออกมาทั้งอย่างนั้น “ไม่ได้เดี๋ยวอาเขื่อนดุ” เขตต์รีบห้าม “หรือจะให้อาจินดาตาย ต้องโทร. เดี๋ยวนี้” มาหยาตัดสินใจเด็ดขาด ดารินได้แต่ยืนตัวสั่นมองเพื่อนสองคนทะเลาะกันไปมา “เกิดอะไรขึ้นคะคุณหนู” แจ่มที่กลับมาพร้อมขนมเค้กหอมกรุ่นเอ่ยถามเจ้านายตัวน้อย เมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสามกำลังลนลานเถียงกันไปมา “พี่แจ่มคือว่าคือ...” มาหยาเขย่าแขนแจ่มด้วยท่าทีอึกอัก “นายเขตต์วางยาอาจินดา ตอนนี้ท้องเสีย นั่งหมดแรงอยู่หน้าห้องน้ำค่ะ” ดารินโพล่งออกมา “ตายแล้ว!” แจ่มอุทาน รีบวิ่งไปดูจินดาหน้าห้องน้ำ ก่อนจะปิดจมูกด้วยความเหม็นเพราะตอนนี้จินดากำลังขับถ่ายออกมาแบบควบคุมไม่ได้ แจ่มตั้งสติรีบโทร. ไปหาเขื่อนในทันที “ผมขับรถถึงหน้าบ้านแล้วครับพี่แจ่ม” เขื่อนรีบเข้ามาในบ้าน หน้าตาแตกตื่นเมื่อเห็นว่าจินดาหน้าซีดปากสั่นนั่งหมดแรงหมดสภาพอยู่หน้าห้องน้ำ “ดื่มน้ำเกลือแร่ก่อนนะดา” เขารีบชงน้ำเกลือแร่มาให้เธอดื่ม ก่อนจะรีบพาส่งโรงพยาบาล จินดาปลอดภัยแต่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอให้น้ำเกลือและนอนหลับไปแล้วด้วยความอ่อนเพลีย “อาจินดาท้องเสียได้ยังไงครับ” เขื่อนเอ่ยถามเสียงขรึม เด็กน้อยทั้งสามก้มหน้างุดไม่กล้ามองสบตาเพราะรู้ว่าตัวเองทำผิด “ตอบมาเดี๋ยวนี้!” เสียงเข้มของเขื่อนทำให้เด็กทั้งสามใบหน้าเหลอหลา มองหน้ากันตาปริบๆ “หยาเองค่ะ หยาเป็นคนต้นคิด” เธอยืดอกยอมรับผิด เพราะตัวเองเป็นคนต้นคิดแผนการนี้จริงๆ คนเรากล้าทำก็ต้องกล้ารับ บิดามารดาเคยสอนเอาไว้แบบนั้น “อย่าไปโทษหยาเลยครับ ผมเป็นคนวางยาอาจินดาเอง” เขตต์เองก็ยอมรับผิด เขาคิดว่าตัวเองเป็นลูกผู้ชายพอจะให้ผู้หญิงมาแบกรับความผิดคนเดียวได้ยังไงกัน เขื่อนเคยสอนว่าเกิดเป็นผู้ชายต้องเป็นสุภาพบุรุษให้เกียรติผู้หญิง ทำอะไรก็ต้องกล้าทำกล้ารับ ไม่ว่าผลของการกระทำที่เกิดขึ้นนั้นจะดีหรือไม่ดีอย่างไร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม