บทที่ 6
จะบอกว่าเขามีตาแต่ไม่มีแววล่ะสิ ถึงดูไม่ออกว่าคุณท่านของเธอรักคุณผู้หญิงมากเพียงใด เขารู้ทันหรอกน่า แต่ก็อยากแกล้งเพื่อดูตอนต่อไป
“ก็ปกติดีนะ ยังมองเห็นความทึ่มของใครบางคนชัดเจน ถามทำไมเหรอ โอ๊ย..” เขาทำหน้านิ่วเมื่อโดนต่อยท้องอีกหมัด
“รู้ไว้เลยนะว่าคุณท่านไม่มีวันนอกใจคุณผู้หญิงเด็ดขาด พี่โฉดก็แก่มากแล้ว เป็นถึงระดับผู้บริหาร วิสัยทัศน์น่าจะกว้างไกลตามอายุตามตำแหน่งสิ แต่ทำไมถึงทำตัวเหมือนเด็ก ตัดสินด้วยกำลังมากกว่าใช้สมอง แบบนี้แย่มาก ๆ รู้ไหม”
“อ้อเหรอ..” เขาผิดที่ชอบใช้กำลังตัดสิน แล้วที่เธอมาหาเขาถึงที่ ขอเวลาแค่สามนาทีเพื่อต่อย ๆ ๆ เขาอยู่นี่ เรียกว่าใช้สมองแล้วใช่ไหม แม่คุณทึ่มเอ๋ย
“หัวเราะอะไรมิทราบ คิดว่าดูตลกอยู่หรือไง”
“ขอโทษครับ” เม้มปากกลั้นยิ้ม ตีหน้านิ่งเอาใจเธอ แต่ในใจยังขำต่อ
“ถ้าพี่โฉดทำแบบนั้นกับคุณท่านอีกนะ น้องทึ่มคนนี้เอาพี่หนักกว่าครั้งนี้แน่ เรื่องที่จะพูดก็มีแค่นี้แหละ หมดธุระแล้วก็ขอลาเลยนะคะ”
คุณพี่โฉดรีบคว้าแขนเล็ก ๆ ของคนที่กำลังจะชิ่งจากไปดื้อ ๆ
“เดี๋ยวสิ ลงทุนลางานมาเพื่อพูดแค่นี้เนี่ยนะ”
“ค่ะ” กว่าเธอจะหาเวลาว่างลางานมาได้ไม่ใช่ง่าย ๆ อย่ามาพูดว่าแค่นี้นะ นี่คือความโมโหที่อัดแน่นมาเป็นสัปดาห์ วันนี้ได้สะสางแล้วจึงสบายใจขึ้นเป็นกอง “ปล่อยสิ แนนจะได้กลับ คุณพี่ก็รีบไปตามนัดเสียที เดี๋ยวก็สูญเงินสิบ ๆ ล้านหรอก”
“ถ้ารับปากว่าอยู่รอจะปล่อย”
“ไม่รอ หมดธุระแล้วจะรอทำไม”
“ก็รอหน่อยไม่ได้เหรอ เดี๋ยวเลี้ยงขนม”
“ไม่ต้องเลี้ยงหรอก แนนมีเงินติดตัวมา บัตรเครดิตก็มี ปล่อยแนนได้แล้ว”
“แนน”
เสียงของชายหนุ่มที่เป็นบุคคลที่สาม ทำให้สองหนุ่มสาวที่ฉุดมือถือแขนกันอยู่หันไปมอง..
บุรุษรูปร่างสันทัดที่กำลังยืนคู่กับสตรีวัยกลางคนคนหนึ่ง กำลังมองพวกเขาด้วยท่าทางสงสัย
“นัท!” หญิงสาวทักด้วยท่าทีแปลกใจ
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า นัทเห็นท่าทางแปลก ๆ เลยเข้ามาถาม”
ภพธรเลิกคิ้วขึ้นเมื่อคนพูดเหลือบมามองหน้า นี่เขาเหมือนพวกอันธพาลไปแล้วเหรอ มือที่จับแขนหญิงสาวไว้ปล่อยออก เพื่อให้ฝ่ายนั้นรู้ว่าเขาไม่ได้ใช้กำลังบังคับขืนใจเธอ
สุริษาค่อย ๆ ปรับสีหน้าอีหลักอีเหลื่อให้เป็นระบายยิ้มยินดี
“นัท บังเอิญจังเลยนะ มากินข้าวกับคุณแม่เหรอจ๊ะ”
คนถูกถามออกอาการตกใจ รีบโบกมือปฏิเสธพัลวัน ส่วนสตรีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคุณแม่ถึงกับหน้าบึ้งตึงทันควัน
“ไม่ใช่ ๆ คุณปิ่นเธอเป็นแฟนนัทเอง”
ผู้ชายเลว หลอกผู้หญิงแก่ไปทั่วทั้งที่ตัวเองมีผัวอยู่โทนโท่ คงหลอกคบผู้หญิงคนนี้เพื่อหาเงินไปรักษาผัวที่ป่วยอยู่สินะ
โกหกเธอว่าพี่ชายป่วยหนักต้องใช้เงินรักษาเยอะมาก เธอก็ทั้งให้ฟรีและให้ยืมไปหลายหมื่นด้วยความเห็นใจ ที่แท้กลับกลายเป็นผัว.. แต่เธอก็นับถือน้ำใจของฝ่ายผัวอยู่ไม่น้อย เพราะยืนยันจะหาเงินมาใช้คืนให้ แต่เธอก็ใจกว้างพอที่จะยกให้ บอกให้เขาเก็บไว้รักษาตัว ถือเป็นค่าตอบแทนน้ำใจที่อุตส่าห์มาสารภาพความจริงให้รู้ด้วยตัวเอง
ส่วนอีฝ่ายเมียเลวคนนี้ก็ไม่ได้รู้เลยว่าความลับของตัวเองแตกแล้ว ยังมีหน้าเข้ามาทักทายเธออีก
“อุ๊ย!” สุริษาทำท่าตกใจ รีบพนมมือจรดหน้าอกและก้มศีรษะลงเล็กน้อย “ต้องขอโทษคุณปิ่นจริง ๆ ค่ะ เห็นคุณปิ่นดูดีมีออร่าเหมือนคุณหญิงคุณนายมาก ๆ ข่มนัทซะไม่เหลือราศีเลยค่ะ ก็เลยเข้าใจผิดไป” ชมประชดเกินจริงไปเป็นกระบุง
พอถูกชมเข้าหน่อยใบหน้าบึ้งตึงก็ค่อย ๆ คลายออก มองหน้าชายคนรักแล้วสอดมือกอดแขนเขาไว้
“นัทออกจะหล่อ ดูดีมาก ๆ ด้วย ก็อย่างว่าแหละค่ะ สามีเราเราก็ต้องมองว่าหล่ออยู่แล้ว จริงไหมคะ” ปิ่นเจตนาแสดงความเป็นเจ้าของ
“ค่ะคุณพี่”
“แนนมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” นัทกุมมือที่กอดแขนเขาไว้แล้ววกถามเรื่องเดิม
“ไม่มีหรอกจ้ะ ขอบใจนัทมากนะที่อุตส่าห์เป็นห่วง”
“ก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว เราเป็นเพื่อนกันนี่.. แนนสบายดีใช่ไหม”
ภพธรชักหงุดหงิดเมื่อเห็นสายตาอาวรณ์ที่ฝ่ายชายใช้มองยายทึ่มของเขา เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าสองคนนี้เคยเป็นแฟนกัน เพราะการกระทำของหญิงสาวมันฟ้องชัดเจนมาก แต่ไอ้ฝ่ายชายนี่สิแถสุด ๆ เพื่อนบ้าที่ไหนเขามองกันแบบนั้น
“สบายดี มีความสุขกับชีวิตมาก”
“ได้ข่าวว่าแนนทำงานหนักมาก”
“อือ งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข อยากมีกินมีใช้ก็ต้องทำงานเยอะ ๆ”
“ยังไม่มีแฟนใหม่ล่ะสิถึงได้โหมงานหนัก”
รอยยิ้มกับแววตาของอีกฝ่าย ทำให้สุริษารู้สึกเหมือนเขาจงใจจะบอกว่าเธอรักเขามากจนลืมเขาไม่ลง ถึงได้ครองตัวเป็นโสดมาตลอด
“แฟนไม่มีหรอกจ้ะ” แขนเรียวที่เคยถูกมือใหญ่จับไว้โอบเอวสอบของคนข้าง ๆ แล้วแนบศีรษะกับต้นแขนแน่นตึง ส่งสายตาและรอยยิ้มหวานให้อดีตคนเคยรัก “มีแต่เขานี่แหละ ที่เป็นมากกว่าแฟนไปแล้ว”
คำพูดของเธอไม่ได้ทำให้บุคคลที่สามตกใจเท่าคนที่ถูกกล่าวอ้าง ตกใจจนใจเต้นรัวแทบหลุดออกมาจากอกเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกมาให้มีพิรุธ ยอมให้ความร่วมมือกับเธอด้วยการโอบเอวคอดกิ่วให้สมจริงยิ่งขึ้น
“ยินดีที่ได้รู้จักทั้งสองนะครับ ชื่อใหญ่นะครับ เป็นสามีของแนนเขา”
“สามีหล่อมาก ๆ เลยค่ะ น่าอิจฉาจัง” สาวใหญ่วัยสี่สิบบวกเอ่ยชม สายตาจ้องสามีของอีกฝ่ายตาวาว
“ในสายตาของภรรยา คงไม่มีผู้ชายคนไหนหล่อเท่าสามีเราหรอกค่ะ จริงไหมคะคุณปิ่น” เมื่อกี้เจ๊เพิ่งบอกว่าสามีใครใครก็ต้องว่าหล่อ มาตอนนี้มาทำตาวาวตาเชื่อมเหมือนอยากได้สามีคนอื่นเชียวนะเจ๊
“ค่ะ แต่คุณใหญ่หล่อมาก ๆ เลยค่ะ ดูข่มราศีภรรยาหมดเลย”
โอ้โฮ! อีเจ๊เอาคืนเหรอคะ! “พี่ใหญ่เขาไม่ได้ข่มแนนหรอกค่ะ แต่แนนเป็นคนไม่สวยอยู่แล้วต่างหาก แต่ก็ดีใจมาก ๆ ค่ะที่หนังหน้าแบบนี้ได้สามีหล่อขั้นเทพแบบพี่ใหญ่” สุริษาชายตามองสามีแล้วคลี่ยิ้มหวานหยดส่งให้ “แล้วก็ยังรักแนนมาก ๆ ด้วย จริงไหมคะพี่ใหญ่ขา” ขอร้องละนะคุณพี่โฉด ช่วยน้องทึ่มสักครั้งจะไม่ลืมพระคุณ เธอส่งสายตาอ้อนวอนให้เขารับรู้
“ไม่จริงเลยครับ”