“เหอะ! กลัวฉันจะไปเห็นว่าแอบพลอดรักกับผู้จัดการอีกรึไงยะ!”
หมับ!
“ว้าย!” ฉันกำลังอยู่ในโหมดฉุนเฉียวเลยไม่รู้ตัวว่าเขาเดินตามมาติด ๆ แล้วตัวเองดันเป็นคนติดนิสัยไม่พอใจอะไรมาก ๆ จะบ่นมันออกมาเลยนี่เขาคงได้ยินแน่นอนถึงได้กระชากแขนฉันแรงขนาดนี้!
“เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ!” เสียงแข็งถามออกมาฟังดูน่ากลัวนะคะแต่คนเราก็โมโหเป็นเหมือนกันทุกคนไง
“จะว่าอะไรล่ะคะก็ได้ยินชัดเจนไม่ใช่รึไง”
“ปากเก่งเหรอ?” สีหน้าเขาเอาเรื่องมากกว่าเดิมทำให้ฉันรู้ตัวว่าตัวเองพลาดให้อารมณ์อยู่เหนือการควบคุมใด ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว แต่แล้วไงเหรอมาขออาศัยมาฝึกงานที่นี่แต่แค่บังเอิญไปเห็นเขาพลอดรักกับผู้หญิงของเขามันจำเป็นต้องเหม็นขี้หน้ากันขนาดนี้รึไงบอกดี ๆ ตั้งแต่รอบแรกก็จบแล้วไหมวะ
แล้วที่สำคัญใครสั่งใครสอนให้ไปพลอดรักถึงขั้นนั่งคร่อมกันในพื้นที่แบบนั้น? กาลเทศะ!
“เปล่าค่ะแค่พูดตามที่คิด”
“หึ! แบบเธอเขาเรียกว่าพูดไม่คิด” เหอะ! ตัวเองพูดก่อนคิดตายล่ะ ว่าคนอื่นได้นะแต่ช่วยดูตัวเองก่อนสักนิดก็คงดี
“ก็คิดแล้วนี่ล่ะค่ะถึงได้พูด แล้วก็คิดตามที่เห็นด้วยค่ะ”
“มันไม่ใช่เรื่องของเธอ” เสียงเขาเอาเรื่องมาก
“รู้ค่ะว่าไม่ใช่เรื่องของฉันแต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเดินไปตรงไหนแล้วจะไม่เจอคนพลอดรักกัน ที่จริงบรรยากาศมันก็ดีนะเข้าใจอยู่แต่ไม่น่าจะไปทำอะไรแบบนั้นมันไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวถึงจะเป็นไร่ของคุณเองก็เถอะ”
“เธอจะพูดมากทำไมวะ!”
“ก็แค่พูดเรื่องจริงแค่นั้นเองค่ะ” แค่จะบอกไงไม่ได้จะอะไรเลย แค่จะบอกแล้วก็เตือนสติให้คิดตามก็แค่นั้นเอง แต่ดูเหมือนเขาคงไม่คิดสินะ
“ฉันสั่งไม่ให้เธอบอกเอยไม่ได้หมายความว่าเธอจะเอามาพูดกับคนอื่นหรือแม้แต่พูดกับฉันได้ หุบปากของเธอซะ!”
เฮ้ย! มันจะอะไรขนาดนี้ นี่คนนะเว้ยมีสิทธิ์อะไรมาตะคอกใส่กันแล้วพูดจาไม่ดีใส่ยังไงก็ได้!
“จำเป็นต้องตะคอกต้องพูดจาแย่ใส่กันขนาดนี้เลยเหรอคะ?” ฉันมันประเภทเหมือนจะยอมคนแต่ความจริงไม่เคยคิดจะยอมซะด้วยสิ
“ถ้าเธอไม่พูดมากก็ไม่มีใครตะคอกเธอ”
“อ่อ! โลกหมุนรอบตัวเอง โอเคค่ะถ้างั้นก็ตามสบายค่ะที่นี่มันไร่ของคุณจะแซ่บตรงไหนก็ได้ไม่ผิดอะไร เอาเป็นว่าถ้าฉันเห็นจะรีบเดินไปอีกทาง แต่ระวังหน่อยนะคะฉันเห็นได้คนอื่นก็เห็นได้ ที่สำคัญน้องสาวคุณก็เห็นได้เหมือนกัน!” ฉันพูดจบก็รีบบึ่งเข้าบ้านทันทีเพราะกลัวเขาพุ่งมาบีบคอที่ยังกล้าปากดีใส่เขาต่อ ถึงปากดียังไงก็กลัวตายเข้าใจกันใช่ไหมคะ
นิสัยไม่ดีเลยอีตาแทนคุณอะไรนี่ ไอ้เราก็คิดว่าจะใจดีกับเพื่อนน้องซะอีกแต่ที่ไหนได้
เหอะ! ชาตินี้ทั้งชาติขอให้ต้องแอบแซ่บกับผู้หญิงแล้วมีแต่คนเห็นจนต้องตามขู่ตามล้างตามเช็ดแบบนี้ตลอดไปเถอะพ่อรูปหล่อ!
#MING END
#TANKUN TALK
“อ่อ! โลกหมุนรอบตัวเอง โอเคค่ะถ้างั้นก็ตามสบายค่ะที่นี่มันไร่ของคุณจะแซ่บตรงไหนก็ได้ไม่ผิดอะไร เอาเป็นว่าถ้าฉันเห็นจะรีบเดินไปอีกทาง แต่ระวังหน่อยนะคะฉันเห็นได้คนอื่นก็เห็นได้ ที่สำคัญน้องสาวคุณก็เห็นได้เหมือนกัน!”
“หึ!” ผมมองเด็กคนนั้นที่ปากดีใส่ผมแต่กลับรีบเดินจนแทบวิ่งเข้าบ้านไป
อยากตามไปกระชากมาทำโทษที่กล้าปากดีใส่แต่เห็นวิ่งหางจุกตูดขนาดนั้นไม่ทำดีกว่า ปล่อยให้ไปนอนเถอะไม่อยากตามจองเวรไม่งั้นเดี๋ยวเด็กคนนั้นจะร้องไห้หอบเสื้อผ้ากลับกรุงเทพเปล่า ๆ
ไม่ได้อยากมาวุ่นวายกับยัยนี่หรอกแต่ตอนนี้มันเริ่มเข้าฤดูฝนไม่มาไล่เข้าบ้านเดี๋ยวได้โดนงูเห่ากัดตายในไร่ผมกันพอดีช่วงนี้งูยิ่งชุมอยู่ด้วย
คนอุตส่าห์หวังดีลงมาบอกให้เข้าบ้านทั้งที่โคตรง่วงดันโดนยั่วโมโหซะงั้น
-วันต่อมา-
“พี่ให้คนเอารถมาไว้ให้ใช้แล้วนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปฝึกงานวันแรกห้ามงอแง”
“ไม่งอแงแน่นอนค่ะ เอยไม่ทำตัวเป็นเด็กเส้นแน่นอน พี่แทนก็รู้ว่ามาฝึกงานที่นี่เพราะจำเป็น”
“พี่ล้อเล่นเฉย ๆ น่า”
“ค่า ถ้างั้นเอยกับมิ้งค์ไปรายงานตัวก่อนนะคะ”
“กินข้าวเช้ากันแล้วเหรอ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“อื้ม”
“ไปกันจ้ะมิ้งค์คนสวย” ฉันยิ้มให้ยัยเอยแล้วเดินตามเพื่อนไปหลังจากยืนเงียบ ๆ ฟังพี่ชายน้องสาวเขาคุยกันพักหนึ่ง วันนี้พยายามไม่สบตาเขาให้มันเสียฤกษ์แล้วก็ทำได้เพราะไม่ได้สบตาเขาเลย
เมื่อคืนไปตั้งสติแล้วไงคะ คับที่อยู่ง่ายคับใจอยู่ยาก แต่ถ้าไม่เป็นที่ถูกใจเจ้าถิ่นอยู่โคตรยากยิ่งกว่าอะไรทั้งปวงเลยคิดว่าจะพยายามเลี่ยงการทำให้เขารู้สึกไม่เข้าตาให้มากที่สุดด้วยการไม่สบตากับเขาซะเลย
เราสองคนไปที่ออฟฟิตของไร่ไปรายงานตัวกับพี่ฝ่ายบุคคลแล้วก็ถูกพาไปที่โต๊ะฝึกงาน ขวัญเอยฝึกแผนกหนึ่งส่วนฉันก็ฝึกแผนกหนึ่งแต่ใกล้กันค่ะ พี่ ๆ ในแผนกน่ารักดีแต่ต่อให้ไม่น่ารักก็ไม่เป็นไรแค่ไม่มีเจ้มิลินก็สบายใจแล้ว
“เอื้อง”
“จ๋าพี่ช่อ” พี่ช่อเป็นหัวหน้าแผนกค่ะ ใจดีเลยนะส่วนพี่เอื้องเป็นพี่ในแผนกที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้ฉัน
“วันนี้คุณแทนจะไปดูใบชาที่ไร่พ่อเลี้ยงอเนกเตรียมเอกสารรึยัง”
“เตรียมแล้วค่ะพี่ช่อ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงค่ะระดับเอื้อง อิอิ”
“จ้า~ ดีมาก” ฉันนั่งฟังพี่เขาคุยกันแล้วก็ได้แค่ฟังนั่นล่ะค่ะ ไม่รู้อะไรสักอย่างนี่คะ ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรด้วยนอกจากนั่งยิ้มทำหน้าตาน่ารักให้มากกว่าความสวยเพื่อสร้างความเป็นมิตรและความเอ็นดูเท่านั้น
“เป็นไงบ้างจ้ะขาดเหลืออะไรไหมน้องมิ้งค์” พี่ช่อคุยกับพี่เอื้องเสร็จก็หันมาถามฉัน
“ไม่เลยค่ะพี่ช่อ ขอบคุณนะคะ”
“จ้า ถ้ามีอะไรก็บอกพี่เอื้องนะถ้าพี่เอื้องไม่อยู่ก็บอกพี่ได้เลย”
“ค่ะ” ฉันยิ้มรับจนตาหยี ต่อให้เจ้านายจะไม่ใจดีแต่ช่างเถอะไม่ได้ทำงานกับเขานี่คะอยู่บ้านก็คอยเลี่ยงเอา แค่มีพี่ ๆ เพื่อนร่วมงานที่ใจดีแล้วก็เอ็นดูฉันแค่นี้ก็ดีมากแล้วเพราะฉันต้องอยู่กับพวกพี่เขาเกือบทั้งวันเลยนะ
“แล้วถ้าเอื้องมีอะไรขาดเหลือล่ะคะพี่ช่อขา~”
“ขาดอะไรยะ”
“ขาดผู้ช่วยสวย ๆ ไปเป็นเพื่อนค่ะพี่ช่อขา~”
“อะไรนะ?” พี่ช่อถามซ้ำเหมือนไม่ค่อยเข้าใจ
“วันนี้แม่นางก็ไปค่ะ”
“อ้อ ถ้างั้นก็เอาคนที่น่าเป็นเจ้านางไปเป็นเพื่อนได้เลยนะจ้ะพี่ได้หมดขอแค่สดชื่นกว่าเดิมก็พอ”
“เลิศค่ะคุณพี่ช่อขา~” ฉันนั่งฟังแต่ไม่ได้มองพี่เขาหรอกนะคะ จะไม่ฟังได้ไงก็คุยกันข้างโต๊ะฉันแต่คุยกันแค่นี้เสียงพูดคุยก็จบลงแล้วล่ะ
“น้องมิ้งค์จ้ะ”
“คะพี่เอื้อง” โดนเรียกมิ้งค์ก็รีบหันไปพร้อมขานรับด้วยท่าทีกระตือรือร้นสิคะ
“วันนี้ยังไม่มีอะไรให้ทำนะจ้ะเดี๋ยวหนูไปดูงานข้างนอกกับพี่นะ”
“คะ? ไปดูงานข้างนอกเหรอ หวังว่าคงไม่ใช่...” ที่คุยกันเมื่อกี้นะคะ อยากพูดให้จบแต่ไม่กล้าพูดเลย
“จ้า สิบโมงเช้าคุณแทนจะไปแม่แตงเดี๋ยวหนูไปกับพี่นะ พี่เอื้องจะพาไปเที่ยวไร่ชา”
“คะ? ค่ะ ๆ” ฉันไม่กล้าปฏิเสธเพราะมันเป็นคำสั่งจากพี่ในแผนกถึงแม้จะมีคำพูดที่อยากปฏิเสธอยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำแต่บอกให้เธอฟังไม่ได้สักคำ T^T
มิ้งค์เอ้ยฝึกงานวันแรกก็ซวยได้ออกไปทำงานพร้อมเจ้านายแล้ว แค่ลำพังเริ่มทำงานก็ตื่นเต้นแล้วนะแต่พอบวกความไม่ชอบขี้หน้าฉันของอีตาแทนคุณเข้าไป โอ้โห~ คูณความตื่นเต้นเข้าไปพันเท่าได้เลยค่ะ
มิ้งค์ไม่อยากเป็นแล้วสาวเชียงใหม่ที่สูดกลิ่นดอกกาสะลองขอกลับไปสูดกลิ่นควันพิษที่กรุงงเทพตอนนี้จะทันไหมนะ เฮ้อ!
-เวลาต่อมา-
“เฮ้อ~”
“พี่เอื้องไม่สบายรึเปล่าคะ” เดินกันอยู่ดี ๆ พี่เอื้องก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แถมยังถอนหายใจยาวมากอดสงสัยไม่ได้ค่ะ ไม่ได้เผือกหรอกนะแค่สงสัยแล้วก็แอบห่วง
“เปล่าจ้ะพี่แค่เซ็ง ๆ”
“มีอะไรเหรอคะ” ไม่รู้ว่าถามแล้วจะดูเสียมารยาทไหมแต่อยากรู้นี่คะจะให้ทำยังไงนอกจากถาม แหะ ๆ
“เดี๋ยวอีกสักพักน้องมิ้งค์ก็รู้เอง รอดูเองเนอะอย่าเพิ่งรู้ตอนนี้เลยพี่เอื้องไม่อยากพูด”
“ค่ะ โอเคค่ะ” พี่เอื้องบอกมาแบบนี้ฉันในฐานะเด็กฝึกงานแถมยังไม่สนิทกันจะทำอะไรได้ล่ะนอกจากน้อมรับแล้วรอซึ่งรออะไร...มิ้งค์ก็ไม่รู๊ว~
พี่เอื้องพาฉันเดินไปข้างหน้าออฟฟิต มีรถตู้ของไร่จอดรออยู่ตรงทางเข้าน่าจะเป็นรถที่เราจะใช้เดินทาง ขอให้อีตาพี่ชายยัยเอยไปรถอีกคันเถอะนะคะอย่าได้มาใช้รถร่วมกับพนักงานเลย
สา~ ธุ๊~
“เตรียมเอกสารเรียบร้อยนะเอื้อง”
“...” เพิ่งสาธุในใจเองนะเว้ยเฮ๊ย!
“เรียบร้อยค่ะคุณแทน”
“โอเค ถ้างั้นไปกันเลย”
“ค่ะคุณแทน” พี่เอื้องยิ้มรับเสียงสดใจแต่ใจมิ้งค์แม่งโคตรห่อเหี่ยวเลยว่ะ รถมีคันเดียวแสดงว่าไปคันเดียวกันสินะ -_-
“แล้วนี่อะไรมาส่งเอกสารเหรอ”
“คะ?” เขากำลังจะเดินผ่านหน้าฉันไปทางรถแต่สุดท้ายก็หันมามองแล้วถาม ไม่รู้ว่าถามใครถามฉันถามพี่เอื้องหรือถามลอย ๆ เพราะเหม็นขี้หน้า
“เอื้องเอาน้องไปเป็นผู้ช่วยค่ะ”
“ผู้ช่วย?” ก็ผู้ช่วยไงยะไม่เห็นต้องทำหน้าเหมือนไม่รู้จักคำว่าผู้ช่วยเลย
“ค่ะ” พี่เอื้องก็ยังอารมณ์ดี ก็แน่ล่ะไม่มีใครรู้นี่คะว่าฉันเป็นที่ไม่ชื่นชอบของเจ้าของไร่เท่าไหร่
“ฝึกงานยังไม่ถึงครึ่งวันเป็นผู้ช่วยได้แล้วเหรอเอื้องคำ?”
“เอ่อ...” ไม่รู้ใครกันแน่ที่ควรหน้าชากว่ากันระหว่างฉันกับพี่เอื้อง -_-
“ตั้งใจทำงาน ไปเป็นผู้ช่วยก็อย่าไปถ่วงพี่เขาเด็ดขาด”
“ค่ะ” เขาหันมาคุยกับฉันแต่น้ำเสียงไม่ได้แย่เท่าไหร่เลยรับคำแบบงง ๆ จากนั้นอีตาพ่อเลี้ยงก็เดินไปที่รถฉันกับพี่เอื้องเลยต้องรีบเดินตาม
“แล้วคุณผู้จัดการล่ะคะพ่อเลี้ยง” หือ? คุณผู้จัดการเหรอ คุณผู้จัดการที่ว่าคงไม่ได้หมายถึงยัยเจ้มิลินคนสวยหรอกนะ อย่าบอกนะว่าไปด้วยกันเพราะถ้าใช่อีมิ้งค์ซวยแน่
“วันนี้ผู้จัดการไม่ได้ไป มีลูกค้าจะเข้ามาดูชาล็อตใหญ่กระทันหัน”
“อ่อค่ะ ๆ” ทำไมน้ำเสียงพี่เอื้องดูอารมณ์ดีกว่าเมื่อกี้เยอะเลย อย่าบอกนะว่าที่ถอนหายใจเหมือนเซ็ง ๆ แล้วบอกให้ฉันรอดูเองจะหมายถึงยัยเจ้นั่น?
แต่ฉันว่าน่าจะใช่นะกล้าฤทธิ์เยอะใส่ลูกหลานเจ้าของไร่อย่างยัยเอยขนาดนั้นกับคนอื่นที่ตำแหน่งงานเล็กกว่าตัวเองเจ้แกคงไม่ปล่อยไว้หรอกมั้ง
ฉันขึ้นมานั่งที่แถวด้านหลังของรถเยื้องกับคุณแทนคุณ รองผู้จัดการบริษัทส่งออกชาและไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
หล่อมากไม่ปฏิเสธ ความหล่อของเขาเข้ากับบรรยากาศของภาคเหนือแต่ตัวตนของเขาที่ฉันได้พบเจอมาแค่นิดหน่อยดันไม่ค่อยน่าประทับใจ จะให้บอกยังไงดี First impression ระหว่างฉันกับเขามันไม่ดีมั้งความหล่อที่หล่อจนชวนบรรลัยหัวใจของเขาเลยไม่มีผลอะไรกับฉันแม้แต่นิดเดียว
คนแบบนี้หล่อแค่ไหนฉันก็ไม่ชอบหรอก แอบซุ่มกินกับผู้จัดการไร่แบบนั้นใครจะไปกล้าแอบคิดอะไร ลองคิดสิสุดท้ายคงเป็นได้แค่ผู้หญิงที่ไม่ต่างจากยัยผู้จัดการแน่นอน กินหยอก ๆ ไม่บอกว่ารักแบบนั้นแม้แต่ไรขนอ่อน ๆ ตรงหน้าอกล่ำ ๆ มิ้งค์คนนี้ก็ไม่คิดจะชายตาแล!