เจ้าของพระหัตถ์ใหญ่แข็งแกร่ง ที่ถูกพระมารดากุมไว้แน่นได้คลี่ยิ้มตรงมุมปาก นึกดีใจที่พระมารดาพระบิดาเข้าใจถึงความรู้สึกของพระองค์
“ลูกคงรับความปรารถนาดีของชีคอะเดลาไม่ได้ แม้องค์หญิงอลีมาจะสวยน่ารักเพียงใด แต่เธอก็ไม่ได้ครึ่งของท่านแม่ ลูกคิดเสมอว่าหากจะมีชายา ลูกจะเลือกหญิงสาวที่งดงามทั้งกายและใจ พร้อมรับความทุกข์ ความสุขไปพร้อมๆ กับลูก เฉกเช่นท่านแม่ที่ได้คอยอยู่เคียงคู่กับท่านพ่อเสมอมา”
ชีคฟาซิซต์ผู้เป็นพระบิดาได้แย้มยิ้มบาง ขณะได้ยินคำตอบของโอรส พระองค์พยักพระพักตร์รับ ทรงเคารพการตัดสินใจของโอรสเสมอมา
“พ่อเชื่อว่าลูกจะต้องได้พบกับหญิงสาวผู้งดงามคนนั้นแน่นอน และภาวนาให้พบเร็วๆ ด้วย พ่อกับแม่อยากอุ้มหลานแล้ว”
ผู้เป็นพระบิดาตรัสบอกพร้อมด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ได้ตรัสบอกให้โอรสได้สบายใจ
“พ่อจะนำข่าวนี้ไปแจ้งให้ชีคอะเดลาได้ทราบ ฟารีสต์ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรตามมา เพราะพ่อจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเอง”
มกุฎราชกุมารหนุ่มเผยสีพระพักตร์ไม่สบายใจให้เห็น ก่อนจะตรัสคัดค้านออกมา
“ท่านพ่อ หากชีคอะเดลามีปฏิกิริยาในด้านลบ ลูกขอร้องว่าลูกขอเป็นคนจัดการเอง ท่านพ่อกับท่านแม่เหนื่อยมานานแล้ว ลูกไม่อยากให้ท่านทั้งสองได้เป็นกังวลกับเรื่องนี้ หลังจากพิธีสถาปนาลูกขึ้นปกครองประเทศแล้ว ท่านพ่อกับท่านแม่ได้โปรดทำตามกำหนดการเดิมเถอะพ่ะย่ะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องทางนี้ ลูกสัญญาด้วยเกียรติของท่านชีคแห่งอัสดารานส์ ว่าจะทำนุบำรุงดูแลราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข ท่านพ่อกับท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงน้องด้วย ลูกจะดูแลติย่าด้วยชีวิตของลูกเองพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อได้เอ่ยถึงนางฟ้าแสนสวยของราชวงศ์ ชีคฟาซิซต์กับพระชายาปิณฑิรา ก็เผยอาการไม่สบายใจให้เห็นอีกรอบ ก่อนที่ชีคฟาซิซต์จะเป็นฝ่ายตัดสินใจตรัสบอกโอรส ทั้งๆ ที่พอจะรู้ว่าโอรสหนุ่มต้องเดือดพล่านขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน
“ฟารีสต์...นอกจากเรื่องของลูกแล้ว ชีคอะเดลาได้สู่ขอติย่าให้กับเจ้าชายอะเดลีโอรสของพระองค์ด้วย”
“นรก!”
ราชนิกุลหนุ่มถึงกับสบถลั่นอย่างลืมตัว คราวนี้พระพักตร์คมเข้มบูดบึ้งถมึงทึง ดวงตาลุกวาบราวกับจะฆ่าคนได้ เมื่อได้รับรู้ถึงความต้องเจ้าชายอะเดลีผู้เป็นโอรสของชีคอะเดลา
“เจ้าชายอะเดลี ไม่ได้ต้องการติย่าไปเป็นพระชายา เขาต้องการแค่นางบำเรอชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่ถึงเขาจะยกย่องติย่าให้เป็นพระชายา ลูกก็เชื่อไม่ลงว่าเขาจะมีติย่าแค่เพียงคนเดียว เขาจะทำให้ติย่าเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น”
ความชั่วในเรื่องการทำร้ายผู้หญิงของเจ้าชายหนุ่มแห่งรัฐอะเดลา ที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดเวลา ทั้งตอนอยู่ในแผ่นดินทะเลทราย และตอนที่เจ้าชายอะเดลีได้ไปศึกษาในอเมริกา ถึงแม้จะเป็นคนละรัฐกันกับพระองค์ แต่ชื่อเสียงในด้านเสียๆ หายๆ ของเจ้าชายอะเดลี ที่มักจะทำร้ายคู่ควง คู่ขา หรือการใช้อำนาจบาตรใหญ่บังคับให้ผู้หญิงมาเป็นของตน และจบลงด้วยการทำร้าย ซ้อมพวกเธอเหล่านั้นจนสะบักสะบอม ได้เล็ดลอดเข้ามาให้พระองค์ได้ยินเสมอ
ผู้เป็นพระมารดาตกใจเล็กน้อย ตอนที่ได้ยินโอรสสบถลั่น รู้ว่ายังไงแล้วฟารีสต์ไม่มีทางยอมให้ขนิษฐาต้องตกไปเป็นของเล่นของเจ้าชายอะเดลีอย่างแน่นอน
“แม่กับพ่อก็ไม่ยอมเช่นเดียวกัน เจ้าชายอะเดลีแค่ต้องการติย่าไปประดับบารมีของตนเองเท่านั้น แม่สืบทราบว่าตอนนี้เขามีชายาลับๆ ถึงห้าคนไปแล้ว”
“วันพรุ่งนี้พ่อจะไปพบชีคอะเดลา เพื่อปฏิเสธทั้งเรื่องของฟารีสต์และเรื่องของติย่า”
ชีคฟาซิซต์ตรัสบอกด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล พระพักตร์ที่ยังคงหล่อเหลาดูน่าเกรงขาม แม้จะล่วงเข้าสู่วัยค่อนคนแล้ว ได้เผยริ้วรอยแห่งความเป็นกังวลไม่ต่างจากน้ำเสียงที่ได้ตรัสออกมา
“ลูกหวังว่าชีคอะเดลาและโอรส ธิดาของเขา จะรับฟังเหตุผลที่ท่านพ่อได้ตรัสบอกไป”
ผู้เป็นโอรสเอ่ยออกมาลอยๆ ไม่คาดหวังว่าจิ้งจอกเฒ่าที่มีพิษสงรอบตัวอย่างชีคอะเดลา จะเข้าใจและรับฟังเหตุผลที่พระบิดาของพระองค์ได้ชี้แจงให้ทราบ
“พ่อคิดว่าชีคอะเดลาและโอรสคงรับฟังเฉพาะตอนที่อยู่ต่อหน้าพ่อเท่านั้น พอลับหลังพ่อแล้วเขาคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ”
ชีคฟาซิซต์มั่นใจว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น เพราะนิสัยแว้งกัด แทงข้างหลังในยามที่ศัตรูเผลอ ชีคอะเดลาถนัดนักแล! แต่ไม่ว่าชีคอะเดลาจะตอบโต้คำปฏิเสธของพระองค์อย่างไร พระองค์ก็เตรียมพร้อมรับมืออยู่แล้ว
“ท่านพ่อ พรุ่งนี้ให้ลูกเดินทางไปพบชีคอะเดลาดีกว่าไหมพ่ะย่ะค่ะ”
น้ำเสียงที่ตรัสขอความเห็นจากพระบิดานั้น เต็มไปด้วยความห่วงใย ไม่อยากให้พระบิดาต้องนั่งรถเดินทางไกลหลายชั่วโมง เพื่อไปพบกับจิ้งจอกเฒ่า
“ไม่ต้องหรอกลูก พ่อไปเองดูจะเหมาะกว่า ฟารีสต์อยู่ที่นี่นั่นแหละดีแล้ว จะได้เตรียมตัวเข้ารับการสถาปนาเป็นท่านชีคต่อจากพ่อ”
เมื่อพระบิดาได้ตรัสถึงการเข้าพิธีราชาภิเษกให้เป็นท่านชีคต่อจากพระองค์ ผู้ที่เป็นโอรสก็เผยอาการเคร่งเครียดให้เห็นแค่เพียงเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีพระพักตร์และแววตาให้เป็นปกติ แต่กระนั้นผู้ที่เป็นพระมารดาก็จับสังเกตได้ จนอดรนทนไม่ไหวต้องตรัสถามโอรสผู้หล่อเหลา
“ฟารีสต์...ลูกยังไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่งนี้ต่อจากท่านพ่อหรือลูก”
ผู้เป็นพระมารดาได้ตรัสถามแทงใจดำ ผู้ที่กำลังจะก้าวขึ้นนั่งบนบัลลังก์อัสดารานส์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และแม้จะเผลอแสดงความรู้สึกให้พระมารดาได้เห็นแค่ชั่วพริบตาเดียว แต่มกุฎราชกุมารหนุ่มก็ไม่มีทางยอมบอกความจริงในเรื่องนี้ ให้พระบิดาพระมารดารู้อย่างแน่นอน
“เปล่าพ่ะย่ะค่ะท่านแม่ ลูกแค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องจัดพิธีให้ยิ่งใหญ่ก็ได้ เอาแบบเงียบๆ เรียบง่ายก็พอแล้ว จะได้เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายงบหลวงด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ชีคฟาซิซต์กับพระชายาปิณฑิราได้หันมามองหน้ากัน รู้ดีว่าโอรสนั้นกำลังโกหกพวกตนอยู่ แต่กระนั้นก็ไม่ได้คาดคั้นให้โอรสได้ตรัสบอกความจริง ตรงกันข้ามผู้ที่เป็นพระบิดา ได้ย้ำเตือนให้โอรสได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ ที่บุรุษชาติอาหรับผู้หนึ่ง ซึ่งถูกชะตาฟ้าลิขิตให้เกิดมาเพื่อทำหน้าที่อันทรงเกียรติ ได้ทำใจยอมรับในสิ่งที่ตนเองไม่อาจเลี่ยงได้ตลอดชั่วทั้งชีวิต