บทที่ 4

1194 คำ
องค์หญิงฟาติย่าแอบย่องกลับเข้ามาในตำหนักของเชษฐา ใบหน้างามค่อยๆ โผล่เข้ามาในห้องหรูหรา พอได้เห็นองครักษ์อัสรัสส์ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องทรงงาน ก็ถึงกับสบถออกมาเบาๆ “ท่านพี่นะท่านพี่ รู้ทันติย่าไปหมดว่าติย่าคิดอะไรอยู่ ฮึ! ติย่าจะต้องรู้ให้ได้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่คุยกับท่านพี่ในเรื่องอะไร” มกุฎราชกุมารฟารีสต์ทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้หลุยส์ ฝั่งตรงข้ามพระบิดาพระมารดา ซึ่งนั่งตีสีพระพักตร์ติดเคร่งเครียดขณะทอดสายตามองพระองค์ “ท่านพ่อ ท่านแม่ ทำไมถึงได้ตีสีพระพักตร์เคร่งเครียดนักล่ะพ่ะย่ะค่ะ” ผู้ที่เป็นโอรสเป็นฝ่ายเริ่มถามก่อน เมื่อบุพการีทั้งสองพระองค์ ได้แต่นิ่งจ้องมองพระองค์เขม็ง พระชายาปิณฑิราได้หันไปมองพระพักตร์พระสวามี ราวกับต้องการให้ชีคฟาซิซต์ ได้เป็นฝ่ายบอกโอรสด้วยองค์เอง ส่วนชีคฟาซิซต์ ประมุขแห่งอัสดารานส์ ผู้ที่จะสละราชบัลลังก์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ได้ลอบถอนหายใจยาว จากนั้นก็ตัดสินใจตรัสเกริ่นปูทาง ก่อนจะเข้าสู้เป้าหมายอันแท้จริง ที่ได้เรียกโอรสให้เข้ามาคุยในห้องทรงงาน “ฟารีสต์ พ่อกับแม่ได้ยินลูกบ่นเรื่องคู่ครอง พ่ออยากรู้ว่าลูกมีหญิงที่หมายปองบ้างหรือยัง” ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พระองค์ก็พอจะได้ยินโอรสบ่นว่ายังไม่พบเนื้อคู่ตุนาหงัน แต่ชีคฟาซิซต์ก็อยากย้ำถามโอรสเพื่อความมั่นใจ “ถ้าคำถามของท่านพ่อหมายถึง หญิงสาวที่ลูกคิดจะแต่งงานด้วยล่ะก็ ลูกยังไม่มีพ่ะย่ะค่ะ แต่ถ้าหากหมายถึงหญิงสาวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ให้ความสำราญในยามเหงา ลูกก็มีเป็นพรวนนับไม่ถ้วนพ่ะย่ะค่ะ” ผู้ที่เป็นโอรสตรัสตอบเสียงราบเรียบ ไม่คิดปิดบังเรื่องผู้หญิงที่พระองค์มีอยู่มากมาย แต่ผู้หญิงเหล่านั้นได้รับแค่ความสุขและเงินทองไปจากพระองค์ หามีหญิงใดได้พระหฤทัยอันแข็งแกร่งของเจ้าแห่งทะเลทรายไปด้วยไม่! ซึ่งพระองค์คิดว่าชาตินี้ทั้งชาติ คงไม่มีหญิงสาวจากชาติใด ที่จะได้พระหฤทัยของพระองค์ไป “ฟารีสต์ ถ้าเกิดว่าลูกยังไม่มีคนรัก ลูกคิดว่าองค์หญิงอลีมาเป็นอย่างไรบ้าง” คราวนี้ผู้เป็นพระมารดาได้ตรัสถามโอรสบ้าง พร้อมกับลอบสังเกตปฏิกิริยาจากผู้ที่นั่งอยู่เบื้องหน้า ทว่าโอรสหนุ่มผู้ที่มีดวงตาสีดำสนิทถอดแบบมาจากพระบิดา กลับเก็บความรู้สึกได้ดีเยี่ยม ยากที่จะหยั่งถึงได้ ทำให้นางถึงกับลอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อไม่อาจเดาใจโอรสได้ถูกว่าคิดอย่างไร กับเรื่องที่นางได้เกริ่นนำไป “อลีมา...ธิดาของชีคอะเดลาใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ” มกุฎราชกุมารฟารีสต์ ยังคงตรัสถามเสียงราบเรียบเช่นเคย พอจะเดาได้แล้วว่า ท่านพ่อท่านแม่ต้องการบอกสิ่งใดกับพระองค์ “ใช่แล้วลูก ธิดาของชีคอะเดลา เจ้าปกครองรัฐอะเดลา” พระบิดารับคำ ก่อนจะตรัสถามโอรสต่อ “ฟารีสต์เคยเห็นองค์หญิงอลีมาแล้วไม่ใช่หรือลูก” “พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ” มกุฎราชกุมารหนุ่มรับคำ พลางนึกถึงธิดาคนสวยของรัฐอะเดลา องค์หญิงอลีมามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับฟาติย่าขนิษฐาของพระองค์ อลีมานั้นสวยสง่า ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ไม่เถียง แต่ทว่าความสวยที่เห็น เป็นแค่เพียงรูปกายภายนอกเท่านั้น องค์หญิงอลีมานั้นมีจิตใจโหดร้าย ไร้ความเมตตากับผู้คนที่อยู่รอบกาย ซึ่งพระองค์คิดว่าใจที่สกปรกของ องค์หญิงอลีมา คงได้รับมาจากพระบิดาคือท่านชีคอะเดลา และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้พระองค์ไม่อยากยุ่งกับองค์หญิงอลีมาคือเธอเป็นโรคที่ขาดผู้ชายไม่ได้ ผู้ที่เป็นพระบิดาลอบสังเกตอาการของโอรส พลางนึกในใจว่าโอรสที่นั่งอยู่เบื้องพระพักตร์นั้น ช่างถอดแบบพระองค์มาเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าอันหล่อเหลา ดวงตาคมกริบดุจพญาอินทรี และอาการที่สงบนิ่งไม่ไหวติง ราวกับท้องทะเลปราศจากคลื่นลม ซึ่งอาการนิ่งเงียบ ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก ทำให้พระองค์เดาไม่ออกว่าโอรสกำลังคิดอะไรอยู่ “เมื่อหลายวันก่อนชีคอะเดลาได้มาพบพ่อ เพื่อปรึกษาเรื่องอยากเป็นทองแผ่นเดียวกันกับประเทศของเรา” ชีคฟาซิซต์ ผู้เป็นพระบิดาเริ่มเอ่ยถึงเนื้อหาอันแท้จริง ที่ได้เรียกโอรสให้เข้ามาสนทนากัน “แล้วท่านพ่อ ท่านแม่ ตอบชีคอะเดลาไปว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ” มกุฎราชกุมารฟารีสต์ตรัสถามบุพการีทั้งสองพระองค์ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าข้างในกายนั้นกำลังร้อนรน ลุ้นแทบลืมหายใจว่าจะได้ยินคำตอบเช่นไร จะออกมาในด้านดีหรือด้านลบ “พ่อยังไม่รับปากชีคอะเดลา พ่ออยากถามความเห็น ความสมัครใจของฟารีสต์ก่อน หากฟารีสต์ตกปากรับคำ ชีคอะเดลาก็อยากให้มีการจัดพิธีอภิเษกขึ้นในวันเดียวกันที่ฟารีสต์ได้ขึ้นครองบัลลังก์” “แล้วถ้าหากลูกปฏิเสธล่ะท่านพ่อ” มกุฎราชกุมารหนุ่มลองตรัสหยั่งเชิง อยากรู้ว่าพระบิดาจะทรงตอบเช่นไร ผู้เป็นพระบิดาถอนหายใจยาวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตรัสตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่คิดเคร่งเครียดเล็กน้อย “พ่อเคารพในการตัดสินใจของลูก หากฟารีสต์ปฏิเสธ พ่อก็จะไปพบชีคอะเดลา และปฏิเสธความหวังดีของท่านชีค” “และผลที่ได้รับกลับมาคือทั้งสองแผ่น ที่มีอาณาบริเวณติดกัน จะค่อยๆ ลุกเป็นไฟใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ” มกุฎราชกุมารฟารีสต์คาดเดาว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น มั่นใจว่าคำปฏิเสธของพระองค์จะต้องทำให้ชีคอะเดลาโกรธเคืองเป็นอย่างมาก เพราะอีกฝ่ายพยายามยัดเยียดธิดาของตนเองให้พระองค์ ตั้งแต่ก่อนที่พระองค์จะไปศึกษาต่อในต่างประเทศแล้ว ผู้ที่เป็นพระมารดา ได้ลุกขึ้นไปทรุดกายนั่งข้างๆ โอรส ก่อนจะจับพระหัตถ์ใหญ่แข็งแกร่ง ซึ่งนับต่อไปนี้จะต้องคอยดูแล คอยทะนุบำรุงให้ประเทศอัสดารานส์ แผ่นดินทะเลทรายอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอน พบแต่ความสุขร่มเย็น มากุมไว้แน่น ก่อนจะตรัสบอกโอรส “แม่กับพ่อปรึกษากันแล้ว ว่าจะไม่บังคับฟารีสต์ ไม่ว่าลูกจะตอบออกมาเช่นไร พ่อกับแม่ก็จะยึดตามนั้น เพราะความรักเป็นสิ่งที่บังคับกันไม่ได้ การเลือกคู่ชีวิตที่จะมาอยู่กับเราทั้งชีวิต เพื่อมอบความรัก มอบความสุขและเสียงหัวเราะให้กับเรา เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ฟารีสต์ไม่จำเป็นต้องคิดถึงผลกระทบที่จะได้รับ หากว่าลูกปฏิเสธความต้องการของชีคอะเดลา เพราะพ่อกับแม่ อยากให้ลูกเลือกคนที่จะเป็นคู่ครอง คอยอยู่เคียงข้างฟารีสต์ไปชั่วชีวิต ด้วยความรักและหัวใจอันบริสุทธิ์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม