“คุณจันทร์ไม่อยู่หรือดาวเรือง”
“ไม่อยู่คะคุณวัฒน์ คุณจันทร์กับคุณนาราอยู่ในแปลงกุหลาบนะคะ”
สาวใช้นามดาวเรืองตอบกลับอย่างสุภาพ สายตาจ้องมองกระเป๋าเป้ของอดีตคนรักของเจ้านายสาวอย่างแปลกใจ “คุณวัฒน์จะไปไหนหรือคะ เห็นแบกกระเป๋ามาด้วย”
ภานุวัฒน์มองกระเป๋าเป้ในมือด้วยรอยยิ้ม “ฉันจะมาพักที่นี่สักสองสามคืน เดี๋ยวดาวเรืองจัดห้องให้ฉันกับคุณกฤตด้วยนะ อ้อ เอาคนล่ะห้องนะ” กระเป๋าเป้ถือยื่นให้กับสาวใช้ของอดีตคนรัก ใบหน้าคมสันส่งยิ้มมาให้สาวใช้อย่างเป็นกันเอง
“แต่คุณวัฒน์ คุณจันทร์เธอจะไม่ว่าหรือค่ะ ที่คุณวัฒน์มานอนที่นี่ ทั้งที่ความจริงไร่ของคุณวัฒน์กับที่นี่ก็ใกล้นิดเดียวเอง หนูว่าคุณวัฒน์ลองโทรฯ ไปถามคุณจันทร์ก่อนดีไหมคะ คือ...หนูไม่อยากถูกหักเงินเดือนนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันจัดการเอง ดาวเรืองเอากระเป๋าของฉันกับคุณกฤตไปเก็บเถอะ”
“แน่ใจนะคะคุณวัฒน์” ดาวเรืองถามย้ำเพื่อความมั่นใจ
“แน่ใจสิ เอาล่ะไปเอากระเป๋าฉันกับคุณกฤตไปเก็บซะ แล้วก็บอกให้สายบัวทำอาหารเผื่อฉันกับคุณกฤตด้วยนะ นี่ก็จะเย็นแล้ว เดี๋ยวคุณจันทร์กับคุณนารากลับมาแปลงกุหลาบ ก็จะได้ทานอาหารกันเลย” ภานุวัฒน์ตัดบท ไม่นานร่างสูงใหญ่ก็เดินออกมาจากตัวบ้าน เป้าหมายของเขานั่นก็คือ แปลงกุหลาบในโรงเรือนนั่นเอง
กิตติภพเดินตามเพื่อนรักออกมาเช่นกัน ชายหนุ่มนึกหวังไปว่า หากเย็นนี้เขาได้คุยกับนาราภัทรได้ ก็คงจะดี หลายวันก่อนเขาได้คุยกับหญิงสาวเพียงไม่กี่คำเอง เขาหวังว่าสองสามวันที่เขาอยู่ที่นี่ เขาจะสามารถสานความสัมพันธ์ในอดีตให้กลับมาเหมือนดั่งเดิมให้ได้
“แกรอฉันด้วยสิวะไอ้วัฒน์”
“แกก็เดินตามฉันมาสิไอ้กฤต แกนี่เรื่องมากจริงๆ ถ้าอยากเจอนาราล่ะก็ รีบเดินตามฉันมา”
“รอด้วยสิวะไอ้วัฒน์” น้ำเสียงห้าวเริ่มบ่น
“ก็รีบเดินมาสิวะไอ้นี่ เรื่องมากจริง”
ภานุวัฒน์ก้าวเท้าเดินไปตามถนนที่เขาสั่งให้คนงานทำเสียใหม่ ถนนเก่านั้นเริ่มจะเสื่อมแล้ว ดังนั้นเมื่อต้นปีที่แล้ว เมื่อเขาสั่งให้คนงานในไร่พัชรเกียรติมาสร้างโรงเรือนเพิ่ม เขาก็สั่งให้คนงานเหล่านั้นทำถนนใหม่เพิ่มมาด้วย ตอนนี้ถนนที่เขาสร้างก็สามารถเชื่อมต่อไปยังโรงเรือนทั้งเจ็ดที่สร้างเอาไว้ด้านหน้าของโรงเรือนที่เหลืออีกสร้างไว้ด้านหลังของโรงเรือนทั้งเจ็ด...
///////////
นาราภัทรเดินมาถึงโรงเรือนที่หนึ่ง เธอก็ต้องหยุดชะงักลงทันที เมื่อสายตาของเธอไปปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ที่กำลังเดินตรงมาหาเธอ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างยากลำบาก
เมื่อเธอเห็นชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง เธอไม่อยากเจอเขาเลยให้ตายสิ แต่ทำสวรรค์ถึงไม่ยอมเห็นใจเธอบ้าง
ยิ่งเธอวิ่งหนีเท่าไหร่ผู้ชายคนนี้ก็ยิ่งไล่ตามเธอมากเท่านั้น เสียงถอนหายใจดังออกมาติดๆ กันหลายครั้ง จากนั้นก็สอดอากาศหายใจเข้าจนเต็มปอด เพื่อระบายความเครียด จากนั้นก็ปล่อยออกมาช้าๆ…
“สวัสดีครับนารา”
“สวัสดีค่ะคุณวัฒน์ มาถึงนานแล้วเหรอค่ะ” นาราภัทรเอ่ยถาม เพื่อระบายความหวาดกลัวที่กำลังจะเกิดขึ้น สีหน้าของกิตติภพทำให้เธอรู้สึกกังวลไม่น้อย เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาตอนนี้เลย “ไหนว่าคุณวัฒน์จะมาคนเดียวไงคะ”
“โทษทีครับ พอดีไอ้กฤตแวะขึ้นมาเที่ยวที่ไร่นะ ผมก็เลยไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยต้องพามาที่นี่ด้วย หวังว่านาราคงจะไม่ว่าผมนะครับ”
“ช่างมันเถอะค่ะคุณวัฒน์ อ้อ นารา แสดงความยินดีด้วยนะ”
“ยินดีกับผมเรื่องอะไรหรือครับ”
“ก็ยินดีที่คุณวัฒน์ทำให้ยัยจันทร์มันตื่นเต้น กระดี้กระด้า กรี๊ดกร๊าดอยู่ในแปลงกุหลาบนะคะ” นาราภัทรตอบด้วยน้ำเสียงหวาน ใบหน้าฉายแววยินดีกับความสำเร็จของเขา หญิงสาวรู้ดีว่าเพื่อนรักยอมอภัยให้กับภานุวัฒน์แล้ว เธอเองก็ไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่ชายหนุ่มทำให้กับเพื่อนรักของเธอมันจะโรแมนติกขนาดนี้ เธอยังไม่เคยเห็นผู้คนไหนโรแมนติกเหมือนผู้ชายคนนี้ “ดีใจด้วยนะคะคุณวัฒน์ ตอนนี้รีบไปหายัยจันทร์เถอะคะ เพราะยัยนั่นกำลังกรี๊ดกร๊าด กับโรงเรือนที่คุณวัฒน์ทำขึ้นใหม่ คุณวัฒน์นี่ช่างโรแมนติกจังเลยนะคะ รู้เรื่องของยัยจันทร์หมดเลย รู้แม้กระทั้งว่ายัยจันทร์ชอบดอกกุหลาบแบบไหน พันธุ์อะไร”
“อย่ามาแซวผมนะ นารา ผมก็เขินเป็นนะ”
กิตติภพยืนฟังเพื่อนรักและอดีตคนรักคุยกันอย่างหงุดหงิด ทำไมเขาถึงไม่มีโอกาสที่จะได้คุยแบบนั้นบ้าง ชายหนุ่มเดินอีกสองสามก้าวก็มาหยุดอยู่ด้านหลังของภานุวัฒน์แล้ว ใบหน้าคมเข้มกวาดสายตาสำรวจหญิงสาวร่างบอบบางตรงหน้าอย่างคิดถึง กี่ปีแล้วนะที่เขาไม่ได้เห็นอดีตคนรักเต็มๆ ตาแบบนี้
“นาราก็ตัวก่อนนะคะ คุณวัฒน์รีบไปหายัยจันทร์เถอะ” นาราภัทรยกมือชูขึ้นมาสองนิ้ว ส่งให้ภานุวัฒน์ “ขอให้โชคดีนะคะ สู้ๆ” รอยยิ้มหวานส่งมาให้เพื่อเป็นกำลังใจอีกด้วย
“ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวก่อน”
“นาราก็ขอตัวเช่นกัน นี่ก็เย็นแล้ว นารากะว่าจะไปช่วยดาวเรืองทำอาหารค่ำนะคะ” นาราภัทรพูดจบก็เดินผ่านทั้งสองหนุ่มไปทันที หญิงสาวไม่ได้สนใจอีกหนึ่งหนุ่มที่ยืนหน้าบึ้ง ไม่สบอารมณ์กับอาการไม่สนใจของเธอ แต่ก็นั่นแหละ จำเป็นที่เธอต้องไปสนใจเขาด้วยเหรอ ในเมื่อชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้เป็นอะไรกับเธอเสียหน่อย
กิตติภพหันไปมองร่างเพรียวบางของนาราภัทร ที่เดินผ่านเขาไปอย่างไม่พอใจ นี่เจ้าหล่อนไม่สนใจเขาเลยหรือ เธอมองเขาเป็นแค่ธาตุอากาศแล้วใช่ไหม ชายหนุ่มละสายตามามองเพื่อนรักอย่างขุ่นเคือง
“ฉันไม่อยากเชื่อเลยวะไอ้วัฒน์ ผู้หญิงคนนี้มองฉันเหมือนกับธาตุอากาศยังไงยังงั้นเลย”
“ก็แกทำเรื่องร้ายๆ กับเขาไว้เยอะนี่นา”
ภานุวัฒน์เอ่ยขึ้น เขาเองก็เห็นเหมือนที่เพื่อนรักเห็นนั่นแหละ นาราภัทรมองเพื่อนรักของเขาเหมือนธาตุอากาศจริงๆ หญิงสาวไม่ทักทายกิตติภพเลยสักคำ แม้แต่สายตาที่เคยมองใบหน้าคมเข้มอย่างอ่อนโยน แต่วันนี้มันกลับดูว่างเปล่า ไม่มีความอ่อนโยนในดวงตาคู่หวานซึ้งคู่นั้น
“ฉันจะตามนาราไป แกไปจัดการเคลียร์กับตัวเล็กเถอะ” กิตติภพตัดบท แล้วรีบสาวเท้า เดินกลับไปยังบ้านพัก เพราะชายหนุ่มรู้ดีว่าอีกไม่กี่นาที เขาก็จะได้เจอนาราภัทรอีกครั้ง
“โชคดีนะไอ้กฤต” ภานุวัฒน์ตะโกนบอกเพื่อน ใช่เขาขอให้กิตติภพโชคดีการเรื่องที่จะคุยกับนาราภัทร
“ฉันก็ขอให้แกก็โชคดีนะไอ้วัฒน์”
กิตติภพตะโกนกลับมาเช่นกัน สองหนุ่มต่างก็ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า เพื่อไปทำสิ่งที่พวกเขาต่างก็วาดหวังเอาไว้ นั้นก็คือทำยังไงก็ได้ เพื่อให้คนที่พวกเขารักกลับคืนมา
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...