“ไอ้กฤต!”
ภานุวัฒน์ตวาดเพื่อนเสียงดังลั่น เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน ชายหนุ่มจ้องมองเพื่อนรักอย่างโมโห ไม่คิดเลยว่ากิตติภพเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ เพื่อนคนนี้ของเขาคิดยังไงถึงกล้าทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้
“แกตวาดไอ้กฤตมันทำไมว่ะไอ้วัฒน์ อย่าบอกน่ะว่าแกหลงรักยัยแว่นนั่นเหมือนกัน”
“หุบปากของแกไปเลยไอ้นนท์ แกด้วยไอ้ธนา”
น้ำเสียงห้าวจนดูน่ากลัวของภานุวัฒน์ทำให้ธนาและอานนท์ถึงกับหุบปากลงฉับพลัน พวกเขารู้ดีว่ายามเมื่อเพื่อนคนนี้โกรธขึ้นแล้วล่ะก็ อย่าได้ไปขวางอย่างเด็ดขาดถ้าอยากมีชีวิตอยู่
“แล้วนายจะเสียใจกับสิ่งที่นายทำไปในครั้งนี้”
เขาได้แต่เป็นห่วงอนาคตของเพื่อนไม่น้อย และรู้ดีว่าตอนนี้หัวใจของกิตติภพได้เปลี่ยนไปแล้ว หลายเดือนที่ผ่านเขารู้ดีกว่าใครๆ
นับตั้งแต่กิตติภพเข้าตีสนิทกับนาราภัทร เพื่อนคนนี้ของเขาก็เปลี่ยนไปมากทีเดียว เขาไม่เชื่อหรอกว่าสิ่งที่เพื่อนคนนี้ทำไปเป็นเพราะความสนุกอย่างที่พูด
หลายครั้งที่เขาเห็น กิตติภพผู้แสนเย็นชา กระด้าง ไม่มีมารยาท เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง กับกลายมาเป็นผู้ชายอบอุ่น ยิ้มง่ายและหัวเราะมากขึ้นยามที่มันอยู่กับนาราภัทร สาวแว่นผู้น่ารักและมีรอยยิ้มแสนหวานยามส่งยิ้มให้ใครๆ อยู่เสมอ
คนที่โดนพาดพิงกับนั่งนิ่ง พยายามสงบสติเอาไว้ น้ำตาคลอเมื่อรู้ความจริงที่รุ่นพี่หนุ่มเข้ามาวุ่นวายกับเธอ ร่างเพรียวบางขยับกายลุกขึ้น สูดอากาศหายใจเข้ามาเต็มปอดก่อนก้าวเดินออกมาจากโต๊ะแล้วก็เดินมาหยุดอยู่ข้างโต๊ะที่มีหนุ่มๆ นั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน
“นารา”
เสียงที่กิตติภพเอ่ยเรียกคนรัก ทำให้ธนา อานนท์และ ภานุวัฒน์ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของร่างเพรียวบางที่ยืนมองพวกเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ดวงตากลมโตมีหยาดน้ำตาคลออยู่
กิตติภพถึงกับหน้าเสีย เมื่อเขาเห็นนาราภัทรเดินมาหยุดตรงหน้าของเขาแถมยังมองเขาด้วยสายตาเฉยชาจนน่าใจหาย เขาภาวนาอยู่ในใจขออย่าให้หญิงสาวได้ยินในสิ่งที่เขากับเพื่อนๆ พูดเลยแต่ดูเหมือนว่าสวรรค์คงไม่เป็นใจ เมื่อเขาได้ยินคำพูดถัดมาจากริมฝีปากอวบอิ่มนั้น
“สนุกมากใช่ไหมกับสิ่งที่คุณทำ”
“ฉัน...”
“ไม่ต้องอธิบายหรอก ฉันได้ยินหมดแล้ว”
น้ำเสียงของเธอทำให้เขาปวดร้าวไม่น้อย เขาไม่ได้ต้องการให้เธอมาได้ยินเลย แม้เขาอยากจะเอาชนะนาราภัทรก็จริง แต่ลึกๆ ในหัวใจ เขารู้ดีกว่าใครๆ เขาดันแอบหลงรักสาวน้อยผู้นี้เข้าแล้วจริงๆ
“น้องนารา พวกพี่แค่ล้อเล่นกันเท่านั้น พวก...”
“ไม่ต้องอธิบายหรอกค่ะ ฉันเข้าใจดี”
อานนท์ ธนา และ ภานุวัฒน์ถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเห็นสายตาว่างเปล่าในดวงตาคาสวยที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตา
“ผู้ชายเห็นแกตัวอย่างพวกคุณ ชีวิตนี้ไม่มีทางเจอรักแท้หรอก ชาตินี้ ชาติหน้าและชาติไหนๆ ขออย่าให้พวกเราได้เจอะเจอกันอีกคุณกิตติภพ”
“น้องนาราครับ พี่ว่าใจเย็นๆ ก่อนไม่ดีกว่าหรือครับ พี่เพื่อนมันรักน้องนาราจริงๆ น่ะครับ” ภานุวัฒน์เอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงแต่ก็สมน้ำหน้าเพื่อนไปพร้อมๆ กัน
นาราภัทรหันมามองชายหนุ่มร่างสูงอย่างเสียใจ เธอรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้คอยเป็นห่วงและส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้เธอเสมอ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อสิ่งที่เธอได้รับมันเกินคำว่าให้อภัย
“นาราเกลียดเพื่อนของพี่วัฒน์ทุกคน”
“ฉันคืนมันให้คุณ”
“นารา...ฉัน”
กิตติภพได้แต่อ้ำอึ้ง เมื่อคนรักถอดแหวนที่เขาชื้อให้เธอเมื่ออาทิตย์ก่อน แหวนวงเล็กที่เหมือนกับวงที่เขาใส่อยู่ในขณะนี้
“ลาก่อนคุณกิตติภพ พิตตินันท์ หวังว่าชาตินี้เราสองคนคงไม่ต้องพบเจอกันอีก เรื่องทั้งหมดที่คุณทำกับฉัน ฉันอโหสิให้”
/////////
“คุณนารา”
กฤติกาเรียกชื่อเจ้าของร้านดอกไม้สาวอย่างสงสัย มันเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของเธอและสาวสวยผู้นี้กันแน่ เธอรู้ดีว่าท่าทางที่เปลี่ยนไปของพี่ชายเมื่อกี้มันบอกเธอได้เป็นอย่างดีว่าทั้งสองเคยรู้จักกันมาก่อน
“คุณนาราค่ะ” แต่คราวนี้ดังกว่าครั้งแรกมาก
นาราภัทรถึงกับตื่นจากภวังค์หันมามองสาวสวยที่ยืนยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน หากแต่แววตาคู่สวยไม่ได้ดูอ่อนโยนอย่างที่เห็น มันดูสงสัยและใคร่รู้อย่างที่เธอหวาดกลัว
“มีอะไรหรือค่ะคุณธิตา”
“คุณนาราเคยรู้จักพี่กฤตด้วยหรือค่ะ” กฤติกาสบตามองนาราภัทรอย่างค้นคว้า
‘ทำไมสายตาของคุณนารา ยามมองพี่กฤตถึงได้เกลียดชังแบบนั้น พี่กฤตกับคุณนาราไปรู้จักกันตอนไหน แล้วทั้งสองเคยมีความสัมพันธ์กันแบบไหน’
เธอได้แต่ถามตัวเองอย่างสงสัย หลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้ยินพี่ชายพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อ ‘นาราภัทร ชยางกูล’ เลยสักครั้ง
แล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้น!
“ไม่เคยหรอกค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ ออกมานานแล้ว”
นาราภัทรตอบได้แค่นั้น ก็เดินผ่านร่างบอบบางของกฤติกาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
////////////
หลายวันต่อมา…
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก็เดินมาหยุดตรงหน้าร้านดอกไม้นาราภัทรฟลอรีสท์ สายตาคมมองเข้าไปภายในร้าน เขาเพียงต้องการเจอเธออีกสักครั้ง อยากขอโทษกับสิ่งที่เขาเคยทำผิดพลาดไปในอดีต
ถึงรู้ดีว่าคำขอโทษจากปากเขาอาจทำให้เธอคนนั้นเกลียดและไม่ยอมให้อภัยกับสิ่งที่เขาเคยทำพลาดไป อย่างน้อยเขาก็อยากพูดในสิ่งที่เขาไม่เคยพูดเลย
ปลายตะวันหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าร้านอย่างแปลกใจ หญิงสาวลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินออกมาเปิดประตูร้านอย่างสงสัย เธอไม่รู้ว่าลูกค้าหนุ่มรายนี้ต้องการสั่งดอกไม้แบบไหน
“ไม่ทราบว่าต้องการดอกไม้แบบไหนค่ะ ทางร้านของเรามีดอกไม้สดหลายชนิดเลย ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ที่ปลูกในเมืองไทย หรือว่านำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ทราบว่าคุณต้องการดอก...”
ปลายตะวันแจกแจงรายละเอียดพร้อมกับแนะนำสินค้าของทางร้านอย่างคล่องแคล่ว
“ผมต้องการพบนาราภัทร”
กิตติภพบอกสาวน้อยตรงหน้า ชายหนุ่มก้มลงมามองใบหน้าสวยหวานอย่างขำๆ ก็จะไม่ให้เขาขำได้อย่างไร ในเมื่อแม่สาวตัวเล็กแต่แววตาดุกำลังมองเขาด้วยงุนงงก่อนเปลี่ยนเป็นความสงสัย
“นาราภัทรไม่อยู่หรอกค่ะ ออกไปข้างนอก”
เธอบอกตามที่เพื่อนสั่งเอาไว้ ปลายตะวันมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ถึงดูหล่อคมเข้มแต่นิสัยแย่มากๆ เธอเป็นเพื่อนกับนาราภัทรมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย หญิงสาวจึงรู้เรื่องของผู้ชายคนนี้กับเพื่อนรักมาบ้าง
“แล้วเขาไม่ได้บอกหรือครับว่าไปไหน”
“แล้วคุณจะรู้ไปทำไม!”
ปลายตะวันเอ่ยถามเสียงเขียว เธอไม่คิดรักษามารยาทกับผู้ชายเห็นแก่ตัว ผู้ชายที่ทำให้เพื่อนที่เธอรักมากต้องเสียใจและร้องไห้
“ผมอยากเจอนาราเค้าสักครั้ง”
เสียงที่เคยเข้มกลับอ่อนลง เมื่อเห็นว่าแม่สาวน้อยร่างเล็กผู้นี้ไม่ยอมให้เขาได้เจอกับนาราภัทร เขาลืมนึกไปเลยว่าแม่สาวน้อยร่างเล็กคนนี้เป็นใคร ผู้หญิงที่เพื่อนเขาแอบหลงรัก
‘ไอ้วัฒน์จะรู้ไหมว่าแม่หนูจันทร์ที่น่ารักของมัน กลับมาจากเมืองนอกแล้ว’
“นาราไม่อยู่หรอก ฉันว่าคุณกลับไปเสียดีกว่า อย่ามายุ่งกับเพื่อนของฉันอีก”
“คุณจันทร์ สบายดีหรือครับ”
กิตติภพกลับถามไปอีกเรื่อง เขารู้ดีว่าสาวน้อยผู้นี้โกรธเขามากแค่ไหนกับเรื่องในอดีต แต่เขาก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่เอ่ยคำขอโทษกับผู้หญิงที่เขารักสักคำและขอโอกาสจากเธออีกสักครั้ง
“ก็อย่างที่เห็น คุณคิดว่าฉันสบายดีไหมล่ะ”
ปลายตะวันตอบกลับซึ่งดูกวนโอ๊ยไม่น้อยสำหรับความคิดของกิตติภพ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเคือง ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาทั้งนั้น ที่สำคัญเขาทำให้ภานุวัฒน์กับปลายตะวันต้องเลิกกัน
////////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...