กฤติกาเดินออกมาจากลิฟต์อย่างรีบร้อน เมื่อเห็นว่าพี่ชายกำลังฉุดกระชากผู้หญิงคนหนึ่งมาทางเธอก็ตกใจ ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้นตาเมื่อพี่ชายเดินมาหยุดที่เธอนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าหญิงสาวที่พี่ชายเธอลากมาก็คือเจ้าของร้านดอกไม้ที่เธอไปสั่งมาเมื่อเช้า เธอได้แต่สงสัยในท่าทางของพี่ชายและเจ้าของร้านดอกไม้สาวสวยผู้นี้
“เกิดอะไรขึ้นค่ะพี่กฤต แล้วพี่กฤตจับมือคุณนาราทำไม”
“ก็พนักงานส่งดอกไม้คนนี้มาส่งดอกไม้ไม่ทันตามเวลาที่พี่สั่ง”
“พนักงานส่งดอกไม้หรือค่ะ”
กฤติกาสบตามองเจ้าของร้านดอกไม้อย่างเห็นใจ นี่พี่ชายเธอตาถั่วขนาดนั้นเลยเหรอถึงมองไม่ออกว่านาราภัทรเป็นใคร เธอรู้ดีว่าด้วยรูปร่างหน้าตาอย่างนาราภัทรไม่มีทางเป็นเพียงพนักงานส่งดอกไม้ได้หรอก แล้วยังการแต่งตัวที่ดูทันสมัยนั่นดี
“พี่กฤตดูยังไงค่ะว่าคุณนาราเป็นพนักงานส่งดอกไม้”
เจอคำถามแบบนี้ของน้องสาว กิตติภพถึงกับเงียบไป ชายหนุ่มหันกลับมามองหญิงสาวที่เขาลากตัวออกมาจากห้องทำงานอีกครั้ง และมันก็เป็นไปอย่างที่น้องสาวเขาว่าจริงๆ ไม่มีส่วนไหนเลยที่บ่งบอกว่าสาวน้อยผู้นี้เป็นพนักงานส่งดอกไม้ เขาก็ได้รู้ว่าสาวน้อยผู้นี้คือใครก็เมื่อน้องสาวพูดขึ้น
“คุณนาราภัทร ชยางกูลค่ะพี่กฤต เธอเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ที่ธิตาไปสั่งดอกไม้ แล้วก็ไม่ใช่พนักงานส่งดอกไม้อย่างที่พี่กฤตเข้าใจ”
กิตติภพพยักหน้ากับคำตอบของน้องสาว ก่อนหันมามองใบหน้างามตรงหน้าอย่างแปลกตา เพราะชื่อและนามสกุลของผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับหัวใจถูกบีบจนปวดร้าวไปทั้งใจ หลายปีมาแล้วที่เขาต้องจมอยู่กับอดีตที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมา
‘ยัยแว่นที่เขาทั้งรักทั้งเกลียด ผู้หญิงในอดีตที่เขาอยากขอโทษและขอโอกาสจากเธออีกสักครั้ง’
“ตอนนี้คุณปล่อยมือฉันได้หรือยัง”
กิตติภพปล่อยมือบาง จากตอนแรกที่เขาลากเธอมาด้วยก็เพราะความโมโหที่หญิงสาวมาส่งดอกไม้ให้เขาเกือบเลยเวลาที่นัดไว้ พอเห็นว่าใครเป็นคนมาส่งดอกไม้ให้เขาก็ถึงกับหงุดหงิดเพราะไม่คิดว่าผู้หญิงที่มาส่งดอกไม้ให้เขาดันเป็นผู้หญิงในอดีตที่เขาทั้งรักทั้งเกลียด
“แกคิดจะจีบยัยแว่นนี่จริงๆ หรือไอ้กฤต”
“ฉันไม่เห็นด้วย เพราะน้องเขาดูเป็นเด็กเรียน ไม่ได้เหลวไหล อย่าไปเชื่อที่ไอ้นนท์มันพูดเลย ฉันว่าไอ้นนท์จีบน้องเขาไม่ติดมากกว่าถึงได้พูดแบบนี้”
“หยุดไปเลยไอ้วัฒน์ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็ยิ่งชอบ ฉันอยากรู้เหมือนกันว่ายัยแว่นนี่จะจีบยากสักแค่ไหน” กิตติภพจ้องมองภาพของสาวน้อยในชุดนักศึกษาที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อย่างพอใจ
“แต่ฉันไม่อยากให้แกเข้าไปวุ่นวายกับน้องเขา ในเมื่อไอ้นนท์มันจีบน้องเขาไม่ติดก็ไม่เห็นแปลกอะไร ไอ้นนท์เจ้าชู้ซะขนาดนั้น แกคิดว่าผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนี้ชอบไอ้นนท์มันเหรอ”
“ฉันนี่แหละจะจีบยัยแว่นนี่ให้ดู พวกแกไม่เชื่อก็คอยดู” กิตติภพบอกตัวเองอยู่ในใจ เขารู้ดีว่าผู้หญิงทุกคนชอบอะไรและไม่ชอบอะไร
/////////////
“ท่านประธานค่ะ รีบเถอะค่ะเดี๋ยวไม่ทัน ป่านนี้คุณคิทาเกะและภรรยาคงจะรอท่านประธานอยู่ในห้องรับรองแล้ว”
เสียงเตือนของเลขาสาวทำให้กิตติภพถึงกับตื่นจากภวังค์ ใบหน้าคมเข้มจ้องมองใบหน้างามตรงหน้าอย่างแปลกตา ในอดีตนาราภัทรใส่แว่นอันหนาเตอะ ชุดนักศึกษาที่ใส่ก็ดูรุ่มร่ามจนเขารำคาญ แต่ตอนนี้ผู้หญิงที่เขาเคยปรามาสว่าไม่สวย ขี้เหร่ ไม่น่ารักกลับกลายมาเป็นสาวสวย หน้าตาน่ารักจนเขาเองยังตกใจ ไม่คิดว่าเวลาเพียงไม่กี่ปีสามารถเปลี่ยนผู้หญิงคนหนึ่งได้มากมายขนาดนี้
“เราต้องเจอกันอีกแน่นาราภัทร”
กฤติกายืนมองพี่ชายและเจ้าของเจ้าดอกไม้สาวอย่างฉงน หญิงสาวมองหน้านาราภัทรสลับกับร่างสูงใหญ่ของพี่ชายที่เดินไปพร้อมกับเลขาสาวตรงไปยังห้องรับรองลูกค้าพิเศษชาวญี่ปุ่น
“แต่ฉันไม่อยากเจอคุณ”
เธอไม่มีวันยอมให้ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนี้เข้ามาในชีวิตอีกครั้งแน่ หลายปีที่เธอต้องเสียใจก็เพราะความคึกคะนองเห็นแก่ตัวของเขา
หัวใจที่เคยมอบให้เขากลับกลายมาเป็นหนามแหลมคมที่คอยทิ่มแทงและตอกย้ำให้เธอต้องร้องไห้ เธอจะไม่มีทางยอมให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอย เธอจะไม่ยอมให้เขาเข้ามาใกล้เธอได้อีก
“เป็นยังไงบ้างวะไอ้กฤต แกจีบยัยแว่นหนาเตอะได้หรือยัง”
เสียงที่ดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้เจ้าของร่างบางถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้นมามองว่าด้านหลังโต๊ะของเธอมีใครบ้าง
ที่แน่ๆ หนึ่งในนั้นก็คือกิตติภพ พิตตินันท์ ผู้ชายที่คอยเดินตามเธอมาเกือบสี่เดือน นาราภัทรนั่งเงียบรอฟังหนุ่มพูดถึงเธออย่างสงบเงียบ ในใจก็รู้สึกเกลียดพวกเขาไม่น้อย ที่เอาเรื่องของเธอมาพูดกันแบบนี้
“ได้สิวะ แต่อีกไม่นานฉันจะฟันยัยแว่นนั่นให้ดู”
“เฮ้ย! นี่แกคิดจะฟันยัยแว่นนั่นจริงเหรอว่ะไอ้กฤต”
เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมาทำให้คนที่แอบฟังถึงกับเจ็บปวดไม่น้อยกับเรื่องที่เธอได้รับรู้ในวันนี้
“ก็แกบอกเองไม่ใช่เหรอไอ้นนท์ว่ายัยแว่นคนนี้จีบยาก”
“หยุดไปเลยไอ้ธนา ฉันไม่ได้ชอบยัยแว่นนั่นหรอก แค่เห็นว่าน่ารัก ดูเฉิ่มๆ เชยๆ น่าจะหลอกฟันง่ายก็แค่นั้น ใครจะคิดวะว่าผู้ชายอย่างฉันจะโดนยัยแว่นนั้นปฏิเสธ”
อานนท์รู้สึกเสียหน้าไม่น้อยกับเรื่องที่เขาโดนรุ่นน้องสาวผู้นี้หักหน้าเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนที่เขาเดินไปขอนาราภัทรเป็นแฟนแต่สิ่งที่เขาได้ตอบแทนกลับมาก็คือคำปฏิเสธอย่างสุภาพ
‘ขอโทษนะคะ ฉันคงเป็นแฟนกับคุณไม่ได้ ขอโทษจริงๆ’
นี่คือคำพูดของผู้หญิงที่เขาหลงรัก แม้ว่าเขาไม่ได้บอกความจริงกับเพื่อนๆ ทั้งหมดว่าจริงๆ แล้วเขาหลงรักสาวแว่นผู้น่ารักคนนี้จริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่เขาพูดในเวลานี้
“ฉันว่าพวกแกเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว คิดโง่ๆ คิดได้ยังไงกันเรื่องแบบนี้ พวกแกคิดบ้างไหมหากว่าน้องนารารู้ เค้าจะรู้สึกยังไงกับสิ่งที่พวกแกทำกันอยู่”
“อย่าบอกน่ะว่าแกสงสารยัยแว่นนั่นไอ้วัฒน์”
กิตติภพหันมาโวยใส่ ‘วัฒน์’ หรือ ‘ภานุวัฒน์ พัชรเกียรติ’ ลูกชายของคุณพิชัยยุทธและคุณสุชาวดี พัชรเกียรติ ทายาทหนุ่มแห่งโรงแรมพี.พีแกรนด์ทาวเวอร์
“นายต่างหากไอ้กฤตที่บ้า คิดยังไงถึงจีบน้องนาราเขาเล่นๆ แบบนี้ ถ้าแกรักน้องเขาจริงฉันจะไม่ว่าเลย แต่นี่นายจีบน้องเขาเพราะว่าไอ้นนท์จีบไม่ติดแค่นี้เหรอ”
ภานุวัฒน์หันมามองเพื่อนรักอย่างโมโห เขาไม่คิดเลยว่าเพื่อนคนนี้คิดทำอะไรบ้าๆ ได้ถึงเพียงนี้
‘ไอ้พวกบ้า ทำอะไรไม่รู้จักคิด’
“แกไม่ต้องห่วง ตอนนี้ยัยแว่นตัดสินใจเป็นแฟนฉันแล้ว อีกไม่นานฉันจะฟันยัยนี่ให้แกดู”
กิตติภพบอกอย่างอารมณ์ดี ใครบ้างจะโชคดีเหมือนเขา แค่วางแผนนิดหน่อยก็สามารถเข้าถึงตัว ‘ยัยแว่น’ หรือ ‘นาราภัทร ชยางกูล’ ได้แล้ว
//////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...