ร่างสูงใหญ่กำลังแสดงอาการหงุดหงิดอย่างเปิดเผย เมื่อเขาก้มลงมามองนาฬิกาบนข้อมือ อีกไม่ถึงสิบนาทีก็เที่ยงแล้ว แต่เขายังไม่มีดอกไม้ที่ต้องมอบให้กับภรรยาของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเลย
“ยัยธิตาสั่งดอกไม้เอาไว้หรือเปล่า ป่านนี้แล้วยังไม่มีมาสักช่อ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้เจ้าของห้องถึงกับละสายตาจากการมองนาฬิกาหันมาสนใจ เลขาสาวที่เดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่หอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาด้วย
“มีอะไรคุณกันยา”
น้ำเสียงที่เอ่ยถามเลขาสาวบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรง
“คุณนาราเธอนำดอกไม้มาส่งตามคำสั่งของคุณธิตาแล้วค่ะ”
กันยาตอบออมแอ้ม เมื่อเธอได้เห็นสายตาเอาเรื่องของท่านประธานหนุ่ม
“แล้วไหนล่ะดอกไม้ของฉัน”
“นี่ค่ะ”
“ดอกไม้ที่คุณธิตาสั่งให้ฉันนำมาให้คุณก่อนเที่ยง” นาราภัทรเบี่ยงตัวออกมาก่อนก้าวเท้าเข้ามายืนตรงหน้าโต๊ะทำงานของลูกค้าหนุ่ม แล้วก็ยื่นช่อดอกไม้ให้
“แต่นี่มันเที่ยงแล้ว ฉันจำได้ว่าดอกไม้ที่ฉันต้องการมันต้องมาถึงที่นี่ก่อนเที่ยง” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น ก่อนสบตามองใบหน้าของหญิงสาวที่นำดอกไม้มาให้เขาอย่างแปลกใจ ด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอนั่นดูแตกต่างจากพนักงานส่งดอกไม้ กิตติภพจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะลงมาเรื่อยๆ อย่างไม่เกรงใจ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า…
“พนักงานส่งดอกไม้หน้าตาแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่า”
นาราภัทรฟังคำถามของลูกค้าหนุ่มจบก็ต้องกัดฟันเอาไว้แน่น ยิ่งสายตาของเขาที่จ้องมองสำรวจเธอ มันเป็นการเสียมารยาทเป็นอย่างมากในความคิดของเธอ เธอหันไปมองคุณเลขาสาวอย่างแปลกใจ หากไม่ติดว่าผู้ชายตรงหน้าเธอนี้เป็นลูกค้าแล้วล่ะก็ เธอคงส่งฝ่ามือพิฆาตฝากไว้บนใบหน้าหล่อเหลานี่แล้ว
‘ผู้ชายอะไรไม่มีมารยาท’
“ว่ายังไงล่ะ คุณตอบผมได้หรือยัง” น้ำเสียงห้าวถามย้ำอย่างหงุดหงิดกับท่าทางไม่สนใจของอีกฝ่าย
“ค่ะ ตอนนี้ฉันก็ส่งดอกไม้ให้คุณเรียบร้อยแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”
นาราภัทรตัดบท แล้วหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว เธอไม่อยากอยู่ในห้องทำงานของลูกค้าหนุ่มนานกว่านี้ ขืนให้เธออยู่นานสิมีเรื่องแน่นอน เธอไม่ชอบการทะเลาะวิวาทก็เถอะ แต่สายตาของเขายามมองเธอนี่สิ ที่ทำให้เธอรู้สึกโมโห
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนาม ‘นารา’ ไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาถาม กิตติภพถึงกับขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ ก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปร่างบอบบางที่กำลังเปิดประตูออกไปจากห้องของเขา
“หยุดเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงกึ่งคำสั่งของเขา ทำให้นาราภัทรถึงกับชะงักเท้า หยุดนิ่งแล้วหันมามองอีกฝ่ายอย่างงุนงง ใบหน้างามหันมามองร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรือค่ะ”
“เธอยังไม่ตอบคำถามฉันเลย อย่ามาเดินหนีฉันแบบนี้ ”
กิตติภพสบตามองใบหน้างามอย่างเดือดดาล ไม่เคยมีใครเดินหนีเขาสักครั้ง เพิ่งมีก็ผู้หญิงคนนี้แหละ
“ฉันไม่มีเรื่องอะไรต้องตอบคุณหรอกค่ะ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็ส่งดอกไม้ตามที่คุณธิตาสั่งแล้ว” เธอได้แต่สงสัย ว่าเพราะอะไรกันลูกค้าหนุ่มผู้นี้ถึงได้เรื่องมากขนาดนี้...นาราภัทรลอบถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ
“แต่เธอมาส่งดอกไม้ผิดเวลา”
“ผิดเวลาตรงไหนค่ะ อีกสิบนาทีก็จะเที่ยง นั่นก็หมายความว่ายังไม่เลยเวลาที่คุณธิตาบอกไว้”
“แต่นาฬิกาฉันมันเลยเที่ยงแล้ว” กิตติภพก้มลงมองนาฬิกาบนข้อมือ ก่อนเอ่ยขึ้นมามองใบหน้างามอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ตอนนี้เที่ยงสิบแล้ว”
“ฉันว่าคุณต้องการหาเรื่องฉันมากกว่า” นาราภัทรก็แหงนหน้าขึ้นมามองร่างสูงตรงหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจนัก กว่าเธอมาถึงที่นี่ก็ต้องนั่งรถมาเกือบสองชั่วโมง แถมยังต้องมาเจอประสัมพันธ์ของที่นี่พูดจาไม่ดีอีก แล้วนี่เธอต้องมาเจออารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของลูกค้าหนุ่มคนนี้อีกหรือ
กิตติภพเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจกับท่าทีของผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้า ชายหนุ่มก้มหน้าลงมามองใบหน้างามตรงหน้าอย่างสำรวจอีกครั้ง เขารู้สึกคุ้นเหลือเกิน แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอเธอที่ไหน เขาสบตาคู่สวยอีกครั้งก็พบว่าหญิงสาวตรงหน้านี่ดูน่ารัก น่าทะนุถนอม บอบบางเหลือเกิน อาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่หรือเปล่า เลยทำให้สาวน้อยผู้นี้ดูบอบบาง แล้วยังดวงตาคู่สวย ที่ดูสดใส พราวระยับเหมือนดวงดาวยามค่ำคืน ใบหน้าเรียว จมูกเล็กน่ารักแต่ฉายแววดื้อรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มจนน่าสัมผัส ชายหนุ่มยังจ้องมองใบหน้างามตรงหน้าอย่างลืมตัว เขามาสะดุ้งอีกครั้งเพราะเสียงเขียวปั๊ดที่หลุดลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม
“จะมองอีกนานไหมค่ะ”
“เอ่อ...” กิตติภพถึงกับอ่ำอึ้งพูดไม่ออกไปเหมือนกัน เมื่อเจอน้ำเสียงตำหนิจากสาวน้อยตรงหน้า
“ท่านประธานค่ะ ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ดิฉันว่าเรารีบไปกันเถอะคะ เดี๋ยวจะไม่ทันนัด” เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มตึงเครียดกันยาจึงเอ่ยเตือนผู้เป็นนายเกี่ยวกับนัดเที่ยงครึ่งของวันนี้
กิตติภพละสายตาจากใบหน้างาม ก่อนหันมามองเลขาสาวอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ แต่ไม่นานใบหน้าคมก็กลับมาเรียบสนิทเหมือนเดิม
“กี่โมงแล้วคุณกันยา”
“อีกยี่สิบนาทีเที่ยงครึ่งค่ะ”
กันยาตอบก่อนมองเลยไปยังหญิงสาวที่ยืนตรงหน้าเจ้านายหนุ่มของเธออย่างลุแก่โทษเธอเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าผู้เป็นนายหาเรื่องสาวน้อยคนนี้ด้วยเรื่องของเวลา เธอนั่นรู้ดีเป็นที่สุดว่าเวลาที่ผู้เป็นนายกล่าวอ้างนั้นมันเกินจริง หากช้าก็เพราะเจ้านายหนุ่มของเธอกำลังหาเรื่องสาวน้อยผู้นี้ซะมากกว่า
ใบหน้าคมเข้มพยักหน้าตอบ แล้วก็หันมามองคนตรงหน้าอีกครั้ง ชายหนุ่มสบตาดวงตากลมโตอย่างครุ่นคิด ก่อนเอ่ยออกมาว่า
“คุณควรไปกับผม เพราะเรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว”
‘ไปกับเขาเหรอ หมายความว่าไง’
นาราภัทรทวนคำพูดของลูกค้าหนุ่มอย่างงุนงง แต่ยังไม่ทันที่เธอได้เอ่ยถาม มือใหญ่ก็ยื่นเข้ามาจับข้อมือของเธอเสียก่อน พร้อมกับดึงมือของเธอให้เดินตามออกไป
กันยายืนอึ้ง จ้องมองพฤติกรรมของผู้เป็นนายด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยมีสักครั้งที่ผู้เป็นนายแสดงอาการแบบนี้ ก่อนหันมาหยิบช่อดอกไม้ก่อนรีบเดินตามเจ้านายหนุ่มกับนาราภัทรออกไปอีกคน
///////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...