ออกเดินทาง
“นี่มันเส้นทางเข้าเมืองมิใช่หรือเจ้าคะ” หวังซูเหยาพลางมองสองข้างทางที่ดูคุ้นเคย นางยังมิเข้าใจว่าทำไมแม่ทัพหานสือเสวี่ยนผู้นี้ถึงได้พานางมาด้วย
ชายหนุ่มมองสตรีตรงหน้าที่เอ่ยถามแต่เขาเลือกที่จะไม่ตอบ
ไม่นานรถม้าก็จอดลง
คนตัวเล็กที่มองทางข้างหน้าที่ถูกจัดเตรียมไปด้วยโคมไฟหลากหลายสีสัน อ๊ะ! นางลืมไปว่าวันนี้มีงานเทศกาลโคมไฟ
??
ค่ำคืนที่ดวงดาวส่องประกายผู้คนเริ่มทยอยกันออกมาเที่ยวชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดในเมืองปีละครั้งงานเทศกาลดอกไม้ไฟของเมืองเฟิ่งหวงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคักหลังจากพระอาทิตย์ได้ลาลับขอบฟ้า
เมืองเฟิ่งหวงในขณะนี้ถูกประดับประดาด้วยโคมไฟหลากหลายสีสัน และการแสดงต่างๆ ของชาวบ้านที่อยู่ที่นั่น ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนต่างพากันออกมาหาความสุขความสำราญกันอย่างคึกคัก
“ว้าว”
หวังซูเหยามองภาพตรงหน้าอย่างหลงใหล นางมิได้มาเทศกาลดอกไม้ไฟมาห้าปีแล้วครั้งล่าสุดก็มาพร้อมพี่สาว… พลางเงยหน้าขึ้นไปมองบุรุษข้างกายในยามนี้ที่ดูเงียบไป และไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพานางมาด้วยแบบนี้ ตั้งแต่แต่งงานกันเขามิเคยพานางออกมางานเทศกาลแบบนี้เลยหรือแม้แต่ออกมาทานข้าวข้างนอกด้วยซ้ำ
“ข้าก็แค่อยากมา” หานสือเสวี่ยนเอ่ยเสียงเรียบเมื่อเห็นสายตากลมโตจ้องมองมาที่เขา
“...เจ้าค่ะ” เสียงเบา อย่างน้อยก็รู้สึกดีใจที่เขาพานางมาด้วยกัน
หวังซูเหยาปล่อยให้แม่ทัพหานเดินนำหน้าออกไปก่อน นางมิอยากเดินข้างๆ เพียงแต่คิดว่าที่ข้างกายเขานั้นมิคู่ควรกับนางเลยสักนิดแม้ว่าจะเคยคาดหวังก็ตาม
ชายหนุ่มที่เดินมาเรื่อยๆ ก่อนจะหันไปข้างกายกับไร้วี่แววสตรีที่มาด้วยพร้อมหันกลับไปทางด้านหลังก็พบว่านางเดินอยู่ข้างหลังเขา
“มาเดินข้างๆ ข้า”
“แต่ว่า…” ท่าทีลังเลของนางทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจแปลกๆ ก่อนจะเอ่ยกล่าวเสียงเข้มออกไปอีกว่า
“มา”
“เจ้าค่ะ...” หวังซูเหยาที่มีท่าทีลังเลแต่เมื่อได้ยินเสียงเข้มที่ปะปนความตำหนิ จึงได้เดินออกไปอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนจะเดินมาหยุดที่ร้านน้ำตาลปั้น
“ข้าขอหนึ่งไม้” หานสือเสวี่ยนจ่ายเงินเสร็จพร้อมส่งมันไปให้นาง ก่อนที่หวังซูเหยาจะรับน้ำตาลปั้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณเจ้าค่ะ” ถึงมิใช่ครั้งแรกแต่ก็พอจะนับครั้งได้ที่เขาทำเรื่องเช่นนี้
สองเค่อต่อมา
ทั้งสองเดินมาอยู่ใต้ต้นไม้ที่ไม่ไกลจากงานเท่าไหร่ ก่อนที่เสียงพลุดังสนั่น ตามมาด้วยเสียงโห่ร้องของผู้คน ทั้งสองคนเงยหน้าไปมองพลุที่แตกออกเป็นรูปร่างต่างๆ อย่างสวยงาม แสงไฟของพลุตัดกับสีท้องฟ้ายามกลางคืน ที่มืดค่ำขึ้นทำให้ดูน่ามองเข้าไปอีก
หวังซูเหยาหันไปมองบุรุษข้างๆ ก็ยิ้มออกมาแม้ว่านางจะไม่มีวันได้ใจของเขาแต่แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะ
สามเดือนต่อมา
ถึงเวลาที่ท่านแม่ทัพหานสือเสวี่ยนจะต้องไปประจำการที่ชายแดนอีกครั้งและไม่รู้ว่าครั้งนี้จะไปนานแค่ไหน
นางยื่นรอส่งเขาที่หน้าจวน กระทั่งคนชายหนุ่มเดินออกมา พลางมองไปที่สตรีตรงหน้าในยามนี้
“ข้าขออวยพรให้ท่านโชคดีนะเจ้าคะ” ก่อนจะยื่นหยกที่ถูกแกะสลักลวดลายดอกไม้สีฟ้าอ่อนและดอกเทียนหลันฮวาที่จัดเป็นช่อเล็กๆ ยื่นส่งมันไปให้เขา
หานสือเสวี่ยนมองดูหยกและดอกไม้สีฟ้าในมือก่อนจะเอ่ยขอบคุณเบาๆ
“ข้าไปก่อนล่ะ” กระโดดขึ้นม้าคู่ใจ กำคว้าบังเ**ยนไว้แน่น
“ดูแลฮูหยินให้ดี” ชายหนุ่มกำชับพ่อบ้านเฉินเสียงหนักแน่น ก่อนที่จะส่งสัญญาณเคลื่อนกำลังทหารออกเดินทางทันที
หวังซูเหยาที่ยื่นมองเขาค่อยๆ จากไปจนไม่เห็นแล้วจึงเดินกลับเข้าจวนไป แม้มิรู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่แต่นางเองก็จะรอ
**********