Chapter 21 แค่ทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง

1466 คำ
ลลินเดินทางมาถึงในเวลาต่อมา เพียงไม่กี่วันที่เจอเขาชีวิตของเธอต้องผกผัน ทั้งสูญเสียและไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าเส้นทางชีวิตจะเบี่ยงเบนมามากขนาดนี้ หญิงสาวกอดกระชับกระเป๋าใบเล็กที่ติดตัวมาแนบกับอก หวังให้มันเป็นที่พึ่งพิงปลอบโยน เพราะเวลากระชั้นชิดเพียงไม่กี่นาทีหลังจากจดปากกาเซ็นสัญญาทาสของเขา ในเมื่อสิ่งที่เธอต้องทำคือแสดงความรับผิดชอบลบรอยสบประมาทคนไทยในสายตาคนอื่น เหตุทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเธอ แล้วไยเล่าเธอจะหดหัวอยู่ในกระดองรอข่าวซัดสาดหนาหูให้เสียชื่อเพิ่มทุกวัน ‘ต่อจากนี้ไป...เธอต้องการคือต้องทนอยู่ให้ครบกำหนด อย่าได้เผลอจับเขาทุ่มจนได้แผลเพิ่มมาอีก’ ลลินเฝ้าปลอบโยนตัวเอง เพียงแค่อดทนคำเดียวคือสิ่งที่เธอต้องท่องจำตลอดการทำงาน “เรียบร้อยครับ” แมทซ์บอกเสียงนุ่ม รอยยิ้มอ่อนโยนที่เขามอบให้ลดความตึงเครียดในข้อสัญญาที่อ่านลงไปเยอะ ยิ่งไม่ต้องเห็นหน้าคนป่วยสำออย ช่องทางการหายใจของลลินก็ยิ่งสะดวกขึ้น “ฉันต้องทำไรบ้างคะ” หญิงสาวเงยหน้าถามชายหนุ่มที่นั่งกับเธออยู่ก่อน แต่เสียงของคนตอบกลับไม่ใช่เสียงของเขา “ทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง” ลลินหันกลับไปมองตามเสียง ผู้ชายใบหน้าคร้ามเข้มเจอไรเคราบางๆ ยืนเต็มความสูงไม่ห่างจากเธอมากนัก เขาสวมชุดลำลองสบายๆ เสื้อสีกรมท่ายิ่งขับผิวขาวของเขาให้โดดเด่นขึ้น “แล้วตอนนี้เธอก็ต้องเตรียมตัวออกไปกับฉัน ขับรถเป็นใช่มั๊ย” อลันถามแกมสั่ง น้ำเสียงของเขายังคงระดับเดิม ใบหน้ายังไร้รอยยิ้ม ต่างกับอีกคนที่ใบหน้ารับแขกมากกว่า ลลินชี้มือเข้าหาตัวเป็นเชิงถาม เธอฟังไม่ผิด ตำแหน่งแรกที่เธอได้รับมอบหมายก็คือขับรถให้เขานั่ง “ฟังไม่ผิดหรอก วันนี้ฉันอยากออกไปเดินดูโชว์รูมเพชรเมืองไทยสักหน่อย” ลลินพยักหน้ารับรู้ เหตุผลของเขาพอเข้าใจได้ และสิ่งที่เขาให้เธอทำก็เกี่ยวข้องกับงาน หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นทันที “ฉันพร้อมแล้ว” แมทซ์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ หล่อนไม่ติดจะเอาของไปเก็บหรือเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวก่อนหรืออย่างไร อลันกวาดสายตามองการแต่งตัวแสนเชยของเธอ เขาเกือบหลุดขำอยู่หลายครั้ง รสนิยมการแต่งตัวของเธอเข้าขั้นติดลบ ได้ชุดที่สวมใส่มาก็แค่ผ้าสีทึมๆ กางเกงผ้าตัวหลวมยาวกลอมเท้า ถ้าให้เดาคงจะเหมาะกับทำสวนทำงานบ้านมากกว่าออกไปเดินให้คนเห็น “ไปทั้งอย่างนี้เลยหรือ” อีกคนหนึ่งแค่แปลกใจ แต่อีกคนถามออกมาตรงๆ หญิงสาวก้มลงมองชุดของตัวเอง ที่สุดเธอก็ไม่เห็นอะไรผิดแผกออกไป “ทำไม หรือว่าใส่ชุดนี้แล้วขับรถไม่ได้” หญิงสาวถามกวนๆ “เปล่า!” อลันตอบกลับเสียงหนัก “แล้วทำไมฉันถึงใส่ชุดนี้ไม่ได้” อลันใช้มือข้างซ้ายฉุดข้อมือของหญิงสาวออกให้เดินตามออกมา แต่จะว่าเดินก็ไม่ถูกนักเพราะขายาวๆ ของเขาก้าวเร็วจนลลินต้องสับขาเร็วๆ จนเหมือนกำลังวิ่งตาม “ช้าๆ คนนะไม่ใช่ม้า จะได้ควบเร็วได้ทันใจ” สำนวนแดกดันของหญิงสาว แต่คนลากกลับไม่เข้าใจความหมาย ถึงเขาจะฟังออกเขียนได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะถ่องแท้ทุกคำ “อะไรนะ” ชายหนุ่มหันกลับมาถาม “เปล่า” หญิงสาวตอบพร้อมกับสะบัดข้อมือออกจากมือใหญ่ของเขา “ปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้” เธอบอกทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินลิ่วๆ มารอที่หน้าลิฟท์ แมทซ์ก็เดินตามลงมาด้วย แต่อลันก็เบรกเขาไว้เสียก่อน “นายไม่ต้องไปหรอกแมทซ์ ช่วยทำงานที่ฉันสั่งเมื่อเช้าให้ด้วยก็แล้วกัน” อลันจ้องหน้าแมทซ์นิ่ง งานที่เขาสั่งคือหาประวัติของคชา เขาอยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้เคยรู้จักมารดามาก่อนหรือเปล่า ถ้ามีข้อมูล เขาจะได้เริ่มต้นสืบเรื่องราวสักที “ครับ” แมทซ์โค้งให้พี่ชายก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในห้อง พื้นที่ทั้งชั้นของโรงแรมแห่งนี้เป็นของพวกเขา พร้อมกับบอร์ดี้การ์ดดูแลหน้าประตู ชายหนุ่มเดินตามหญิงสาวเข้ามาในลิฟท์เงียบๆ มือใหญ่ยกขึ้นเป็นเชิงห้ามเมื่อคนของเขาจะตามมาด้วย ที่สุดก็เหลือสองคนในลิฟท์ ชายหนุ่มเหล่มองหญิงสาวด้วยหางตาเงียบๆ กระทั่งมาถึงรถที่จอดอยู่หน้าโรงแรม ต้นเหตุของอีกเรื่อง “รถหรูขนาดนี้ฉันไม่ขับหรอก” หญิงสาวร้องบอกขึ้นมา “ทำไม” “ถ้ามันชนจะทำอย่างไร” “แล้วใจคอเธอจะปล่อยให้มันชนอย่างเดียวหรือไง” ชายหนุ่มย้ำเสียงเข้มหนักกว่า “เปิดประตูรถให้ฉันด้วย” เขาสั่งอีกรอบ ลลินกรอกตาอ้าปากหวอ “โฮะ!” “ทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง” ชายหนุ่มย้ำข้อสัญญา ลลินยอมเดินอ้อมกลับมาเปิดประตูให้เขาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แต่เธอก็ทำ ชายหนุ่มลอบยิ้มพอใจ ชักสนุกเมื่อได้แกล้งเอาชนะและได้เห็นอีกคนไม่พอใจ “เอี๊ยด!” ลลินเหยียบคันเร่งมิดกระชากรถออกอย่างเร็ว เสียงยางล้อรถครูดกับถนนเสียงดัง ศีรษะของคนนั่งที่ยังไม่ทันตั้งตัวให้ตรง กระแทกกับพนักพิงอย่างแรง “นี่!” ชายหนุ่มร้องเสียงดัง ลลินยกมือขึ้นป้องปากหลบเอียงข้างลอบยิ้มพอใจ “โฮะ! คันเร่งรถแพงๆ นี่นุ่มจัง ขอโทษนะ ฉันไม่ค่อยชิน เท้าหนักไปหน่อย” ลลินบอกอย่างสำนึกและขอลุแก่โทษ แต่สายตาของเธอกลับไม่ได้สื่อออกมาอย่างนั้น ไม่พ้นสายตาเหยี่ยวของเขาที่มองเห็นจนได้ ชายหนุ่มแอบเข่นเขี้ยวเอาไว้ในใจ และก็นึกอะไรออกได้ทัน “จอดรถ!” จู่ๆ เขาก็สั่งให้จอด “เอี๊ยด!” เสียงรถเบรกลากล้อกลางถนน ดีที่ยังไม่เลี้ยวขึ้นถนนใหญ่และถนนโล่งมาก ทำให้หญิงสาวได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำและผลออกมาเป็นที่พอใจ กับชายหนุ่มอีกคน...เพราะยังไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่รู้ว่าหญิงสาวจะเบรกกะทันหัน คนสั่งหัวคะมำไปโขลกกับคอนโชลหน้ารถ “โป๊ก!” คนเจ็บหันหน้ามาจ้องคนเจ็บอย่างเอาเรื่อง “อะไรของเธอ!” ไม่ใช่เสียงพูดปกติ แต่ระดับเสียงของเขาเทียบได้กับการตวาด “เบรกก็นิ้ม...นิ่ม เหยียบเบาๆ หยุดสนิท” หญิงสาวบอกเสียงเรียบ ทั้งที่อยากระเบิดหัวเราะใส่หน้าเขา “เธอตั้งใจแกล้งฉันใช่มั้ย” ลลินเบิกตากว้าง ร้องเสียงสูง “เปล๊า!” “อย่าคิดมาใช้ลูกไม้ตื้นๆ แกล้งฉัน” “ก็คุณสั่งให้ฉันหยุด ก่อนหน้านี้คุณก็สั่งให้ฉันทำตามคำสั่งคุณทุกอย่าง นี่ฉันกลัวจนลนลาน ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของคุณอย่างเคร่งครัดแล้วนะ” หญิงสาวพยายามปรับน้ำเสียงให้เรียบบอกเขา ทั้งที่ใจอยากทิ้งเสียงเยาะ “แล้วคุณสั่งฉันให้หยุดรถด่วนแบบนี้ทำไม” “ฉันยังไม่ได้คาดเข็มขัด” ชายหนุ่มตอบเหมือนเพิ่งนึกได้ “ก็คาดสิ” “มือข้างเดียวจะคาดยังไงได้” “ทุกคนก็คาดมือข้างเดียวได้หมด แขนหักนะ ไม่ได้ง่อย” “แต่ฉันคาดไม่ได้ แล้วเธอก็ต้องทำตามคำสั่ง” อลันหันกลับไปจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งอย่างเป็นต่อ ลลินพ่นลมหายใจออกจากปลายจมูกระบายความโกรธ ยอมทำตามที่เขาบอก แต่ความกว้างของรถทำให้เธอเอื้อมมือไม่ถึงสายเข็มขัดนิรภัยที่อยู่อีกฝั่ง “หยิบสายเบลท์ให้หน่อยสิ” หญิงสาวร้องบอก ชายหนุ่มยังนั่งนิ่งเหมือนไม่ได้ยิน ทำหูทวนลมไม่รู้ไม่ชี้ “ฉันหยิบไม่ถึง” หญิงสาวโอดอีกครั้ง เธอพยายามไม่โดนตัวเขา แต่แขนก็ยาวไม่ถึง “มันก็เรื่องของเธอ หน้าที่ของเธอ” หญิงสาวขยับตัวเข้าไปใกล้ ดึงสายได้ แต่ตัวของเธอทั้งตัวก็ไปเกยอยู่บนตัวของชายหนุ่ม เธอรีบดึงสายออกมาคาดและขยับตัวนั่งที่เดิมอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มยิ้มพอใจที่เห็นใบหน้าของหญิงสาวมีเลือดฝาด จากพวงแก้มจืดๆ ที่ห่างไกลเครื่องสำอางสร้างสีสัน ทั้งที่ใจอยากกดจมูกฝังเอาไว้สักฟอด แต่ก็ได้เพียงแต่คิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม