“อย่างงั้นหรือ”
“พี่แค่โกรธที่ดามีความสุข ในขณะที่พี่จมอยู่กับความทุกข์ในอดีตคนเดียว นี่คือความจริง” คชาเว้นระยะ เงยหน้าสบตากับอลันดา
“พี่ยังรักดาที่สุด และรอดาเสมอ คาดหวังว่าดาจะไม่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกับใครได้อีก”
“แล้วทำไมพี่ถึงไม่ยอมจบ”
“ก็เพราะพี่ต้องเจอกับความผิดหวัง คนที่คิดว่ารักจนยอมที่จะตายไปด้วยกันเมื่อโดนขัดขวาง แต่เมื่อพี่ยอมปล่อยให้ดาไป ดากลับไปแต่งงานกับอิริคหลังจากที่ดาออกจากบ้านไปไม่ถึงเดือน เหมือนพี่ถูกทรยศ”
“แล้วพี่รู้ไหมว่าเกิดอะไรกับดาบ้างหลังจากที่ดาออกจากบ้าน และก่อนที่ดาแต่งงาน”
คชาส่ายหน้า
“เห็นไหมล่ะ!”
“แต่พี่มีหลักฐานว่าดาแอบลักลอบคบกันกับอิริคก่อนจะเกิดเรื่องเสียอีก”
“เป็นชุดเดียวกับดินเนอร์หรือเปล่า” นางอลันดาถามเสียงเย็น
คราวนี้คชาพยักหน้ารับ
“ถ้าเป็นชุดนั้น พี่ก็ควรกลับไปถามท่านผู้หญิงแม่ของพี่ดู ว่าทำอะไรกับดาไว้บ้าง ดาถือว่าเรื่องราวผ่านมานานแล้ว แล้วดาก็ทำตามสัญญาทุกอย่าง จนถึงวันที่ครอบครัวของพี่รุกรานพื้นที่ของดาอีกครั้ง ดาขอพื้นที่ตรงนั้นคืน อลันไม่รู้เรื่องของพวกเรา เขาก็ตกเป็นเหยื่อไม่ต่างกับที่ดาเคยเป็นเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน”
“พี่ไม่ได้ทำอะไรอลัน”
“พออลันเข้ามาเมืองไทยก็มีเหตุกับเขาทันที พี่กล้าเถียงดามั้ย”
“พี่ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นลูกชายของดากับอิริค”
“แต่พี่คงไม่ปฏิเสธว่าถ้ารู้ก่อน...เหตุการณ์คงไม่แตกต่างกันมาก”
“พี่จะทำแบบนั้นทำไม”
“ดาไม่เคยลืมสักเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ดาก็ไม่รู้ว่าครั้งนั้นดาทำอะไรผิด ผู้หญิงตัวคนเดียวแทบเอาชีวิตไม่รอด ดากลับถูกตราหน้าจนอยู่เมืองไทยไม่ได้ ท่านผู้หญิงแม่ของพี่ลงทุนบังคับให้ดาสร้างฉากละครให้พี่เกลียด แล้วมันก็ได้ผลดี พี่ยังเกลียดดามาถึงตอนนี้” อลันดาบอกเสียงขื่นปวดร้าว
“มันเกิดอะไรขึ้นกับดากันแน่”
“อิริคยื่นมือมาช่วยอย่างบริสุทธิ์ใจ เขาก็พลอยติดร่างแหรับกระแสข่าวแรงๆ ไปด้วย แต่พอเราเดินจากไป...ท่านผู้หญิงศจีมาศก็ตามหาเรื่องดาไม่เลิก จนดาต้องยอมสร้างฉากละครฉากนั้นขึ้นมา”
อลันดาเงยหน้ามองคชาอย่างตัดพ้อ
“สามสิบกว่าปีที่ดาไม่ได้กลับบ้าน ทั้งที่คิดถึง”
“แต่ดาก็มีความสุขดีไม่ใช่หรือ เป็นพี่เสียอีกที่ต้องทนอยู่เหมือนผีตายซาก”
“เอาละ...เราอย่ามาเถียงกันเรื่องเดิมๆ อยู่เลย ดาแค่จะมาบอกว่า ดาขอยกเลิกสัญญาทั้งหมด จบกันทุกอย่างที่ตรงนี้ เวรกรรม ความแค้น หรือข้อกังขาที่ยังคลางแคลง ดาขอให้เราจบกันเท่านี้”
นางอลันดาบอกตัดบทให้จบเรื่องราว ถึงแม้เขาจะบอกว่าไม่ได้ทำ แต่นางก็ยังไม่ไว้ใจใครอยู่ดี เหตุการณ์เลวร้ายที่นางผ่านมาทั้งชีวิตทำให้นางกลายเป็นคนหวาดระแวง
“พี่ไม่ยอมหรอกนะดา” คชาตอบกลับทันที
“เรื่องอะไร” นางอลันดาก็ถามกลับทันทีเหมือนกัน “ถ้าเป็นเรื่องของเรา ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเราเป็นพี่น้องกัน เมื่อห้าปีก่อนดาบอกพี่เรื่องนี้อย่างละเอียดแล้ว”
“เรื่องนั้นพี่ก็ปล่อยให้มันจบไปตั้งแต่ห้าปีก่อนแล้ว” คชาแตะมือไว้บนไหล่ของนางอลันดา
“แม้ว่าความรู้สึกของพี่จะเปลี่ยนดาเป็นน้องไม่ได้สักนาทีก็ตาม”
นางอลันดาเงยหน้าสบตาพี่ชายในสายเลือด แน่นอนว่าถ้าไม่มีคำว่าสายเลือดมากั้นกลาง นางเองก็จะไม่ยอมพรากจากผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
“พี่หมายถึงเรื่องงานที่พี่จะทำร่วมกับอลัน” คชาบอกเสียงเรียบ
เขาไม่ยอมที่จะปล่อยให้คนอื่นเดือดร้อน เพียงเพราะเขาคนเดียวที่มีเรื่องราวส่วนตัวแต่หนหลัง ตำแหน่งนายกสมาคมที่ยึดรั้งเอาไว้ทำให้เขาต้องเดินหน้าต่อ แม้ต้องสู้จนสุดหนทาง
“พี่มีทางเลือกด้วยหรือ” นางอลันดาเชิดคอรั้งตั้ง เอียงหน้าถาม
“พี่จะทำทุกทาง...”
“ถ้าพูดกันดีๆ ไม่ได้ ดาก็บอกไว้ตรงนี้ ดาจะขัดขวางทุกวิธีเหมือนกัน”
“ดาคิดว่าจะห้ามพี่ได้หรือ ถ้าอลันรู้เรื่องของเรา...เขาจะว่าอย่างไรบ้างนะ” คชาบอกกึ่งขู่
“ก็ลองสู้กันสักตั้งก็แล้วกัน ถ้าพี่ไม่ยอมยกเลิกสัญญา เรื่องของอลันดาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
“ในเมื่อเราไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าดาจะฟ้อง พี่จะหาหลักฐานมาสู้คดี”
สิ่งที่หลุดออกมาจากปากของคชาปลุกไฟแค้นในตัวอลันดาให้ลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง ต่อไปนี้เธอจะไม่ยอมอยู่นิ่งๆ ให้ใครทำร้ายฝ่ายเดียวเด็ดขาด นางเชิดหน้าเดินเข้าหาอย่างมาดมั่น
“พี่คิดว่าสิ่งที่กำลังพูดยังเหลืออีกหรือ” นางอลันดาย้อนกลับ ทุกอย่างที่เขาจะนำมายืนยันความผิด อยู่ที่นางหมดแล้ว ต่อให้บริสุทธิ์ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานก็ผิดเต็มประตู
“ดาคิดจะทำอะไรกันแน่ เรื่องเก่ามันแค่เราสองคน อย่าดึงคนอื่นเข้ามายุ่งเลยนะ”
“ดาจะทำทุกอย่างเหมือนที่ดาเคยได้รับมา ไม่ผิด...แต่ไม่มีโอกาสได้แก้ไขหรืออธิบายให้ใครฟัง สิ่งที่ดาโดนกระทำ ดาจะเอาคืน”
“แต่เด็กคนนั้นไม่ผิด”
“พี่เชื่อใจคนอื่นโดยที่ไม่เห็นกับตาอย่างนั้นหรือ แล้วที่ว่าไม่ผิด...พี่ก็เคยดึงมาเกี่ยวข้องเหมือนกัน ตาต่อตา ฟันต่อฟันนะ”
“พี่รู้จักเด็กคนนั้นดี เธอเป็นคนดี พี่ไม่เชื่อว่าจะทำร้ายใคร”
“พี่กล้ายืดอกยอมรับและปกป้องคนอื่น น่าเสียดายที่พี่ไม่รู้สึกกับดาแบบนั้น” ยิ่งเห็นคชาปกป้อง นาง อลันดาก็ยิ่งโกรธ สะท้อนความน้อยใจแต่หนหลังให้ซัดโหม
นางอลันดายิ้มขื่น เมื่อย้อนถึงอดีต ผู้หญิงที่เคยรักกลับไม่เคยมีค่า แม้น้ำหนักในคำพูดก็ยังไม่มี
“ดาอย่าเอาเรื่องเดิมมาเกี่ยวข้องได้มั้ย ในเมื่อเราก็จบเรื่องเก่าไปนาน เราเดินมาไกลเกินกว่าจะพูดถึงเรื่องเก่าแล้ว” เขาบอกอย่างทอดถอนใจ สายตาดุจเหยี่ยวคมกริบจับจ้องที่ใบหน้าของคนเคยรักสุดหัวใจ
เรื่องราวเมื่อครั้งก่อนอาจเป็นความเข้าใจผิด แต่เมื่อผ่านมาหลายปีเขาก็ไม่อยากรื้อฟื้น
นางอลันดาขยับถอยห่างออกมาเพียงนิด แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม ยิ่งเขาตัด กลับยิ่งสร้างแรงจูงใจให้เธอเดินหน้าต่ออย่างไม่หวั่นเกรง สิ่งที่เธอทนนิ่งเงียบจมอยู่กับความหวาดกลัวมาตลอด
“ยิ่งพี่อยากให้ดาถอยห่าง ดาก็จะยิ่งรุกหนัก หมดเวลาที่ดาจะมัวแต่นั่งกลัวแล้ว”
“อลันดา!” คชาขึ้นเสียง
“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิคะ อย่าลืมว่าฉันเจ็บมาก่อนคุณ ต่อไปนี้เป็นพื้นที่เอาคืนของฉัน” นางอลันดาจ้องตาไม่กะพริบ จงใจพูดให้ดูห่างเหิน
“แต่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ”
“เมื่อก่อนครอบครัวของคุณใช้อำนาจบีบบังคับฉันให้จนตรอก จำไม่ได้หรือคะ ตอนนี้ฉันก็จะใช้อำนาจของฉันบีบให้คุณจนตรอกเช่นเดียวกัน”
“ไม่มีทาง”
“คุณคงจำไม่ได้ว่าเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนพวกคุณทำกับฉันอย่างไรบ้าง ตอนนี้ฉันจะเป็นคนรื้อฟื้นมันเอง แล้วห้าปีที่แล้วคุณทำให้ฉันสูญเสียอะไร”
“ถ้าอย่างนั้นดาก็รู้ไว้เสียตรงนี้เลยว่า...พี่จะไม่ยอมให้ดาได้ทำอย่างที่พูด พี่จะไม่ปล่อยให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะพี่เด็ดขาด โดยเฉพาะงานที่ดากำลังดึงเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว”
“ก็ลองดูสักตั้งว่าจะได้หรือไม่ได้ แล้วดาจะหาเวลาว่างๆ เข้าไปกราบท่านผู้หญิงบ้าง หวังว่าท่านคงจะอยู่ดีมีสุข” นางอลันดาตอบกลับน้ำเสียงยั่วๆ
หางตาคมของชำเลืองมองอย่างท้าทาย คชาใช้วงแขนรวบตัวเธอเอาไว้ แต่นางก็สะบัดออก จังหวะที่พนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ทำให้ร่างบางชนกับบริกรหนุ่มที่เดินเข้ามา มาการิต้าของเธอหกรดเสื้อผ้าทั้งคู่เปียกสกปรกไปหมด
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” หญิงสาวป้องปากอุทานออกมาเสียงเบา
บริกรขอโทษขอโพยหญิงสาวเป็นการใหญ่เกรงกลัวความผิด “ผมขอโทษครับคุณผู้หญิง” เพราะโรงแรมแห่งนี้ได้รับการการันตีในเรื่องการบริการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดร้ายแรง
“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุ ดิฉันผิดเองที่ไม่ทันได้มอง คุณออกไปได้เลยค่ะ ที่นี่ฉันจัดการเอง” นางอลันดาบอกเสียงเรียบ ผิดจากเมื่อครู่