Chapter 16 น้องนอกสายเลือด

1664 คำ
อลันยังเชื่อว่าบิดาเสียชีวิตเพราะมีคนลอบจัดฉากสังหาร คงเป็นคนอื่นไกลไม่ได้หากไม่ใช่คนในตระกูล ไม่อย่างนั้นนางอลันดาคงไม่ร้องขอให้เขาหยุดตามสืบ และจบเรื่องสงสัยไว้เพียงเงียบๆ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้เรื่องราวที่แท้จริง นอกเสียจากคนติดตามคนสนิทเมื่อห้าปีก่อนอย่างฟิลิป ถึงแม้อลันจะรู้อยู่เต็มอก ต้องระมัดระวังตัวทุกย่างก้าว แต่ชายหนุ่มก็ยังค้านมารดาให้นางได้คลายกังวล แม่ของเขากลายเป็นคนวิตกจริตกลัวเกินเหตุมาตั้งแต่พ่อของเขาเสีย เขาไม่อยากซ้ำรอยให้นางต้องคิดมากอีก “ลูกไม่เข้าใจแม่ ลูกไม่รู้ว่าพ่อกับแม่เจออะไรมาบ้าง” “แม่ก็บอกผมสิ” ชายหนุ่มต้อนเข้าเรื่องเดิมอีกครั้ง นางอลันดาถอนหายใจยาว เงยหน้าถามลูกชายเสียงเย็น “ลูกยืนยันว่าจะไม่กลับ” “ครับ” “ก็ได้...ถ้าลูกไม่กลับ แม่ก็จะไม่กลับด้วย” “ผมไม่เคยห้ามแม่” “อย่ามาประชดนะอลัน” “เปล่า!” “แม่จะเอาเรื่องคนที่ทำร้ายลูกให้ถึงที่สุด” “ผมขอจัดการเอง” ชายหนุ่มบอกนิ่งๆ แต่มีหรือที่คนเป็นแม่จะปล่อยผ่าน “ลูกคงจะรู้จักแม่ดี” นางอลันดาจ้องหน้าลูกชายนิ่งอย่างไม่ยอมแพ้ “เรื่องความปลอดภัยของลูกแม่จะไม่ปล่อยผ่าน ถ้าแม่ห้ามลูกไม่ได้ ลูกก็อย่าแม้แต่จะคิดห้าม” นาง อลันดาบอกเสียงเข้ม แววตาของนางยังคงเห็นแววไม่สบายใจอยู่เต็มเปี่ยม นางเชื่อว่าคชาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มาอยู่ในเหตุการณ์ เขาต้องรู้ว่าอลันเป็นลูกของเธอ และเธอจะไม่มีวันยอมปล่อยให้อลันเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเกิดเขายังแค้นก็ขอให้แค้นที่เธอคนเดียว พ่อของอลันก็ใช้ชีวิตสังเวยความรักความแค้นมาแล้วคนหนึ่ง “แม่จะจัดการอย่างไร” นางอลันดาไม่ตอบคำถาม คำตอบมีเพียงรอยยิ้มมุมปากที่ไม่อาจคาดเดา เห็นอย่างนั้นคนบนเตียงก็ได้แต่ทอดถอนใจ แต่อย่างน้อยมารดาของเขาก็ยอมกลับมาอยู่เมืองไทย เขาเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย เพียงแต่อยากรู้เรื่องของนางบ้างเท่านั้น “สั่งงดเยี่ยมอลันทุกกรณี และทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง คนเดียว!” นางอลันดาหันกลับไปสั่งแมทซ์ ย้ำเสียงหนักในตอนท้าย “ทำไมต้องทำอย่างนั้น” อลันถามกลับอย่างแปลกใจ “ถ้าลูกไม่กลับอังกฤษกับแม่ ลูกก็ไม่ควรมีคำถาม” นางอลันดาบอกลูกชายทิ้งท้าย ก่อนที่นางจะเดินออกไปจากห้อง ไม่ปล่อยให้ลูกชายได้ซักถามต่อ กรอบข่าวเช้าวันใหม่ทุกฉบับพาดหัวข่าวเรื่องอุบัติเหตุคืนวันจัดงานโชว์ แต่ที่เหนือความคาดหมายคือข้อหาพยายามฆ่าที่นักข่าวยัดเยียดในกรอบข่าว ปานวาดวิ่งถือหนังสือพิมพ์เข้ามาหาลลินในห้องหน้าตื่น “พี่ลินๆ” ลลินเงยละลายตาจากถ้วยกาแฟเย็นชืดขึ้นมามองปานดาว เธอถือถ้วยนั่งมองนิ่งๆ มาร่วมชั่วโมง “อะไรอีกละ” ลลินถามแบบขอไปที วินาทีนี้เธอยังไม่อยากรับรู้เรื่องราวอะไร “พี่ลินลงข่าวหน้าหนึ่งทุกฉบับ” “ก็ดีสิ” ลลินตอบกลับอย่างไม่ทันได้มอง จะพูดว่าเธอไม่ใส่ใจสิ่งแววล้อมรอบข้างก็ไม่แปลกนัก หัวใจยังหนักอึ้งราวหินถ่วงตั้งแต่ที่ได้รับโทรศัพท์จากคชาเมื่อคืน “ดีกะแมลงเม่าอะไรละ พี่กำลังตกเป็นเป้าสังคมเพราะหนังสือพิมพ์บ้าๆ นี่” ปานดาววางหนังสือพิมพ์ลงตรงหน้าลลินอย่างร้อนใจ ลลินหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาเปิดอ่าน ตัวหนังสือไม่กี่ตัวทำให้ใบหน้าของเธอซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อยจะทำให้ทุกอย่างบานปลายขนาดนี้ หนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับภาษาอังกฤษถูกโยนลงกลางโต๊ะ แววตาคนโยนบอกความรู้สึกไม่พอใจ สิ่งที่เขาทำกำลังขยายวงกว้างด้วยน้ำมือของอีกคน “ใครเขียนข่าวห่วยๆ อย่างนี้ แล้วฉันจะทำธุรกิจที่เมืองนี้ได้อย่างไร แค่เรื่องอุบัติเหตุก็ทำเป็นเรื่องราวใหญ่โต ใครจะกล้าเข้าใกล้ฉัน” อีกคนโวยวาย แต่อีกหนึ่งกลับพอใจในผลงานตัวเอง นางอลันดานั่งอมยิ้มอ่านข่าวอย่างพอใจ หลังจากที่นางได้รู้เรื่องราวทุกอย่างจากฟิลิปเมื่อคืนอย่างละเอียด ฟิลิปเป็นอย่างนี้เสมอ รวดเร็ว รอบคอบและแม่นยำ อลันหันไปเจอรอยยิ้มบนวงหน้าของมารดาทันพอดี “ผลงานของแม่ใช่ไหม” “ถ้าปฏิเสธ ลูกคงไม่เชื่อ” “ทำแบบนี้ทำไม” “หาคนรับผิดชอบ” นางอลันดาตอบเสียงเรียบ ไม่ได้สนใจคนถามแม้แต่นิด นางขยับตัวลุกไปหยิบผลไม้มาปอกอย่างใจเย็น “แม่กำลังเล่นสงครามประสาทกับผมใช่ไหม แม่ก็รู้ว่าให้ข่าวอย่างนี้หมายถึงทางเราไม่พอใจ แต่เรื่องไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมต้องทำธุรกิจและไม่อยากให้เรื่องบานปลาย” “แม่บอกแล้วไงว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” พอนางอลันดารู้ว่าลลินเป็นคู่ค้าคนสำคัญของคชา นางก็ยิ่งไม่ไว้วางใจ ทั้งคชาและคู่ค้าของเขาต่างเข้ามาพัวพันกับอลันตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาเมืองไทย อีกเหตุผลหนึ่งที่นางยังคลางแคลงใจคือ ครอบครัวของคชาสั่งห้ามให้เธอเข้าประเทศไทย แต่กลับปล่อยให้ลูกชายทำธุรกิจเพชร และเลือกที่จะทำธุรกิจกับลูกชายของเธอ “แต่มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ผมไม่ทันระวังตัวเอง” “แต่แม่ไม่ได้คิดอย่างนั้น ถ้าจะอยู่ที่เมืองไทยต่อ ลูกต้องทำตามที่แม่สั่ง เอาเรื่องคนที่ทำร้ายลูกจนถึงที่สุด” “แต่ผมรู้อยู่แก่ใจทุกอย่างว่าอะไรเป็นอะไร” “แม่เปิดทางให้แล้วไง ข่าวขนาดนั้นยังไงคนพวกนั้นต้องดิ้นพล่านพยายามติดต่อเรา” อลันลอบผ่อนลมหายใจ ทั้งหมดเขาแค่ต้องการดัดหลังผู้หญิงเพียงคนเดียว แต่เรื่องราวมันกลับบานปลายไปกันใหญ่ ยิ่งพื้นที่สื่อขยายวงกว้าง พื้นที่ของตัวเขาก็ยิ่งแคบลง จนกระดิกตัวทำอะไรยากขึ้นทุกที “แต่ผมเป็นนักธุรกิจ ต้องยืนอย่างผงาดเหมือนสิงห์ ไม่ใช่ลอบกัดอย่างหมา” “ยิ่งเป็นนักธุรกิจยิ่งต้องเอาเรื่อง ความปลอดภัยของลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่อย่างนั้นก็กลับอังกฤษ” นางอลันดาย้ำเสียงหนักยื่นคำขาด สายตานิ่งๆ ของนางที่มองมาที่เขาเป็นการบีบบังคับกลายๆ ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างจำยอมตามความต้องการของมารดา สิ่งที่เขาต้องการมีมากกว่าที่จะดื้อดึงขัดคำสั่งเล็กๆ น้อยๆ นักธุรกิจอย่างเขามีภัยรอบด้าน ทั้งเรื่องของบิดาก็ยังค้างคาใจไม่กระจ่างด้วยตาของเขา ใจอยากสืบเรื่องราวต่อ แต่ความสงสารมารดาที่ยังหลงเหลือเพียงคนเดียวก็มีมากกว่าชีวิตคนตายไปแล้ว หากบิดาเสียเพราะขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจของตระกูล ทั้งที่เป็นพี่น้องร่วมสายเลือด เขามีเลือดไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนพ่อก็ยิ่งต้องระวัง ไม่แปลกที่มารดาของเขาจะเป็นกังวล และเขาก็จะไม่เป็นคนไปเพิ่มความหวาดกลัวให้นางอีกเป็นอันขาด หลังจากวันนั้นชายหนุ่มก็ปล่อยเรื่องราวให้ผ่านไปเงียบๆ ตามคำขอร้องของมารดา ไม่ยุ่งเกี่ยวกับ ริชาร์ดที่อยู่ในรัสเชียสักคน ม่านสีเข้มถูกเปิดออกเพียงเล็กน้อย ห้องกระจกที่เคยมีแสงสว่างโปร่งโล่งกลับถูกปิดทับเอาไว้ด้วยความมืดสลัว เจ้าของห้องที่ชื่นชอบแสงแดดกับต้นไม้สีเขียวนอกหน้าต่าง แต่วันนี้เธอกลับมองเมินมันไป ลลินยกมือกุมขมับ...ข้อหาร้ายแรง เพียงเธอป้องกันตัวเองจากถูกคนดังรังแก คงจะไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ ช่างน่าขัน...คนจนกับคนรวย ช่องว่างแตกต่างกันอย่างนี้เอง เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานเรียกสติของคนเหม่อกลับมา “ลลินพูดสายค่ะ” หญิงสาวกรอกเสียงหวานไปตามสาย ไม่ว่าตอนนี้ความรู้สึกข้างในจะเป็นอย่างไร แต่เธอก็ยังคงระดับเสียงไว้เหมือนเดิม “ลินเห็นข่าวแล้วใช่ไหม” “ค่ะ” “ผมอยากเจอลิน รู้สึกว่าเรื่องราวมันคงไม่เล็ก เขาแจ้งมาว่าจะเอาเรื่อง เมื่อคืนผมสั่งปิดข่าวทุกสื่อ แต่ทำไมข่าวถึงออกมาแบบนี้ไม่รู้” “ลินขอโทษนะคะ” “ถ้าลินไม่ได้ตั้งใจอย่างที่บอกผมเมื่อคืน เราก็จะหาทางออกร่วมกัน ผมจะไปขอเทปกล้องวงจรปิดที่โรงแรมมายืนยัน” “ขอบคุณที่เชื่อใจลินนะคะ” “ผมรู้จักลินมานานหลายปี เชื่อว่าลินคงไม่โกหก” “ลินขอไปเจอเขาก่อนได้ไหม” “เขาห้ามเยี่ยม ห้ามคนเข้าพบ พรุ่งนี้จะส่งทนายมาเจรจา พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดี สื่อเขียนออกมาอย่างนี้คงจะเข้าทางเขา” “คนตกบันได ยัดเยียดข้อหาพยายามฆ่า เข้าใจคิดนะคะ” ลลินบอกเชิงเหน็บ ยิ่งนึกถึงใบหน้าของเขาเธอก็ยิ่งโมโห เมื่อวานเสียจูบฟรีๆ ให้เขายังเจ็บใจไม่หาย “เมื่อเขาตกเป็นผู้เสียหาย ข้อหาที่เราได้ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของเขานั่นแหละ เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องเมื่อวานเรื่องเดียวหรอก ผมเชื่อว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น” คำพูดของคชาทำให้ลลินคิดไปไกล คนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของความแค้น ความคิดของหญิงสาวมาลงที่ตัวเองหรือว่าเขาอยากหาเรื่องที่เธอทำเขาเจ็บครั้งก่อน ครั้งนี้เจ็บอีกเขาก็ยิ่งอยากเอาคืนหนักๆ แกล้งเธอที่กล้าทำร้ายเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม