หลังจากที่เราลาพ่อแม่เสร็จ ก็รีบขับรถกลับห้องทันที ฉันนั่งมองแหวนเพชรเม็ดโตที่นิ้วนางตัวเอง แล้วอดยิ้มไม่ได้จริง ๆ ทำไมเขาเลือกแหวนได้เก่ง
แบบนี้นะ ต้องอวดแล้วล่ะ!
“คุณ... ขอมือหน่อย” ฉันเอื้อมไปจับมือเขามาวางไว้ที่ตัก ก่อนจะเอามือซ้ายของตัวเองจับลงไป
‘แชะ’ คนข้าง ๆ หันมามองฉันแว๊บนึง ก่อนจะหันไปขับรถต่อ
ฉันเอารูปลง ไอจี ก่อนจะแชร์ลงเฟซบุ๊ก
แคปชั่น: ขอบคุณนะคะ #สมาคมคนอวดผัว #อวดผัว2018
“เดี๋ยวก็โดนปล้นหรอก...” เขาบ่นอุบอิบทันทีที่ฉันลงรูป
“ปล้นไม่กลัว กลัวไม่ได้อวด” เขายิ้มเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือมายีหัวฉัน
“ที่หายไป คือไปจัดการเรื่องนี้เหรอคะ” ฉันตัดสินใจถามเขาอีกครั้ง หลังจากมองแหวนพลิกไปพลิกมาอยู่นาน อยากรู้ว่าวันนี้ทั้งวันเขาทำอะไรบ้าง
“ใช่ กว่าจะกล้าคุยกับพ่อเธอ”
“อยู่ ๆ ก็ตั้งใจไปคุยเหรอ แล้วคุยอะไรอีก. ไหนว่าเราถูกผู้ใหญ่หมายหมั้นกันแล้ว” ความอยากรู้อยากเห็นของฉันยิ่งมากขึ้นไปอีก
“ฉันกลับบ้าน แม่ก็พูดเรื่องเธออีกแล้ว บอกว่าเธอใกล้จะเรียนจบ แต่ก่อนฉันจะเดินหนีไม่อยากฟัง แต่วันนี้ฉันสนใจเรื่องของเธอ อยากฟังจากแม่เยอะ ๆ ไม่รู้เหมือนกันทำไม”
“แล้วยังไงต่อคะ?”
“ฉันรู้สึกว่าฉันคงชอบเธอ ฉันเป็นนักธุรกิจ เมื่อผลลัพธ์ชัดเจน โอกาส
เข้ามา ฉันก็รีบคว้าไว้ เลยตัดสินทำทุกอย่างให้ถูกต้องดีกว่า ไปสารภาพกับพ่อ
ของเธอ ว่าฉันล่วงเกินเธอไปแล้ว”
ฉันนั่งนิ่งหันไปมองเขา คุณพระ! เขากล้าไปพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน
น่าอายชะมัด
“พ่อเธอไม่พอใจ แต่อยากให้เธออยู่กับฉันด้วยความรัก ฉันก็บอกว่าฉันชอบเธอ และบอกแม่ว่าอยากหมั้นกับเธอ”
“ที่จริง คุณอย่าเพิ่งบอกพ่อก่อนก็ได้นะ”
“ฉันไม่สบายใจ ไม่อยากให้พ่อเธอคิดมาก พ่อเธอเครียดเรื่องเธอหนีออกจากบ้านมากนะ เดี๋ยวจะเครียดไปกว่านี้ถ้ารู้ว่าฉันกินเธอแทบทุกวัน...”
ฉันแก้มร้อนผ่าวขึ้นมาทันที จริงของเขา เขาคิดรอบครอบดีจัง (หวังว่าคงไม่บอกพ่อว่ากินฉันแทบทุกวันนะ)
‘ตึ้ง’
Namwan: อะไร ๆ เล่ามา! แหวนนั้นของใคร
TangMo: ด่วน ๆ ห้ามเงียบ
ฉันอ่านไม่ตอบ ได้แต่ไปเลื่อนเม้นในเฟซบุ๊กดู ปล่อยให้นางทั้งสอง อยากรู้อยากเห็นต่อไป สะใจ
ทุกคนมาแสดงความยินดีกันใหญ่ บ้างก็เม้นอิจฉาบ้าง บ้างก็อยากเห็นหน้าเจ้าของมือ
ฉันเล่นมือถืออยู่สักพัก รถก็มาจอดที่ตึกของเขา พี่นพวิ่งมารอเอา
รถไปจอด ห้างกำลังจะปิดทุกคนกำลังเช็คความเรียบร้อยกันอยู่...
ลิฟต์
‘ตึ๊ง’
G: หวัดดีณีเวีย จำเราได้มั้ย กายไง
ฉันไม่กดอ่าน แต่ข้อความมันโชว์หลากลางหน้าจอฉัน ให้ตายเถอะกาย ทักมาอะไรตอนนี้! ดูเหมือนผู้ชายข้าง ๆ ฉันไม่รู้ เขาใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าห้องปกติ
ฉันจึงรีบปัดข้อความนั้นทิ้งไป
คุณเซ็นขอตรวจเอกสารที่ห้องทำงานก่อน ฉันจึงรีบไปอาบน้ำ ก่อนที่จะไปแอบค้นชุดนอนเดรสสายเดี่ยวในกระเป๋า ไปนอนสวย ๆ ดูทีวีบนเตียง... จะแกล้งหลับ หรือว่านอนตะแคงโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งดีนะ แบบนี้แล้วกัน
ฉันแกล้งหลับ สักพักได้ยินเสียงประตูเปิดออก เขาเข้าไปอาบน้ำไม่นานก็ลงมานอนข้าง ๆ กัน
“ไม่ต้องแกล้งหลับหรอก...” เขาโน้มมากระซิบข้างหนูฉัน ใส่ชุดนอนมาเต็มที่ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ยอม...
“เปล่านิ พอดีจะนอนแล้ว งานโอเคไหมคะ” เขาขมวดคิ้วนิดนึง สายตาจ้องข่าวในทีวีอยู่
“ก็ดี โรงงานลงตัวแล้ว ดูผลตอบรับก่อน ถ้าดี บางทีเราอาจมีโรงงานของตัวเองลดต้นทุนการผลิตระยะยาว อยากซื้อหุ้นอสังหาเพิ่ม” ฉันขมวดคิ้วให้ธุรกิจร้อยแปดของเขา แค่นี้ก็รวยอยู่แล้ว ยังอยากรวยไปอีกเหรอ
“ยังรวยไม่พอเหรอคะ?” เขาหันมาอมยิ้มใส่ฉัน ก่อนจะทำตาเป็นประกาย
“ซื้อไว้ให้ลูกชาย ให้หุ้นทำงานให้เขาตั้งแต่เด็ก” ลูก... หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เขาคิดอะไรการไกลขนาดนี้ ฉันไม่แปลกใจเลยที่เขาประสบความสำเร็จ เขาวางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้าตลอด
“อย่าลืมสามสิบเท่าของเงินเดือนนะคะ” หน้านิ่งหันมามองฉันทันที
ก่อนริมฝีปากสวย ๆ นั้นจะยิ้มที่มุมปาก
“ทวงเร็วจริง ๆ งก” ฉันยิ้มและขยับไปกระซิบเขาเบา ๆ
“ฉันจะเก็บไว้ให้ลูกสาวของฉันบ้างค่ะ” เขาหันมามองหน้าฉัน ก่อนจะยิ้มเบา ๆ ให้เนินเอกตูม ๆ ที่โผล่ออกมาจากชุดนอน...
“ขอกินแฟนก่อนแล้วกัน เงินคู่นอนเก่าค่อยเคลียร์” เขาก้มลงมาบดจูบฉัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชุดนอนที่ฉันใส่อยู่มันแซ่บขนาดไหน เพราะข้างในไม่ใส่อะไรเลยสักชิ้น มันง่าย ง่ายต่อการถอด ง่ายต่อการล้วง...
สัมผัสนุ่มนวลเริ่มรุกเร้ากาย จนฉันเคลิ้ม และผ่อนคลายกับสัมผัสเขา
อื้ม... ฉันกำลังจะถูกเขากินทั้งตัว...
ฉันกอดคอเขาแน่น ก่อนที่ร่างใหญ่จะเลื่อนลงไปชิมทุกส่วนของ
ร่างกายฉัน นิ้วเรียวเริ่มคลึงเบา ๆ กระตุ้นติ่งสวาท ก่อนจะสอดมันเข้ามาสลับกับลิ้นอุ่น มันกระตุ้นน้ำรักฉันกระตุกมาเป็นระรอก...
จนร่างบางฉันไม่รอช้า จับเขากดลงแนบชิดเตียง ก่อนจะระดมจูบแผ่นอกกว้างกำยำ ขาวเนียนนั้น... หัวใจเขาดัง ตึก ตึก ส่งเสียงให้ฉันได้ยิน
ฉันยิ้มและปลดกางเกงเขาออก ก่อนจะก้มลงไปทักทายมังกรใหญ่
แข็ง ๆ นั้น น้ำใส ๆ ติดอยู่ที่ปลายแดง... ฉันหยุดไม่ได้ที่จะใช้ลิ้นสัมผัสชิมรสชาติมัน
“อ่า เธอเซ็กซี่ จนฉันไม่ไหวแล้ว...” ฉันยิ้มชอบใจกับคำชมเขา มือเล็ก ๆ เริ่มรูดขึ้นลงให้รางวัล ปลุกให้มันแข็งผงาดยิ่งกว่าเดิม...
ฉันก้มลงอมมังกรตัวใหญ่ ใช้ลิ้นสัมผัสมันเบา ๆ จนเจ้าของมัน มีเสียงครางกระเสร่าออกมา...
“อ่า... อ่า” ฉันเหลือบมองใบหน้าหล่อ ๆ ของเขาเป็นระยะ ก่อนจะถอดมันออกจากปาก ใช้ลิ้นเลียไล่ตั้งแต่โคนถึงปลาย จนหยุดวนตวัด ชิมหัวแดงเนียน ๆ ของมัน เขาหอบหายใจถี่ ดันตัวขึ้นหวังจะลุกมากดฉันลงปลดปล่อย แต่ไม่เป็นผล ฉันดันเขานอนลงอีกครั้ง ก่อนจะเลียก้อนกลมสองก้อนในถุงรักของเขา
“ลูกชายของคุณอยู่ในนี้เหรอคะ” เจ้าของมันครางกระเสร่า
“อ่า... ณีเวีย ถ้าฉันหลุดไปได้ ฉันจะแทงเธอให้ยับ” เขากัดฟันตัวเกร็ง ขู่จะแทงฉันเสียให้ได้
“ฉันอยากถูกแทงใจจะขาด” ฉันหันไปส่งยิ้มหวานให้ เขาเหลือบมองก่อนจะเอื้อมมือมาจับผมฉัน..
“ถ้ารู้แบบนี้ ฉันจะหมั้นกับเธอตั้งแต่แรก อ่า...” เขาพูดเสียงแผ่ว
เคล้าเสียงครางเมื่อฉันเริ่มดูดมันอีก
“ทำไมคะ ชอบที่ฉันกินคุณแบบนี้เหรอ”
“เปล่า เพราะเธอเป็นเธอ...” ฉันอดยิ้มกับคำพูดหวาน เรียบ ๆ ของเขาไม่ได้... ฉันจึงเร่งจังหวะดูดมังกรตัวโตของเขาอีกครั้ง หวังจะให้รางวัล
“อ่า อ่า” เขากดหัวฉันตามจังหวะขึ้นลง ครั้นส่งเสียงครางกระเสร่าออกมา เสียงทุ้ม ๆ นั้นกระตุ้นฉันดี จนฉันรู้สึกอยากเม้มปากรัดแก่นกายใหญ่ หวังทรมานเขาขึ้นไปอีก
ตุบ ตุบ มังกรใหญ่พ่นน้ำอุ่นใส่ปากฉัน ฉันกลืนมันไปจนหมด ก่อนจะส่งสายตายั่วยวนชายผู้เป็นเจ้าของ
“ฉันกินลูกชายคุณลงท้องแล้วค่ะ”
เขาส่งยิ้ม ใจละลายให้ฉัน ก่อนจะกดฉันนอนลง
“ไม่เป็นไร ฉันมีเผื่อให้ลูกสาวเธอ”
เขาแอ่นกาย จับมังกรที่พึ่งพ่นพิษดันเข้ามาในรูสวาทฉัน มันแทรกน้ำสวาทในรูเข้ามาง่ายดาย เอวร่อนรับ... จนฉันอดกลั้นเสียงกระเสร่าไว้ไม่อยู่...
“อ๊ะ” ฉันเอานิ้วชี้ขึ้นมากัดเบา ๆ หวังบรรเทาความเสียว แต่ไม่ทัน
เอวหนากระแทกเข้ามา จนนิ้วชี้ต้านทานสัมผัสถี่นั้นไม่ไหว
อกใหญ่กระเพื่อมขึ้นลง ตามจังหวะ ‘ตับ ตับ ตับ’ ทำฉันเม้มปากหน้า
เหยเก เสียวซ่านอย่างทรมาน ก่อนมือใหญ่จะเอื้อมมาบีบมันเพื่อบรรเทาแรงสั่นกระแทกจากกายเขา มันกลับทรมานฉันหนักกว่าเดิม
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” ฉันเม้มปากไม่ไหว หลุดเสียงครางออกมา ให้คนตรงหว่างขาพอใจ จับฉันนอนตะแคง และสอดมันเข้ามาอีกครั้ง กลีบกุหลาบหนีบรัดมังกรจนแน่น เขาก้มลงมาหอมแก้มฉัน ที่โชกไปด้วยเหงื่อ ก่อนจะ...
‘ปึก ปึก ปึก’ จังหวะเอวถูกเร่งระรอกสุดท้าย มือใหญ่พลิกฉันนอนคว่ำ ฉันตั้งเข่าขึ้นแอ่นก้นงอน ๆ ตั้งรับมังกรตัวโปรดที่จะมุดเข้ามา
เอวหนาทรมานฉันอีกครา... หลังรูสวาทฉันดูดมังกรเขามิดด้าม
ตัวฉันสั่นรัว เสียวซ่านทุกจังหวะที่สะโพกตั้งรับ
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”
‘ครืน ครืน ครืน’ อยู่ ๆ มือถือฉันก็สั่นอยู่ข้าง ๆ น้ำหวานโทรมา นางคงถามเรื่องแหวน ฉันปัดทิ้ง ไม่อยากให้ใครมารบกวน...
‘ครืน ครืน ครืน’ มือถือฉันสั่นอีกครั้ง ฉันไม่รับเพราะเอวหนาของคนข้างหลังยังทำงานอยู่ เดี๋ยวค่อยโทรกลับ ขอปล่อยให้เอวหนานั้นจัดการฉันให้
เต็มที่ก่อน
“อ๊ะ อ๊ะ ไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้วจริง ๆ” ฉันกรีดร้องไม่เป็นภาษา
อยากถึงฝั่งสักที และมันก็ใกล้เข้ามาแล้ว เขาโน้มตัวกระแทกเข้ามาถี่ จนฉันกระตุก เสร็จไปพร้อมกับเขา
เรานอนเหนื่อยหอบ ข้าง ๆ กัน ก่อนที่เขาจะหอมแก้มฉัน และลุกไปหยิบน้ำมาให้ฉันกิน
‘ครืน ครืน~’ คราวนี้ไม่ใช่มือถือฉัน แต่เป็นของคุณเซ็น
“ว่าไงวะที” ฉันนอนมองเขาคุยโทรศัพท์ จนอยู่ ๆ เขาก็ต้องแสดงสีหน้าตกใจ หันมามองฉัน
“...” เกิดอะไรขึ้น ฉันยันตัวเองเดินไปใกล้ ๆ เขา
“น้ำหวาน... แย่แล้ว!”
ฉันรีบโดดขึ้นเตียง ขวานหามือถือก่อนจะรีบโทรกลับหาน้ำหวาน น้ำหวานไม่รับ ฉันจึงกดโทรใหม่อยู่อย่างนั้นหลาย ๆ ครั้ง
คุณเซ็นวางโทรศัพท์และเดินมาหาฉัน
“น้ำหวานจับได้ว่า ไอ้ที... พาผู้หญิงคนอื่นเข้าห้อง” ฉันหันไปมองตามเสียงคุณเซ็น
“แล้วตอนนี้น้ำหวานอยู่ไหนคะ ฉันโทรไม่รับเลย” คุณเซ็นถอนหายใจ
ยาว ๆ จับไหล่ฉัน
“น้ำหวาน กรีดข้อมือ ฆ่าตัวตาย”
“ไม่จริง... คุณอย่าโกหกฉัน ไม่จริงเพื่อนฉันไม่ใช่คนใจเสาะขนาดนั้น!” ฉันสั่นไปทั้งตัว รู้สึกเสียใจที่ปัดสายน้ำหวานทิ้งเมื่อกี้
“ตอนนี้น้ำหวานอยู่โรงพยาบาล รีบแต่งตัวไปกันเถอะ”
ฉันไม่รอช้าวิ่งไปใส่เสื้อผ้า คว้ากระเป๋าออกมา
คุณเซ็นบึ่งรถมาที่โรงพยาบาลตามที่พี่ทีบอกไว้... ฉันร้องไห้ไม่หยุด น้ำหวานไม่น่าทำแบบนี้ มันไม่ใช่น้ำหวานที่ฉันรู้จัก
พอมาถึง ฉันก็เห็นพี่ที ยืนร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน รวมถึงพ่อกับแม่น้ำหวานด้วย
“พ่อกับแม่คะ น้ำหวานเป็นไงบ้างคะ ฮือ ๆ” แม่น้ำหวานหันมากอด
ฉันทันที ก่อนจะปล่อยโฮ ออกมา
“หมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ แม่ไม่คิดเลยว่าน้ำหวานจะอ่อนแอ แบบนี้”
ฉันก็ไม่คิด... น้ำหวานเป็นสาวแกร่ง เข้มแข็ง ปกป้องฉันอยู่ตลอด
พี่ทียืนร้องไห้กับคุณเซ็น ฉันตัดสินใจเดินไปถามพี่ทีให้แน่ใจ ว่าเรื่องเกิดขึ้นได้ยังไง
“พี่ที... พี่ทำแบบนั้นกับน้ำหวานจริง ๆ เหรอคะ?” พี่ทีน้ำตาไหล สะอื้นไห้ต่อหน้าฉัน คุณเซ็นพยายามตบบ่าปลอบใจเพื่อนตัวเองอยู่ข้าง ๆ
“พี่ ไม่ได้ตั้งใจ... พี่เหมือนไม่มีสติ อยู่ ๆ พี่ก็ต้องการมาก และผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามา” ฉันเอามือป้องปากร้องไห้ออกมา สงสารน้ำหวานจับใจ!
“พี่ทีรู้มั้ย... มันรักพี่มาก น้ำหวานสาวเปรี้ยวแข็งแกร่งคนนั้น ถึงมันไม่ได้แสดงออกว่ามันอ่อนแอ แต่มันอ่อนแอมากนะพี่ ฉันเสียใจที่ไม่รับโทรศัพท์มัน
ฮือ… ถ้าฉันรับโทรศัพท์มัน ฉันอาจจะบึ่งรถไปตบผู้หญิงคนนั้นกับมันก็ได้!
อย่างน้อยมันก็ได้ปลดปล่อยความโกรธของมัน ไม่ต้องอึดอัดเก็บคนเดียวจนทำตัวเองแบบนี้”
“พี่ขอโทษ พี่ไม่ทำอีกแล้ว พี่พอแล้ว” พี่ทีสะอื้นหนักกว่าเดิมเมื่อฉันพูดถึงน้ำหวาน... แตงโมวิ่งเข้ามากอดฉันร้องไห้ พี่เอสเดินไปยืนข้างพี่ทีอีกคน ฉันไม่มีอารมณ์มาสงสัยเรื่องแตงโมกับพี่เอส ฉันเป็นห่วงแต่น้ำหวาน ห่วงจนไม่อยากคิดเรื่องอื่นแล้ว
“แก... ฉันลืมมือถือไว้ในรถพี่เอส ฉันโทรกลับหามันไม่ทันแก ฮือ” ฉันหันมองแตงโมที่น้ำตานองหน้าไม่ต่างจากฉัน... เราสองคนกอดกันแน่น ร้องไห้ใส่กันอยู่อย่างนั้น
“น้ำหวาน ถ้าแกหายฉันจะไม่ทะเลาะกับแกแล้ว... ฉันจะไม่ว่าแกแรดแล้ว ขอให้แกปลอดภัย”
“หมอออกมาแล้ว!” ทุกคนรีบวิ่งเข้าไปถามไถ่คุณหมอทันที
“เป็นยังไงบ้างคะ” คุณหมอไม่ตอบ แต่คุณหมอกวาดตามองหาอะไรสักอย่างอยู่
“ญาติชื่อณีเวียและแตงโม รบกวนเข้ามาข้างในหน่อยครับ ญาติคนอื่นรอด้านนอกนะครับ” แม่น้ำหวานหันมาจับมือฉันทันที
“แม่ฝากดูน้ำหวานด้วยนะลูก...” ฉันพยักหน้ากับแตงโมก่อนจะตามหมอเข้าไปข้างใน ซึ่งมีเตียงเตียงหนึงรูดม่านไว้อยู่ คุณหมอพยักหน้าให้ฉันเปิดมันออก
“น้ำหวาน!”
น้ำหวานนั่งหน้าสวย กดโทรศัพท์อยู่บนเตียง ตรงข้อมือมีผ้าพันแผล
พันอยู่... อะไรของมันวะ!
“อิเลว อะไรของมึงเนี่ย” แตงโมกอดอก บ่นน้ำหวานอย่างโมโห
“นี่แกด่าคนฆ่าตัวตายหมาด ๆ แบบนี้เหรอแตง ฉันป่วยอยู่นะ”
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่นั่งลงบนเตียงข้าง ๆ น้ำหวาน
“ทำไมทำแบบนี้ พี่ทีจะบ้าแล้ว พ่อแม่แกก็เสียใจ”
น้ำหวานยิ้มที่มุมปาก มองตาฉัน
“อยากให้พี่ทีจำ จำจนตายว่าไม่ควรนอกใจฉัน ฉันก็เลยแกล้งกรีด
ไม่ลึกแกล้งสลบ”
“กูไม่น่าเสียน้ำตาให้มึงเลย...”
ฉันผลักหัวน้ำหวานจนเซ และรีบเช็ดน้ำตาที่ติดอยู่ที่แก้ม
“แกอะ ไม่รับโทรศัพท์ฉัน ว่าจะให้มาช่วยจัดการมันซะหน่อย ดันไม่รับกันทั้งคู่ ไม่รู้ทำบ้าอะไรกันอยู่ ฉันก็เลยเลือกใช้วิธีฉัน~”
“คราวหน้าทำอีกนะ กว่าจะตายจริง” แตงโมยังด่าน้ำหวานไม่หยุด
“อย่ามาร้องไห้งอแงเหมือนวันนี้แล้วกัน” น้ำหวานเถียงแตงโมขึ้นมา
“วันนั้นกูจะหัวเราะ ปิดซอยจ้างโคโยตี้มาเต้นให้พี่ทีดู” น้ำหวานหน้าแดงแปร๊ด เหมือนจะกรี๊ดใส่แตงโม แต่ทำไม่ได้ มันโรงพยาบาล ฉันไม่สนใจสงครามขนาดย่อมของสองคนนี้ เลยจับข้อมือน้ำหวานขึ้นมาดูแผล
“แหวนสวยนะเพื่อนรัก”
น้ำหวานยิ้มสวยให้ฉัน เมื่อทะเลาะกับแตงโมเสร็จ
“พอเลย เอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อน แกจะโกหกต่องั้นเหรอ?”
น้ำหวานพยักหน้ารับ
“คงงั้น ฉันขอหมอนอนดูอาการคืนนึง ยังไงแกก็บอกทุกคนข้างนอกหน่อยแล้วกันว่าฉันปลอดภัยแล้ว” นี่ฉันต้องมาร่วมขบวนการโกหก กับน้ำหวานจริง ๆ เหรอเนี่ย
“มึงไม่นึกถึง อกพ่ออกแม่เลยรึไง” แตงโมยังกอดอก ด่าน้ำหวานไม่หยุด
“พ่อแม่ฉันรู้ ว่าแผลไม่ลึก แต่สองคนนี้ตื่นเต้นตลอดตอนเห็นเลือดฉันออก แล้วนี่แตง แกพูดไม่เพราะเลย กูมึงอยู่นั่นล่ะ เชอะ” แตงโมเบะปากหมั่นไส้ แตงโมห่วงน้ำหวานมาก ไม่แปลกที่มันจะเซ็งเมื่อน้ำหวานเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง
เราสองคนเดินออกมา แตงโมพยายามหยุดหน้าโมโหเอาไว้ กลัวพี่ทีจับได้
“เป็นยังไงบ้างน้อง?” พี่ทีวิ่งร้องไห้เข้ามาจับมือฉันกับแตงโมทันที ไม่ต้องบอกเลย สายตาพิฆาตสองคู่ข้างหลังจ้องจะกินหัวพี่ทีอยู่แล้ว
“มึงไม่ควรเอาโอกาสแบบนี้มาจับมือเมียคนอื่น”
คุณพระ แฟนใครกัน ทำไมดุจัง!