เช้าวันรุ่งขึ้นอี้เหรินรู้สึกตัวก็ต้องขัดเขินอยู่มาก ร่างกายเขามีท่อนแขนแข็งแรงโอบกอดไว้ อีกฝ่ายดูเหมือนจะหลับลึก ร่างบอบบางพยายามขยับตัวอย่างเบาที่สุด เขากลัวทำให้คนที่นอนซ้อนอยู่ด้านหลังรู้สึกตัว แต่ยามนี้ปลายแขนเสื้อข้างหนึ่งของเขาถูกกายแกร่งทับอยู่ เด็กน้อยหันไปมองเติ้งไห่หลงพร้อมพยายามดึงปลายแขนเสื้อ จากดึงเบาๆ ค่อยๆ แรงขึ้น หัวคิ้วเข้มขมวดน้อยๆ เปลือกตาที่ปิดสนิทกะพริบนิดๆ พอให้ลุ้นระทึก เติ้งไห่หลงช่างหล่อเหลา และงามสง่ายิ่งนัก มองแล้วใจอี้เหรินพลันสั่นสะท้าน เด็กหนุ่มรู้ว่าหากยังใกล้ชิดกันอยู่อย่างนี้ ย่อมเป็นเขาที่จะเผลอตัว เผลอใจคิดได้ดังนั้นมือเรียวจึงออกแรงมากกว่าเดิม ซึ่งคราวนี้มันได้ผล “อุ๊ย...ผู้น้อยไม่ได้ตั้งใจ” “ซุกซนเสียจริง...อาเหริน” เสียงทุ้มดังขึ้น ก่อนที่ร่างอี้เหรินจะถูกรั้งให้แผ่นหลังแนบชิดอกแกร่ง อี้เหรินดิ้นขลุกขลัก แต่ยังไม่อาจหลุดพ้นจากวงแขนกำยำของอ๋องแ