ตอนที 7
“แต่ว่า ก็มีบางคนเขาชอบเรียกผมว่าคุณเน.. หรือว่าคุณจะเรียกชื่อนี้ แต่ไอ้ชื่อเพราะๆแบบนี้ ผมว่าไม่ต้องเรียกหรอกนะ เพราะ ผมไม่ชอบฟังเลย มันดูขัดๆ ยังไงชอบกล อีกอย่างฟังแล้วมันหวานเกินไป มันไม่เข้ากับตัวผมเลย”
เขาสาธยายความเป็นตัวเองออกมาให้หล่อนทราบ
จากนั้นศีตะลาจึงเงยหน้าขึ้น และเป็นฝ่ายยิ้มหยัน
“ก็ใช่ซีนะคนอย่างคุณฉันว่าดูไปแล้ว มันก็คงเหมาะกับชื่อเถื่อนทมิฬหินชาติแล้วนี่ก็คงจะเถื่อนจริงๆล่ะอย่างที่คุณว่า ใครๆเขาชอบเรียก” ซึ่งเขาพยักหน้าที่หล่อนเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้ เหมือนว่าหล่อนพูดถูกใจ แต่ศีตะลานั้นแทบจะกลั้นลมหายใจ เพราะว่าหล่อนนั้นไม่อยากจะเสวนากับเขามากมายสักเท่าไหร่
“มันก็ถูกต้องอีกล่ะครับเพราะจะว่าไปแล้วผมนั้นมันก็ทั้งเถื่อนแล้วก็ทั้งถ่อยจริงๆ..ไม่ทราบว่ารสนิยมแบบนี้ เอ้อประเภทดุดันเหี้ยมเกรียมป่าเถื่อนซาดิสม์หน่อยๆ คุณชอบมั้ย แล้วก็ไม่แน่คุณนายอาจจะชอบมากที่สุดถ้าได้ชิมลิ้มลองแล้วอาจจะติดใจนายเถื่อนก็ได้” นี่ มาบ้าหยาบคายใส่หล่อน ทำให้หล่อนค่อนในใจ
จบคำนั้นศีตะลาแทบจะเสียงปรี๊ดเอาเรื่องทันที เมื่อเขาหยามหล่อน
“ว๊าย ฉันไม่ใช่คุณนายของใคร”
“เอก็มันก็ไม่แน่หรอก แล้วผมจะไปรู้ได้ยังไงครับคนสวย ว่าคนอย่างคุณนั้น ฮึ ไม่เคยผ่านอะไรมาเลย อาจจะย้อมแมวมาขายให้กับผมอีกที ท่าทางคุณคงจะผ่านอะไรมาก ยิ่งอยู่เมืองกรุงฟ้าอมรโน่นด้วยผมไม่ไว้ใจหรอก”
ศีตะลากัดฟันข่มตัวเองไว้
“แต่นายก็ไม่ควรที่จะมาดูถูกฉันผิดๆแบบนี้”
และหล่อนเอ่ยตอบโต้เพราะรู้สึกเดือดจัดในใจเหลือเกิน
แล้วนายเถื่อนคนนี้ เขายังตามมาเล่นเล่นลิ้นปะทะอารมณ์กับหล่อนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเข้มที่เหมือนตำหนิดุ และท้าทาย
“ฮึผมคิดว่าดูถูกดีกว่าดูผิดน่า”เสียงของเขาหยามเยาะ
ฮึนายบ้า มหาวายร้ายที่สุด.. ส่วนศีตะลานั้นแอบกระแทกเสียงค่อนในใจ
“เอาล่ะ คุณนาย..” เมื่อเขาเรียกหล่อนแบบนี้ หญิงสาวก็ขึ้นเสียงอีกครั้ง
“เอ๊ะก็ฉันบอกไม่ให้เรียกคุณนาย ไม่ได้ยินหรือยังไง แล้วชื่อของฉันก็มี” หล่อนต้องรีบกล่าวแก้ เพราะเขาจะเรียกชื่อหล่อนผิดๆ ในเรื่องที่หล่อนไม่พอใจ เพราะหล่อนไม่เคยเป็นคุณนายของใครมาก่อน แล้วนี่เขาจะมายัดเยียดให้หล่อนเป็น ศีตะลาก็ไม่ยอมรับ
“เอ้อ งั้นหรือครับ เอ ถ้าไม่ให้เรียกว่าคุณนายก็ได้ แล้ว เอ จะให้ผมเรียกชื่อคุณคนสวยว่ายังไงดีครับ”
เขาทำเสียงในลำคอเหมือนจะยั่วเย้ายวนยีใส่หล่อน เลยทำให้ศีตะลาคอแข็งขึ้นมาทันทีก่อนตอบ
“ฉันชื่อศีตะลา..หรือเรียกสั้นว่า ตะลาก็ได้”
“ก็ดีครับ ที่แนะนำให้รู้จัก ศีตะลา แต่ตอนนี้แขกเหรื่อ คงรอนานแล้ว เราอย่ามามัวพูดกันเล่นอยู่เลยเอ้อ ใกล้ถึงเวลาเต็มที่”
ฮึ แล้วนี่ ใครใช้ให้เขานั้นมาพูดเล่นกับหล่อนล่ะ ก็เขาเป็นฝ่ายเริ่มต้นเองต่างหาก หากแต่ศีตะลาฟังเขาต่อ ขอยอมรับว่า ในที่ต่างถิ่นเช่นนี้ มันทำให้หล่อนรู้สึกตื่นเต้นไปหมด
“พิธีการอยู่ที่โน้นหมดแล้วสถานที่ญาติผู้ใหญ่ของผม..ทั้งฝ่ายผมแล้วก็ฝ่ายของคุณด้วยเพราะรู้ไหมว่าวันนี้เป็นวันที่ผมกับคุณได้ตกลงเป็นผัวเป็นเมียกัน..แต่ไม่ได้จดทะเบียนเพราะไม่ได้ยินยอมพร้อมใจกัน ก็แค่รับรู้กับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเท่านั้น เพราะเนื่องจากว่า คุณต้องทำตามสัญญา ที่พ่อของคุณทำไว้กับผม และอีกอย่าง การเป็นเมียครั้งนี้ของคุณ มันไม่ได้เป็นความพึงพอใจของผม ”
คงจะพูดง่ายๆว่าหล่อนเป็นนางบำเรอของเขานะสิ และศีตะลาพอที่จะอ่านรู้ทัน ก่อนที่เขาจะกระแทกฝีเท้าเดินจากไป
แล้วจากนั้นศีตะลาทั้งรู้สึกหงุดหงิดทั้งคับแค้นใจ อึดอัด..หล่อนระเบิดเสียงออกมาตามหลัง “บ้า..บ้าที่สุดนายเถื่อนมหาวายร้ายคอยดูนะฉันจะกระชากหน้ากากเลวๆของนายออกมาให้หมด ไอ้คนเลว..” ก่อนจะเดินตามเขาไปด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง เหมือนหล่อนเป็นผู้หญิงที่ถูกยัดเยียดให้เขามากกว่า
และเมื่อเข้ามาถึงแล้วศีตะลาถึงกับชำเลืองมองผ่านคุณพิมานกับกัณทิชาด้วยสายตาที่รู้สึกหมางเมิน..เย็นชาในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ที่หล่อนกระโจนเข้ามาในนี้ ก็เพื่อการแก้แค้นเท่านั้น
มองเห็นความขมขื่นที่ก่อรัดในตัวและหัวใจของหญิงสาว หล่อนซ่อนเก็บมันไว้อย่างมิดชิด หล่อนจะอ่อนแอไม่ได้ ถึงแม้ศีตะลาจะยินยอมรับ และพอเอาเข้าจริงแล้ว ถึงแม้คุณพิมานกับกัณทิชา ไม่คิดจะดูดำดูดีหล่อนสักเท่าไรก็ตาม..มันตรงกับที่หล่อนคาดการเอาไว้ว่า มันควรเป็นอย่างนั้นด้วยซ้ำ
และออกมาในรูปแบบนี้นั่นเองในแบบผู้หญิงที่ไม่มีเกียรติยศอะไรเลย นอกจากคำครหาทีให้เขาเหยียบย่ำ คงไม่เป็นไรหรอกน่า คนเก่ง แสนฉลาดอย่างศีตะลาซะอย่าง ใครจะมาทำอะไรหล่อนได้ ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ก็ไม่กล้าตัดสินใจมาหรอก ตอนนี้หล่อนก็เหมือนกับนกน้อยที่หลุดจากกรงทองที่แสนคับแค้นใจนั่นแล้ว ถือว่าก็อยู่กันไป ในฐานะเมียจอมปลอมของเขาไปก่อนก็แล้วกัน..หากมีโอกาสนั้นศีตะลาคิดว่าจะหาทางหลบหนีอย่างแน่นอน ถ้าที่นี่ไม่ให้ความสุขแก่หล่อน หากถ้าเขาป่าเถื่อนและกระทำทารุณและโหดร้าย
เธอเป็นลูกไก่ในอุ้งกำมือของเขา..ซึ่งเขาบีบหล่อนก็ตายคลายหล่อนก็จะรอด ฉะนั้นเมื่ออยู่กันไป ก็ต้องใช้เหลี่ยมเล่ห์คูกับเขา
ศีตะลาคิดแบบหมายมาดยิ้มเยาะ..คิดหรือว่าหล่อนจะยอมเป็นหมูให้ใครเชือดได้ง่าย..การที่หล่อนพาตัวเองมาเผชิญมาที่นี่ เพื่อที่จะกระชากหน้ากากของคนที่ทำร้ายบิดาของหล่อน เช่นเขา ที่ทำร้ายบิดาและมารดาของหล่อนอย่างโหดเหี้ยมก็ตาม ศีตะลาคิดว่าคนอย่างนายเถื่อน..หรือนายฆเนศวรจะต้องรับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างแน่นอน.. เพราะหลักฐานอยู่ที่นี่
****************************************
เมื่อหล่อนได้พบกับมุกล้อมอีกครั้ง เมื่อครู่นี้แหม หล่อนลืมถามเหมือนกันว่า มุกล้อมออกไปเดินเล่นแถวไหน หากสีหน้าของมุกล้อมที่เงยมองมายังเธอนั้นกลับเต็มไปด้วยแววตาสมเพช..ระคนสงสารเจืออยู่ “ศีตะลาฉันขอตัวก่อนนะขอไปพักก่อน..เหนื่อยจัง.. แล้วเธอล่ะหวังว่าเธอคงยอมรับได้กับชีวิตที่ถูกขีดขึ้นเพราะดูแล้วมันไม่มีทางอื่นเลย”