“เดี๋ยวก่อนสิโบว์”
ไม่พูดเปล่าแต่ทศพลยังยึดข้อมือบางไว้แน่น
“อ๊ะ! จะทำอะไรคะพี่ทศ ปล่อยมือโบว์นะ นี่มันในที่ทำงานนะคะ”
“พี่ชอบโบว์” ทศพลบอกเสียงแปร่งปร่าอย่างคนกลัดมัน ดวงตาวาววับโลมเลีย
ทศพลเฝ้ารอเวลานี้มานาน เมื่อเห็นว่าพุดมาลัยจะกลับมาที่นี่คนเดียว เขาจึงวาดแผนการในหัวทันที ไม่มีครั้งไหนจะสบโอกาสได้เท่าครั้งนี้ พุดมาลัยไม่เคยเปิดโอกาสให้เขาอยู่ตามลำพังด้วยเลย เขาลุ้นแทบตายตอนที่พุดมาลัยยอมตกปากรับคำมากับเขา ฉะนั้นเขาไม่มีทางพลาดโอกาสดีๆเช่นตอนนี้แน่
ทศพลดึงตัวพุดมาลัยมาระดมจูบ ทว่าพุดมาลัยไวกว่าเบี่ยงหลบได้ทัน ก่อนจะถูกยึดไหล่ให้ตรึงอยู่กับที่ ด้วยได้เปรียบทางด้านสรีระ ทศพลล็อกตัวพุดมาลัยไว้ทั้งสองมือแล้วรีบฉกวูบลงไปหมายจะบดจูบ เป็นจังหวะเดียวกับที่เฟอนันเดสเดินมาเห็นเข้าพอดี
ดวงตาสีบรั่นดีมองด้วยสายตาไม่พอใจ สองคนนั้นเป็นใครและเข้ามาในศูนย์การค้ายามวิกาลได้อย่างไร พนักงานรักษาความปลอดภัยหายหัวไปไหนกันหมดปล่อยให้ใครไม่รู้เข้ามาทำอะไรกันในศูนย์การค้าของเขา เฟอนันเดสกำลังโทรเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยให้มานำตัวไปแจ้งความข้อหาบุกรุก แต่ใบหน้าสวยจัดที่ตามก่อกวนความรู้สึกมาตลอดก็หันมาพอดี เขาจำใบหน้าสวยจัดของพุดมาลัยได้
พุดมาลัยนั่นเอง เฟอนันเดสเพ่งมอง หญิงสาวที่ดูอ่อนหวาน แต่กลับทำตัวไวไฟเร่าร้อนกับผู้ชายในสถานที่ที่ไม่สมควรเช่นที่ทำงานแบบนี้ พวกนั้นทำกันได้อย่างไร เขามองเห็นใบหน้าของคนทั้งคู่ชัดเจนก่อนจะหมุนตัวกลับไปพร้อมกับโทรเรียกให้คาร์เตอร์สั่งงานกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยให้มาเชิญสองคนนั้นออกไปก่อนที่เขาจะโมโหแล้วส่งไปสถานีตำรวจแทนโดยไม่ทันเห็นเหตุการณ์ต่อจากนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น
พุดมาลัยตบหน้าของทศพลอย่างแรง หลังจากที่อีกฝ่ายยังตัวงอเป็นกุ้งเพราะพุดมาลัยเตะผ่าหมากได้ทันก่อนที่จะถูกลวนลาม แก้มของทศพลขึ้นรอยแดงนูนเป็นรูปมือ ใบหน้าบิดเบ้น่ารังเกียจจากการที่กล่องดวงใจถูกกระทุ้งอย่างแรง สภาพตอนนี้ของทศพลดูไม่จืด
“อย่าทำแบบนี้กับโบว์อีก ครั้งนี้โบว์จะไม่แจ้งความเพราะเห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนร่วมงานแต่ถ้ามีครั้งหน้าโบว์จะแจ้งความเอาเรื่องทันที”
พุดมาลัยบอกจบก็สะบัดหน้าเดินจากไป ทิ้งให้ทศพลยืนมองใบหน้าแดงก่ำ “มันไม่จบง่ายๆแค่นี้หรอกพุดมาลัย”ทศพลคำราม เดินออกไปจากศูนย์การค้าให้เร็วที่สุด ส่วนพุดมาลัยนั้นเมื่อออกจากศูนย์การค้ามาได้ก็รีบโทรบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ดาริการู้ทันที อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็หมดสนุกรีบออกจากผับที่กำลังแดนซ์กระจายนั่งรถแท็กซี่มารับเพื่อนแล้วพุดมาลัยก็กลับไปค้างที่อพาร์ตเม้นต์ของดาริกาเพราะไม่อยากกลับบ้านตอนนี้เพราะกลัวมารดาจะซักถาม
ตื่นเช้ามา พุดมาลัยไม่มีเวลามานั่งเสียใจกับคนเลวๆอย่างทศพลอีก พุดมาลัยบอกกับดาริกาว่าเธอไม่สนใจทศพลว่าจะหาทางกลั่นแกล้งคืนหรือเปล่าจากที่เธอทำร้ายร่างกายเขาไว้ ดาริกาเตือนด้วยความเป็นห่วงให้เธอระวังตัว ก่อนทั้งคู่จะรีบอาบน้ำแต่งตัวมาทำงานตามปกติในตอนเช้า
โดยก่อนออกมาพุดมาลัยโทรหามารดาเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเป็นห่วง
“เมื่อคืนแม่ก็ไม่ได้กลับบ้านเหมือนกัน ถ้าค้างกับยัยดาก็ไม่เป็นไร ว่าแต่โบว์มีเงินให้แม่ยืมสักสองพันไหม”
“แม่” พุดมาลัยคราง เข่าอ่อนยวบเพราะเงินที่มารดาขอคือเงินที่เธอมีติดตัวอยู่
“ว่าไงล่ะ อย่าชักช้าอมพะนำ มีหรือไม่มี”
“โบว์เหลืออยู่สองพันต้องใช้อีกตั้งอาทิตย์นะแม่”
“เออ นั่นแหละ เอามาให้แม่ให้หมด โอนมาก็ได้ แม่ต้องใช้ตอนนี้”
“แต่โบว์ไม่เหลือเลยนะแม่”
“ไม่รู้ล่ะ แกต้องหามาให้แม่แล้วกัน ถ้าไม่อยากเป็นลูกอกตัญญูทำให้แม่เส้นเลือดในสมองแตกตาย”
คำขู่นี้ใช้ได้ผลเหมือนกับทุกครั้ง พุดมาลัยรับปากทั้งน้ำตาคลอ มารดาไม่เคยห่วงเธอเลยว่าจะกลับบ้านหรือไม่กลับบ้านอย่างที่ดาริกาว่า มารดาต้องการให้เธอหาเงินเพื่อไปถลุงในบ่อนเท่านั้น
“โบว์จะโอนไปให้นะจ๊ะ” มารดาได้ยินดังนั้นก็วางสายไปโดยไม่ถามอะไรอีก หัวใจของพุดมาลัยห่อเหี่ยวบอกไม่ถูกได้แต่ย้ำกับตัวเองว่าเย็นนี้กลับไปเธอจะต้องคุยกับมารดาให้เลิกเล่นการพนันให้ได้เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้
พุดมาลัยโอนเงินให้มารดาก่อนจะเข้าทำงาน ร่างบอบบางกำลังจะเดินกลับไปประจำเครื่องแคชเชียร์ที่แผนกสุราก็ถูกดาริกาดึงมือไปดูประกาศที่ออกมาติดบอร์ดวันนี้ ในประกาศบอกว่า ห้ามไม่ให้พนักงานคนใดกลับเข้ามาภายในศูนย์การค้าหลังจากเลิกงานไปแล้ว นอกจากมีเหตุอันสมควรซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าแผนกของตนเสียก่อน
ประกาศนั้นทำให้พนักงานที่ยืนอ่านอยู่มองหน้ากันอย่างสงสัย ว่าทำไม มีอะไรเกิดขึ้น เหตุใดถึงออกประกาศฉบับนี้มาเพราะปกติก็ไม่มีใครกลับเข้ามาอยู่แล้ว มีเพียงแต่พุดมาลัยและดาริกาเท่านั้นที่รู้
“ไม่รู้มีอะไรเกิดขึ้นนะเธอ ฝ่ายบุคคลถึงได้ออกประกาศนี้มา” เสียงพนักงานสาวๆซุบซิบกัน
พุดมาลัยได้ยิน รู้สึกขนคอเย็นเฉียบ หนาวไปทั่วสันหลังกลัวว่ามีคนในบริษัทฯรู้เรื่องเธอ แต่นั่นยังไม่เท่ากับเสียงของทศพลที่ดังขึ้นข้างหลัง
“เย็นนี้อยู่เช็คสต็อกด้วยนะโบว์ พี่บอกกับหัวหน้าโบว์แล้ว เพราะสินค้าไม่ตรงกับรายงานหลายตัว โดยเฉพาะพวกเหล้านอกที่หายไป ไม่รู้หายได้ยังไงหรือมีใครยักยอกหรือเปล่า” ทศพลใช้น้ำเสียงข่มขู่ทำให้พุดมาลัยฟังแล้วตัวเกร็งขึ้นด้วยความโมโหก่อนจะตอกกลับอีกฝ่าย
“ไม่ใช่หน้าที่ของโบว์ เป็นหน้าที่ของพี่ทศไม่ใช่เหรอคะที่ต้องตรวจนับสต็อค”
“ใช่ค่ะ พี่อย่ามาใช้โบว์มั่วๆนะ” ดาริกาเสริม
“ไม่ใช่เรื่องของเธอนะดาริกาอย่ามายุ่ง เธออยู่แผนกไหน อย่ามาวุ่นวายที่นี่” ทศพลว่าเสียงเข้ม ตั้งใจแกล้งพุดมาลัยเพราะยังเจ็บใจเรื่องเมื่อคืนไม่หาย แต่อีกฝ่ายก็เถียงกลับเร็วอย่างไม่กลัวเกรง
“ดาไม่ยุ่งไม่ได้หรอก เพราะดาผิดที่ไม่น่าชวนโบว์ไปงานวันเกิดพี่ทศ ดาไว้ใจพี่ทศนะ แต่คิดไม่ถึงว่าพี่ทศจะเลวมากคิดทำร้ายโบว์ ดาไม่น่ามองพี่ผิดเลย”
“ดา พอเถอะ” พุดมาลัยห้ามเพราะไม่อยากคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีก เธอรู้สึกขยะแขยงทศพลที่สุด
“ไม่เห็นต้องกลัวเลย เราพูดความจริง เหตุการณ์เมื่อคืนไปเปิดดูกล้องวงจรปิดก็รู้แล้ว”
ทศพลหน้าซีดเผือด อยากจะสวนดาริกากลับแต่กลัวตกงานเพราะหากเปิดกล้องดูจริงๆจะรู้ว่าพุดมาลัยขัดขืนในขณะที่เขาพยายามใช้กำลังปลุกปล้ำ ตอนนั้นเขาหน้ามืดเลยลืมเรื่องกล้องวงจรปิดไป ทศพลเลยไม่โต้เถียง ได้แต่มองด้วยดวงตาวาววับโกรธจัด เจ็บตัวและยังเจ็บใจที่ทำอะไรดาริกาไม่ได้ถนัดนัก
“ช่วยไม่ได้นะดาริกา ถ้าเธอไม่อยากเที่ยวจนลืมเป็นห่วงเพื่อนก็คงไม่เกิดเรื่อง”
“ทำผิดแล้วยังไม่ยอมรับผิดอีก” ดาริกาตวาดอย่างเหลืออดปรี่เข้าไปจะถามให้รู้เรื่องแต่พุดมาลัยดึงตัวไว้
“คนมองกันหมดแล้วพอเถอะดา” พุดมาลัยปรามเพื่อน “พี่ทศเราต่างคนต่างอยู่กันดีกว่านะคะ พี่ทำอะไรไว้ก็น่าจะรู้แก่ใจ อย่ามายุ่งกับโบว์กับดาอีกดีกว่า”