วุ่นวายอยู่กับการแกะเสื้อออกจากข้อมือของเด็กน้อยอยู่พักใหญ่ในที่สุดหลี่หยุนก็ทำได้สำเร็จ ชายชราดันร่างเล็กของเด็กชายขึ้นขี่หลังตนเองเพื่อให้ศีรษะของหลี่หลงหยางอยู่เหนือน้ำเอาไว้ตลอดเวลา จากนั้นก็ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง
ในเวลาเดียวกันหลี่หยวนอิง หลี่เนี่ยหรานและหญิงสาวที่วิ่งไปขอความช่วยเหลือก็มาถึงริมน้ำบริเวณที่คนทั้งสองอยู่ เมื่อเห็นว่าบิดาของตนเองถึงกับลงน้ำไปช่วยหลานชายด้วยตนเองหลี่หยวนอิงก็เริ่มร้อนใจเพราะหลี่หยุนอายุมากแล้ว ต้องพยุงร่างในน้ำทั้งที่บนหลังยังมีเด็กเกาะอยู่อีกคนหนึ่ง นางจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือ
"ท่านพ่อ ส่งเด็กนั่นมาก่อน" หลี่หยวนอิงเอื้อมมือข้างหนึ่งออกไปรอรับร่างของหลี่หลงหยาง โดยที่มืออีกข้างหนึ่งมีหลี่เนี่ยหรานช่วยดึงยึดเอาไว้ไม่ให้ตกน้ำไปอีกคน นางไม่ได้ห่วงเด็กชายสักนิดแต่ถึงอย่างไรก็คงจะดึงร่างของบิดาทั้งที่ยังแบกเด็กชายไว้ข้างหลังไม่ไหวเป็นแน่ จึงจำเป็นต้องรับร่างของหลี่หลงหยางขึ้นมาเสียก่อน
แม้ว่าหลี่หลงหยางจะตัวเล็ก แต่การรับร่างเด็กชายวัย 5 ขวบไว้ด้วยมือเดียวก็ไม่สามารถทำได้โดยสะดวก สตรีสามคนจึงต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือดึงร่างของหลี่หลงหยางขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ หลี่เนี่ยหรานที่ยืนอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่สุดอุ้มเด็กเอาไว้เป็นคนสุดท้าย จากนั้นก็วางเขาลงกับพื้นดินโดยไม่สนใจสักนิดว่าเด็กชายยังมีลมหายใจหรือบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่
"ท่านพ่อส่งมือมาเร็ว อยู่ในน้ำนานๆ ท่านจะป่วยเอาได้" หลี่หยวนอิงรีบหันไปให้ความช่วยเหลือบิดาต่อทันที
เสื้อผ้าที่เปียกชุ่มทำให้หลี่หยุนต้องรับน้ำหนักและขยับร่างกายได้ช้าลงกว่าเดิม กอปรกับเขาวิ่งมาตลอดทางอย่างร้อนใจและยังมาใช้แรงว่ายต้านกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวอยู่อีกนานเวลานี้ชายชราก็เกิดหมดแรงขึ้นมาฉับพลัน
"ท่านพ่อ!!" หลี่หยวนอิงและหลี่เนี่ยหรานมองเห็นบิดาหงายหลังกลับลงไปในน้ำและถูกกระแสน้ำพัดไปต่อหน้าต่อตา ทั้งสองคนไม่ได้นิ่งนอนใจรีบกระโดดตามร่างของหลี่หยุนไปทันที แต่ลำธารแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกบนภูเขา จึงค่อนข้างมีกระแสน้ำแรงพอสมควรทำให้ร่างของหลี่หยุนที่หมดสติไปแล้วถูกพัดลอยห่างจากหญิงสาวทั้งสองไกลออกไปทุกที
"ช่วยด้วย!! ท่านพ่อข้าจมน้ำ" หลี่หยวนอิงรีบตะโกนขอความช่วยเหลือ เมื่อเห็นว่าข้างหน้ามีกลุ่มคนที่ออกมาหาของป่าเดินอยู่ใกล้ลำธาร
บุรุษสองคนในกลุ่มได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ พอหันมองตามเสียงมาก็ได้เห็นหลี่หยวนอิงกำลังชี้ไม้ชี้มือไปในน้ำเบื้องหน้านาง เวลานี้พวกเขาจึงได้เห็นร่างของหลี่หยุนถูกกระแสน้ำพัดผ่านกลุ่มของเขาไป ทั้งสองจึงรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อจะไปดักรอรับร่างของชายชราเอาไว้
แต่ทั้งคู่ยังไม่ทันจะวิ่งแซงหลี่หยุนได้ ภายในลำธารข้างหน้าเป็นโขดหินใหญ่กลุ่มหนึ่ง ร่างของหลี่หยุนลอยไปกระแทกเข้ากับก้อนหินอย่างแรงแล้วหยุดที่ตรงนั้น ทำให้บุรุษสองคนที่วิ่งตามมาสามารถหาทางเหยียบก้อนหินลงไปช่วยกันแบกร่างของชายชราขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จ
ชายหนุ่มคนหนึ่งใช้มืออังไปที่จมูกของหลี่หยุน เขาหันมาสบตากับสหายแล้วส่ายหน้า
"ไม่ทันแล้ว ไม่รู้ว่าลุงหลี่เสียชีวิตจากการจมน้ำหรือเป็นเพราะกระแทกกับก้อนหิน แต่อย่างไรก็หมดหนทางรอดแล้วล่ะ" ชายหนุ่มนามว่าจงโหวกล่าวกับสหายของเขา
หลี่หยวนอิงกับหลี่เนี่ยหรานยังมีสติดีและว่ายน้ำเป็น ทั้งสองจึงต้านกระแสน้ำเพื่อชะลอความเร็วและไม่ได้กระแทกเข้ากับโขดหิน พวกนางค่อยๆ ปีนก้อนหินขึ้นมาจากน้ำและรีบมาจับร่างของบิดา ส่วนหญิงสาวที่วิ่งตามมาอีกคนก็มาถึงพร้อมกับชายชราอีกสองคนที่ออกมาหาของป่ากับบุรุษหนุ่มทั้งสอง
"ท่านพ่อๆ " หลี่หยวนอิงพยายามเขย่าตัวดึงร่างของหลี่หยุนให้ลุกขึ้น
"ไม่ทันแล้ว บิดาเจ้าเสียชีวิตไปแล้วล่ะ เจ้าสามคนเฝ้าเขาอยู่ที่นี่ก่อนเดี๋ยวพวกเรารีบกลับไปตามคนมาช่วย เราต้องรีบฝังศพเขาไม่เช่นนั้นร่างเขาอาจจะดึงดูดสัตว์ป่าที่ดุร้ายเข้ามาบริเวณนี้" จงโหวชายหนุ่มที่ลงไปแบกร่างหลี่หยุนขึ้นมากล่าว และหันไปซักถามถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ก่อนจะชักชวนบุรุษในกลุ่มของเขาให้กลับไปที่พักพร้อมกันเพราะพวกเขายังมีสัมภาระในมือจึงคิดจะเอาของไปเก็บก่อน
หลี่หยวนอิงถอยหลังออกมาจากร่างของหลี่หยุนเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าบิดาได้เสียชีวิตไปแล้ว แม้ว่านางและหลี่เนี่ยหรานจะรู้สึกเสียใจแต่การสัมผัสกับศพก็ไม่เป็นเรื่องดีนัก ทั้งคู่จึงได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ใกล้กับร่างของหลี่หยุนโดยมีสตรีอีกคนคอยปลอบใจอยู่ไม่ห่าง
..........
"แค่กๆ" หลี่หลงหยางสำลักน้ำออกมาคำหนึ่งและไออย่างต่อเนื่องอีกพักใหญ่ เขาอดอาหารยืนตากแดดอยู่ในน้ำตลอดทั้งวันจึงเป็นลมหมดสติไป จากนั้นตัวเองก็ไม่รับรู้สิ่งใดอีก เวลานี้เด็กน้อยยังรู้สึกงุนงงว่าตนเองมานอนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร เขาลุกขึ้นนั่งและหันไปมองรอบตัวเพื่อมองหาคนอื่น ๆ แต่สถานที่แห่งนี้กลับไม่คุ้นตา เด็กชายเริ่มหวาดกลัวจนตัวสั่นแต่ทันใดเขาก็มองเห็นกลุ่มของจงโหวเดินย้อนกลับมาเข้าพอดี
"เจ้ามันตัวหายนะจริงๆ ยังไม่ตายอีกหรือนี่" จงโหวร้องทักเด็กชาย เมื่อครู่เขาได้ยินหลี่เนี่ยหรานเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้ฟังแล้วถึงสาเหตุที่ชายชราลงมาในลำธารจนเกิดเหตุร้ายขึ้นมา
"ปู่เจ้าลงไปช่วยเจ้า เขาถึงได้จมน้ำตายอยู่ทางนั้น ตัวหายนะ!!" จงโหวสบถทิ้งท้ายชี้มือไปทางที่หลี่หยุนนอนเสียชีวิตอยู่ ก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่สนใจใยดีเด็กชายที่กำลังเสียขวัญอย่างหนัก
หลี่หลงหยางได้ยินคำกล่าวของจงโหวชัดเจนเต็มสองหู บัดนี้เขาจึงพอจะเข้าใจแล้วว่าตนเองคงจะจมน้ำไปแล้วท่านปู่ลงไปช่วย จากนั้นท่านปู่ก็จมน้ำตายใช่หรือไม่?
ร่างเล็กหดขาเข้ามาจนชิดอกแล้วกอดตัวร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว เด็กชายพยายามมองหาท่านปู่ของเขาเมื่อคิดถึงว่าหลี่หยุนเสี่ยงชีวิตไปช่วยเหลือตนเองเด็กชายก็มีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง ลุกขึ้นยืนและเดินย้อนตามทางที่เห็นจงโหวชี้มือไปทางนั้น
"แงๆ ท่านปู่" เด็กน้อยกระโจนเข้าใส่ร่างของหลี่หยุนทันทีเมื่อเข้ามาใกล้ร่างของชายชรา
"ไอ้เด็กเลว ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ" หลี่เนี่ยหรานกระชากแขนของหลี่หลงหยางเหวี่ยงออกไปอย่างแรงด้วยความโมโห นางไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำว่าบัดนี้หลานชายของตนยินยอมที่จะเปล่งเสียงพูดออกมาแล้ว
"ท่านปู่ แงๆ" เด็กน้อยร้องไห้เสียงดังโหยหวนราวกับว่าจะขาดใจ แม้จะถูกหลี่หยวนอิงและหลี่เนี่ยหรานผลักไสจนล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้งเขาก็ไม่หยุด ลุกขึ้นวิ่งเข้าหาร่างของหลี่หยุนอย่างต่อเนื่องหมายจะกอดร่างชายชราเอาไว้ให้ได้
"เฮือก!!" เสียงการสูดลมหายใจเข้าปอดครั้งใหญ่ดังออกมาจากทางด้านหลังของหลี่หยวนอิงและหลี่เนี่ยหราน เป็นเหตุให้คนทั้งสี่หยุดชะงักการกระทำทั้งหมดและหันไปมองร่างผอมแห้งของชายชราที่เป็นต้นเหตุของเสียงเมื่อครู่
หลี่ต้งหมิงถูกดูดเข้าไปในแกนกลางของพายุ กระแสลมที่แรงจัดทำให้ชายชรารู้สึกอึดอัดคล้ายว่าร่างทั้งร่างกำลังถูกบดขยี้อย่างรุนแรง จนเขาเผลอสูดลมหายใจเข้าแรงๆ ครั้งหนึ่งอย่างลืมตัวว่าตนเองไม่มีลมหายใจเหลืออยู่แล้ว
แต่เมื่อรู้สึกว่ารอบกายไม่ได้มีกระแสลมอีกทั้งการสูดหายใจเมื่อครู่กลับเหมือนว่าเขามีลมหายใจขึ้นมาอีกครั้ง หลี่ต้งหมิงจึงลืมตาโพลงขึ้นมาเพื่อสำรวจความผิดปกติรอบกาย สายตาของเขาเห็นสตรีสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ตนก่อนเป็นอันดับแรก ด้านหลังของสตรีสองคนนี้มีสตรีอีกคนหนึ่งคล้ายว่ากำลังฉุดกระชากมือของสตรีอีกคนที่ยืนใกล้เขาไว้
คนสุดท้ายที่ส่งเสียงร้องไห้จ้ากลับเป็นเด็กน้อยร่างเล็กราวเด็กวัย 3 ขวบปี หลี่ต้งหมิงตกใจจนรีบลุกขึ้นนั่งหันมองใบหน้าคุ้นตาของคนสามคนอีกหลายรอบ
ภาพฉายในพายุที่เขาดูซ้ำไปมาจนจดจำได้หลายเหตุการณ์ปรากฏใบหน้าของคนสามคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าหลี่ต้งหมิงในเวลานี้ ทำให้ชายชราจดจำได้ในทันที ว่าสตรีสองคนคือบุตรสาวสายเลือดสกุลหลี่ที่ถูกเนรเทศออกมา ดังนั้นเด็กชายตัวน้อยที่เขาเห็นย่อมเป็นหลี่หลงหยาง เด็กชายปริศนาที่หายไปจากบันทึกสายตระกูลของสกุลหลี่!!