13

1182 คำ
“หกเดือนเองค่ะนายผู้หญิง” “เรียกหนูดีก็ได้นะ อย่าเรียกนายเลย...หกเดือนเองหรือ กว่าจะเก้าเดือนจะไม่ใหญ่จนเดินไม่ได้หรือเนี่ย” “ฉันก็กลัวจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ พี่เษมแกก็ห่วงเหมือนนายผู้หญิงเลยค่ะ” “แล้วในนี้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายน้อ” อรนลินถามเย้ายิ้ม ๆ อย่างผูกมิตร “ผู้ชายค่ะ” ว่าที่คุณแม่ตอบอย่างภูมิใจ “...กว่าจะท้องนี่ยากไหม” “แหม...นายคะ ไอ้จะว่ายากมันก็ไม่ยากหรอกนา แต่มันก็ไม่ได้ง่าย ๆ” สรุปว่ายังไงเนี่ย อรนลินหน้ายุ่ง ถามต่อไปว่า “แล้วทำยังไงถึงจะได้ผู้ชาย” “นายมาพอดีเลยจ้ะ” จุติเดินออกมาจากฟาร์มเลี้ยง มุ่งหน้าไปอีกทาง ถ้าไม่เพราะเห็นเธอก่อน เขาคงเดินเลยไปแล้ว แล้วเปลี่ยนจุดหมายเดินตรงมาที่เธอที่นั่งอยู่กับหญิงท้องโต “มาทำอะไร” เขาถามราบเรียบติดเฉยเมย “คุณไม่กลับบ้าน พี่จิลลาเลยให้เอาข้าวมาให้ค่ะ” จุติชะเง้อคอไปมองนาฬิกาแขวนในฟาร์มเลี้ยง เห็นว่าใกล้เที่ยงเข้าไปทุกที เลยบอกขึ้นด้วยท่าทีเฉกเช่นเดิม “อยู่กินด้วยกันสิ” “คะ?” “กินข้าวด้วยกัน จะได้หิ้วกลับไปด้วยเลย” เขาบอกจบ หันไปคุยกับคนงาน แล้วเดินนำเธอเข้าไปด้านใน ตรงไปยังห้องห้องหนึ่งที่มีโต๊ะวางอยู่ตรงกลาง หน้าต่างมีรอบทั้งสี่ด้าน จุติเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท แล้วถึงเปิดพัดลมโกรก ค่อยเดินไปล้างมือที่อ่างใกล้ ๆ ตรงนั้น ถามทั้งที่ยังหันหลังล้างมืออยู่ “มีอะไรกินบ้าง” อรนลินมองแผ่นหลังของเขาที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ดึงเอากล่องออกมาจากถุงทีละใบ เปิดฝาออก ตอบเขาไปว่า “มียำปลาสลิดค่ะ ต้มข่าไก่ ผัดคะแหนงน้ำมันหอย แล้วก็...อะไรเนี่ย” อรนลินเขย่ากล่องที่เปิดฝาแล้วแต่มองไม่ออก ก้มลงไปมองใกล้ พอได้กลิ่นก็บอกเขาไป “กระเทียมโทนดองมั้งคะ” บอกจบก็เงยหน้าขึ้นมา เห็นเขายืนจ้องเธออยู่ พลันประหม่าอย่างบอกไม่ถูก “มีแต่ของโด๊ปทั้งนั้นเลยนี่นา” คราวนี้ใบหน้าของเธอซับสีเลือดเพิ่มมากขึ้น ทำเป็นเมินไปทางอื่น ถามเขาเสียงแข็ง กลบเกลื่อนอาการประหม่าที่ชักจะมากขึ้นทุกขณะ “จะกินเลยไหมคะ จะได้ตักข้าว” “เอาสิ” จุติเช็ดมือ บอกยิ้ม ๆ ก่อนเสริมว่า “นี่ถ้าไม่มีข้าวมาส่ง ผมคิดว่าไงรู้ไหม...คิดว่าคุณมาตามผมให้กลับเสียอีก” “ฉันจะมาตามคุณกลับบ้านทำไมกันคะ” อรนลินถาม มือไม้ยังสาละวนกับการจัดข้าวของบนโต๊ะ “ก็เพราะ...วันนี้มันครบสามวันพอดีน่ะสิ” พอเขาตอบออกมา เธอก็ชะงักมือที่กำลังตักข้าวในทันที เบ้ปาก ร้องตอบไปว่า “อี๋...อีตาบ้า!” อรนลินไม่เคยรู้สึกทั้งโกรธแล้วก็อับอายได้เท่าครั้งนี้มาก่อน นี่เขาคิดว่าเธอหอบของมาให้ เพราะอยากมาตามให้เขากลับบ้านอย่างนั้นหรือ บ้าชะมัด แต่พอนึกถึงคำพูดของจิลลา อารมณ์โกรธก็ค่อยคลายลง ถามเขาไปว่า “พี่จิลลาคงยังไม่ได้บอกคุณสินะคะ” “บอกอะไร” จุติตักข้าวเข้าปากเคี้ยวแล้วถึงถาม อรนลินค่อยรู้สึกดีขึ้นมาอีกหน่อยราวกับผู้กำชัย ใบหน้าสวยใสเชิดขึ้นน้อยๆก่อนบอก “พี่จิลลาบอกว่าไม่ให้เรายุ่งกันภายในสามเดือนต่อจากนี้” “จะบ้าเรอะ” เป็นจุติที่ร้องถามเสียงสูง ใบหน้าหล่อคม ที่เริ่มมีไรหนวดขึ้นเป็นตอรอบปากดูดุดันขึ้นในทันที “ ‘คุณ’ หรือ ‘พี่จิลลา’ พูด เอาให้แน่สิ” “ไปถามกันเอาเองเถอะค่ะ” “นี่อยากให้ผมกลับบ้านจนต้องกุเรื่องมาหลอกกันเลยหรือ” “แล้วแต่จะคิดเลยค่ะ” “หึ ไม่ต้องคิดแผนซับซ้อนขนาดนั้นหรอกน่า ยังไงวันนี้ผมก็ต้องกลับ เพราะเรามีนัดทำลูกด้วยกัน” “บ้า!” เอะอะ เอะอะ ก็พูดแต่เรื่องทำลูก จุติหัวเราะถูกใจแล้วตักอาหารใส่จานให้เธอ สั่งเสียงกลั้วหัวเราะไปด้วย “กินให้มันเยอะ ๆ หน่อย ตัวแค่นี้จะไปรับแรงผมไหวได้ยังไง ผมก็ไม่ชอบนอนกับเด็กเหมือนกัน” “เลิกพูดจาลามกกับฉันได้แล้ว” “ก็ได้” จุติบอกยิ้ม ๆ “ผมก็ขี้เกียจพูดมากเหมือนกัน ชอบทำมากกว่า” อรนลินอ้าปากค้าง แล้วก้มหน้ากินข้าวไม่พูดกับเขาอีก เกลียดนักเชียว คอยดูเถอะ กลับบ้านจะได้รู้กัน ว่าใครเป็นต่อล่ะงานนี้ หลังมื้อกลางวัน อรนลินตั้งใจจะกลับบ้านกับแมน แต่จุติไล่ให้แมนกลับไปก่อน แล้วบอกให้เธออยู่รอกลับพร้อมเขาตอนเย็น “โอ้โห เดี๋ยวนี้มีมานั่งเฝ้าด้วยอะ” อรนลินหันไปมองคนพูดก็เจอเข้ากับหัสนัยที่ส่งเสียงทักดังมาก่อนตัวเสียอีก “พี่เทน หนูดีไม่ได้มาเฝ้าค่ะ พี่จิลลาให้เอาข้าวมาให้คุณติ เลยอยู่กินด้วยกันก็เท่านั้นเอง” “อ๋อ แบบนี้เองหรือ” คำพูดลากยาวอย่างล้อเลียนไม่พอ สายตาของหัสนัยที่ส่งมาให้ ตอกย้ำการล้อเลียน จนเธอชักจะเขินขึ้นมาแล้วสิ เลยกลบเกลื่อนอาการของตัวเอง ด้วยการถามหัสนัยกลับไปบ้าง “พี่เทนมาทำอะไรที่นี่คะ” “แวะมาดูคนงานหน่อย พี่ขอคนงานไอ้ติมัน ป่านนี้แล้วมันยังไม่ส่งให้พี่สักคนเลย” “แล้วเย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันอีกไหมคะ” “ก็อยากไปนะ แต่กลัวจิลลาโกรธ” ใบหน้าที่มีแววทะเล้นเป็นนิจหมองและเหงาหงอยลงในทันที เธอกับหัสนัยนั้นจะเรียกว่าสนิทก็สนิทกันมากโขอยู่ หัสนัยเคยบอกว่าเธอเป็นร่างอวตารของเขาในเพศหญิง อรนลินเห็นท่าทางของรุ่นพี่เป็นแบบนั้นแล้วก็ชักอยากรู้เรื่องไม่ลงรอยระหว่างหัสนัยและจิลลาขึ้นมาอีกครั้ง เลยกระแซะถามออกไป “ทะเลาะอะไรกันหรือคะ” หัสนัยถอนหายใจอยู่ครู่ เป็นนานทีเดียว จนคนถามนึกว่าอีกฝ่ายจะไม่เล่าเสียแล้ว แต่จู่ ๆ หัสนัยก็เอ่ยขึ้น “เมื่อตอนวันสิ้นปีปีที่แล้ว มีจัดงานเลี้ยงกัน พี่กับจิลลาก็ไปงานนี้ด้วย แต่จิลลาขอกลับบ้านก่อน พี่จะกลับด้วย แต่เขาคงอยากให้พี่สนุกกับเพื่อนต่อ เลยบอกให้พี่อยู่ต่อ วันนั้นพี่ก็มึน ๆ จะว่าเมาก็เมานั่นแหละ จนกระทั่ง…” ที่แท้ก็ทิ้งลายไม่ลง อรนลินนึกเคืองแทนจิลลา ถามอย่างพอเดาเรื่องราวจากนั้นได้แล้ว “พี่เทนก็เลยไปนอนกับสาวอื่นหรือคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม