เด็กพี่มันส์ยั่ว
EPISODE8
สามวันถัดมา...หลังจากที่บุตรชายทั้งสี่ของคุณหญิงอัญญาได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับแม่สาวน้อยเบบี๋ที่ซายน์และโซลพากลับมาจากไนต์คลับ สิ่งที่โซลไม่คิดว่าคนเป็นแม่จะทำกับเขาก็คือ...
‘ต่อไปความรับผิดชอบเกี่ยวกับหนูเบบี๋ก็ให้ตาโซลจัดการก็แล้วกัน หวังว่าแกจะไม่สร้างเรื่องที่ทำให้แม่ต้องมาถึงที่นี่อีก’
‘เรื่องอะไรผมต้องดูแลเด็กนั่นด้วย พวกพี่สามคนก็ดูได้นี่ เด็กนั่นไม่ได้อายุห้าขวบนะครับ ต้องมีพี่เลี้ยงด้วยรึไง’
โซลค้านหัวชนฝาทันทีเมื่อได้ฟังจบ เรื่องอะไรที่เขาจะต้องเอาตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยวกับยัยเด็กนั่นด้วย ไหนว่าเรียนปี 1 แล้วไงล่ะ ดูแลตัวเองไม่ได้รึไง
‘พี่แกสองคนดูแลบริษัท อีกคนก็ดูแลคนไข้ มีแต่แกที่ว่างงานที่สุดแล้ว’
นั่นคือมุมมองของผู้เป็นมารดาที่มองกลับมายังลูกชายคนเล็กอย่าง ‘โซล’ ที่มีอาชีพเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ ในขณะที่พี่คนโตอย่าง ‘ซาน’ เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ดูแลกิจการของครอบครัวรุ่งอนันต์ทรัพย์ คนรองอย่าง ‘ซายน์’ เป็นรองประธานบริหารร่วมกันกับพี่ชายคนโต และ ‘เซ็น’ แฝดน้องของซายน์ผู้มีอาชีพเป็นศัลยแพทย์ชื่อดังในโรงพยาบาลเอกชน
‘ผมไม่สนหรอก ถ้าแม่จะเลี้ยงดูเด็กนั่นตามคำขอของอาปิ่นก็ตามสบายครับ แต่ไม่ต้องเอาเด็กนั่นมาวุ่นวายกับผม’
โซลยืนกรานหนักแน่น ถึงอย่างไรก็ไม่คิดจะหาเหาใส่หัวเด็ดขาด ยัยเด็กที่แค่จูบนิดจูบหน่อยก็ร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตายนั่น...น่าเบื่อจะตาย!
‘ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่แกขอรถคันใหม่ก็ลืมไปได้เลย ดีเสียอีกแม่จะได้ไม่ต้องเปลืองเงิน’
ทว่าสิ่งที่คนเป็นแม่งัดมาใช้กับโซลนั้น ก็ทำให้เขาถึงกับเส้นเลือดที่ขมับกระตุกทีเดียว เพื่อยัยเด็กเบบี๋นั่นแม่ของเขาถึงกับเอาเรื่องรถมาขู่กันเชียวเหรอ
‘ให้ตาย! ก็ได้...ผมดูยัยเด็กนั่นก็ได้ แต่แม่ต้องส่งรถมาให้ผมภายในสามวันนะ’
‘ไม่ใช่ยัยเด็กแต่เธอคือ ‘น้อง’ และแกก็ควรทำตัวเป็น ‘พี่ชาย’ ให้มันดี ๆ ด้วย’
ถ้อยคำที่กำชับถึงสถานะระหว่างเขากับเด็กเบบี๋ทำให้โซลได้แต่แค่นเสียงในคอ ถ้าไม่ใช่เพื่อรถที่หมายตาเอาไว้ เขาไม่มีทางรับดูแลเด็กนั่นแน่
“พะ...พี่โซล...บี๋เลือกเสร็จแล้วค่ะ” ขณะที่โซลกำลังนั่งหัวเสียอยู่นั้น เจ้าของร่างเล็กที่หายไปกับพนักงานร้านเสื้อก็เดินกลับมาบอกเขา
“เอาไป แล้วให้มันไวไวด้วย” โซลเอ่ยเสียงขุ่น แล้วยื่นแบล็คการ์ดให้เธอ สีหน้าที่เหมือนไปกินรังแตนมาแบบไม่มีหยุดหย่อน ทำให้เบบี๋ได้แต่รับบัตรมาถือไว้
จริงที่ตั้งแต่วันนั้นโซลไม่ได้เข้ามาระรานอะไรเธออีก ทว่าไอ้การที่คุณป้าอัญญาให้เขาคอยดูแลเธอนั้น มันเป็นอะไรที่ทรมานมากจริง ๆ เพราะท่าทีของเขามันไม่ได้เต็มใจจะดูแลเธอสักนิด ที่เขายอมทำตามบัญชาคนเป็นแม่ก็เพื่อรถคันเดียวเท่านั้น
เบบี๋ทำได้เพียงเดินถือแบล็คการ์ดไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ แล้วหิ้วเอาถุงเสื้อผ้าที่เธอเลือกแล้วว่าราคาไม่ได้สูงอะไรนัก ด้วยไม่อยากให้โซลคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงหิวเงิน คิดผลาญเม็ดเงินในบัญชีของเขา เพราะสามวันนี้โซลใช้บัตรใบนี้จ่ายค่าต่าง ๆ ให้เธอไปมากแล้ว ไม่ว่าจะค่าเทอมของมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ที่คุณป้าอัญญาสั่งให้เธอย้ายมาเรียน ค่าชุดนักศึกษาและอุปกรณ์การเรียน รวมถึงค่าของใช้ส่วนตัวอีกจิปาถะ วันนี้เขาก็ต้องมาจ่ายค่าเสื้อผ้าใหม่ให้เธออีก ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่อยากเดินคู่กับยัยเด็กซอมซ่ออย่างเธอในที่สาธารณะ
ก็แหงล่ะ! เขามันคนฮอตนี่ ไม่ว่าจะไปที่ไหนล้วนมีคนรู้จัก โดยเฉพาะเหล่าสาวสวยที่พยายามจะขอเบอร์แลกไอดีกับเขา แต่โซลนั้นมีความเป็นส่วนตัวสูงพอสมควร หากเขาไม่พอใจหรือไม่โอเค เพียงแค่เขาปรายสายตาคมดุนั่นปราม พวกเธอก็ไม่กล้าเสนอหน้ามาเร้าหรือกับเขาแล้วล่ะ
“เออ เดี๋ยวไป” เสียงห้วนเอ่ยให้ได้ยิน เมื่อเบบี๋เอาแบล็คการ์ดมาคืน ก็เห็นว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ สายตาคมเหลือบมองหน้าเธอเล็กน้อยก่อนจะกดตัดสายไป
“ซื้อพอยัง”
“พอแล้วค่ะ”
“ก็ดี เดี๋ยวไปหาอะไรกิน ฉันต้องไปที่อื่นต่อ” เขาว่า แล้วหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเดินนำเธอไปยังร้านอาหารที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า เบบี๋ทำได้เพียงเดินตามเขาต้อย ๆ เท่านั้น
เมื่อมาถึงร้านโซลก็จัดการสั่งอาหารของตัวเอง ก่อนจะเหลือบสายตามามองคนที่นั่งลงตรงข้าม
“ต้องให้ฉันสั่งให้เธอรึไง จะกินอะไรก็เลือกเอา” เสียงขุ่นว่ามา ทำให้เบบี๋ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น เมื่อเห็นว่าพนักงานของร้านกำลังรอออเดอร์จากเธออยู่
“เอาข้าวผัดรวมกับน้ำเปล่าค่ะ” เธอเอ่ย แล้วก็ได้แต่ยื่นเมนูคืนพนักงานไป
“รอสักครู่นะคะ” พนักงานสาวรับคำ ก่อนจากไป
“เอ่อ...เมื่อกี้พี่โซลบอกว่าจะไปที่อื่นต่อ ถ้ายังไงหลังกินข้าวเสร็จบี๋นั่ง...” เบบี๋จะเอ่ยความประสงค์ของตัวเองให้เขาฟัง ทว่าน้ำเสียงราบเรียบก็เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน
“กลับไปคนเดียวเดี๋ยวแม่จะหาว่าฉันไม่ใส่ใจน้องสาว ทำไม? เธออึดอัดที่จะอยู่กับฉันมากรึไง” โซลเอ่ยเสียงหยัน
“เปล่าค่ะ” เบบี๋ตอบเพียงแค่นั้น แล้วหลุบสายตาคู่สวยลงมองผ้าปูโต๊ะแทนหน้าหล่อ ๆ แต่เต็มไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดของเขา
แหงละ! อยู่กับเขามันก็เหมือนอยู่ในนรกดี ๆ นี่เอง คิดว่าเธอแฮปปี้มากมั้งที่ต้องมาทนอยู่กับคนที่เอาแต่จิกกัดเยาะหยันเธอตลอดเวลาแบบนี้ เขาเกลียดอะไรเธอนักหนา เธอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจจนถึงขั้นอภัยให้กันไม่ได้เลยงั้นเหรอ...ไอ้คนใจร้าย!