เด็กพี่มันส์ยั่ว
EPISODE7
“เคทจัดการหาเสื้อผ้ามาให้แม่หนูนั่น” น้ำเสียงราบเรียบของคุณหญิงอัญญาเอ่ย ทำให้หนึ่งในสี่บอดี้การ์ดสาวรีบค้อมศีรษะรับคำสั่งและเลี่ยงออกไปทำหน้าที่ทันที
“นี่มันอะไรครับ ทำไมวันนี้แม่ถึงได้ยุ่งเรื่องของผม” โซลถามกลับอย่างไม่เข้าใจ ปกติแล้วแม่ของเขาไม่เคยสนใจเรื่องที่พวกเขาสี่พี่น้องเอาผู้หญิงมาที่บ้านเลยนี่
“แกจะเอาใครมาก็ได้ แต่ไม่ใช่เด็กคนนี้” ผู้เป็นมารดาเอ่ยเสียงขุ่น นั่นทำให้โซลได้แต่แค่นเสียงในคออย่างไม่เข้าใจ เด็กนี่มันทำไมอย่างนั้นเหรอ
“บอกมาสิครับ ว่าทำไมผมถึงยุ่งกับเด็กนี่ไม่ได้ ยัยเด็กที่ถูกพ่อเอามาขัดดอกนี่น่ะ” โซลเอ่ยถามพร้อมหันไปคว้าท้ายทอยเล็กของเบบี๋ให้ขยับเข้ามาใกล้ แววตาแสนหวาดกลัวที่สะท้อนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนทำให้คุณหญิงอัญญาถึงกับบันดาลโทสะใส่ลูกชายอีกครั้ง
เพียะ!
ครั้งนี้ทำเอามุมปากของโซลถึงกับเลือดไหลซึม เขารู้ว่าคนเป็นแม่มือหนักมาก แต่ก็ไม่คิดว่าแม่จะตีเขาเพราะเด็กผู้หญิงคนนี้
“แม่ตบผมสองครั้งเพราะเด็กนี่” ชายหนุ่มพึมพำ สันกรามค่อย ๆ บดเข้าหากันแน่นดังกรอด มือที่บีบอยู่ตรงท้ายทอยของสาวน้อยก็ค่อย ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นจนเบบี๋เจ็บน้ำตาซึม
“ช่วยหนูด้วย...ฮึก!” เธอเอ่ยเสียงสะอื้นน้ำตารินไหลลงอาบผิวแก้มเนียนอย่างไม่สามารถทนกลั้นไว้ได้อีก นั่นทำให้ ‘ซาน’ ผู้เป็นพี่ชายคนโตเข้ามารั้งตัวน้องชายให้ถอยห่างจากแม่สาวน้อย เบบี๋ที่เห็นอย่างนั้นก็รีบคว้าข้อมือเขาไว้ทันที ดวงหน้าสวยที่อาบไปด้วยหยาดน้ำตาชื้นเงยขึ้นมองสบตากับซาน
“ฮือ...ช่วยหนู ช่วยหนูด้วยค่ะ ฮึก! หนูไม่รู้เรื่องนี้เลยช่วย...” เบบี๋ที่สะเทือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นร้องสะอึกสะอื้นออกมา แรงกดดันจากโซลที่กระทำกับเธอก่อนหน้านี้ทำให้สาวน้อยรู้สึกอึดอัดในอกและหวาดผวาจนเหมือนจะเป็นบ้า สุดท้ายความรู้สึกที่ประดังประเดเข้ามาแบบไม่มีเวลาให้เธอได้ตั้งรับก็ทำให้สาวน้อยตึงเครียดจนหมดสติไป
ฟุบ!
คุณหญิงอัญญามองภาพของร่างเล็ก ๆ ที่ถูกลูกชายกระทำรุนแรงจนเนื้อตัวแดงช้ำไปหมดก็ได้แต่เสียใจที่เธอมาถึงที่นี่ช้าไป แต่เธอก็หวังว่าทุกอย่างมันจะยังคงแก้ไขได้อยู่นะ มันคงไม่สายเกินไปใช่ไหม
“ได้แล้วค่ะคุณหญิง” เคทที่กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าเอ่ยขึ้น
“เจนเธอไปช่วยเคทจัดการล้างเนื้อตัวของแม่หนูนี่ให้เรียบร้อย เปิดห้องใหม่ให้เธอนอนพักก่อน” คุณหญิงอัญญาออกคำสั่ง ทำให้เคทเข้าไปช้อนร่างเล็ก ๆ ของสาวน้อยขึ้นอุ้มแนบอก โดยมีเจนเดินตามหลังเธอไปติด ๆ
“ไปคุยกับฉันที่ห้องทำงาน” คุณหญิงหันมาบอกลูกชายทั้งสี่ ทำให้ทั้งสี่หนุ่มเดินตามหลังผู้เป็นแม่ไปเงียบ ๆ
เมื่อมาถึงห้องทำงานของอดีตสามีที่ล่วงลับไปหลายปีแล้ว คุณหญิงอัญญาที่เลี้ยงดูลูกชายอย่างตามใจมาตลอดก็รู้สึกว่าเธอคงปล่อยปละละเลยพวกเขามากเกินไปแล้ว วันนี้คงต้องคุยกันเสียใหม่
“พูดมาสิครับ อย่าให้ผมโดนแม่ตีฟรี” โซลออกปากถามเป็นคนแรก สายตาคมหลุบมองท่อนแขนที่ถูกเด็กน้อยนั่นข่วนจนเป็นรอยถลอกก็ได้แต่หงุดหงิดในใจ และเมื่อลูกชายคนเล็กเปิดปากถาม คนเป็นแม่จึงโยนซองเอกสารสีน้ำตาลที่ถูกทำสำเนาไว้สี่ชุดส่งให้พวกเขาไปเปิดดู
โซลเปิดซองที่ได้มาออกดูก็พบว่ากระดาษแผ่นแรกเป็นประวัติและภาพถ่ายของเด็กเบบี๋คนนั้น ส่วนแผ่นที่สองคือจดหมายที่เขียนด้วยลายมือสวยงาม บอกใจความถึงการฝากฝังลูกสาวไว้กับแม่ของเขา โดยส่วนท้ายของกระดาษได้เขียนย้ำไว้ว่า...
‘พี่อัญฉันไม่รู้ว่าจดหมายจะถูกส่งไปถึงมือพี่ไหม แต่ถ้าพี่ได้รับจดหมายนี้ ก็ขอให้พี่ช่วยดูแล ‘เบบี๋’ ลูกสาวคนเดียวของฉันทีนะ ฉันเดินทางผิดมามากแล้วจริง ๆ ขอโทษที่ฉันไม่ติดต่อพี่ไป แต่ฉันเห็นมาตลอดว่าพี่กับพี่ชัชสบายดี แค่นี้ฉันก็สบายใจแล้ว จากไปด้วยโรคร้ายครั้งนี้ฉันคงไม่มีโอกาสได้กลับมาเจอพี่อีกแล้วล่ะ เลยอยากขอความกรุณาพี่เป็นครั้งสุดท้าย ช่วยฉันทีนะพี่ จาก ปิ่นมณี’
“นี่เด็กคนนั้นเป็นลูกของอาปิ่นเหรอครับ” ซายน์ที่อ่านใจความบนกระดาษจบก็เอ่ยถามทันที
“อืม นี่แกทำอะไรลงไปตาโซล” คุณหญิงเอ่ยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตารินหล่นลงมาอย่างรับไม่ได้ที่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กที่เป็นลูกของน้องสาวสามีเธอ
“จะเป็นไปได้ยังไง ไหนแม่ว่าสามีอาปิ่นรวยมากไง ถ้าเด็กนั่นเป็นลูกอาปิ่น ทำไมถึง...” โซลเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ เด็กซอมซ่อนั่นจะเป็นลูกของคุณอาเขาได้ยังไง
“คุณหญิงให้ดิฉันสืบมาหมดแล้วค่ะ จริงที่อดีตสามีของคุณปิ่นมณีมีฐานะร่ำรวยมาก แต่หลังจากที่สามีเสียชีวิตอย่างกะทันหันเพราะเส้นเลือดในสมองแตก เธอก็ได้มีสามีใหม่ชื่อทศซึ่งเป็นอดีตพนักงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ผู้ชายคนนี้พอมาอยู่กับคุณปิ่นก็มีชีวิตเพื่อล้างผลาญทรัพย์สินของคุณปิ่นจริง ๆ เพราะเขาลาออกจากงานทันทีและขอเงินคุณปิ่นไปลงทุนทำธุรกิจ แต่จริง ๆ แล้วกลับเอาเงินไปเข้าบ่อนจนสูญไปกว่ายี่สิบล้าน เมื่อสอบถามคนละแวกที่พัก ยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่านายทศนั่นพยายามจะล่วงละเมิดทางเพศลูกเลี้ยงอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังอยู่รอดมาได้กระทั่งคุณปิ่นจากไปด้วยโรคมะเร็งสมอง” จีน่าบอดี้การ์ดสาวอีกคนรายงานถึงเรื่องที่ถูกให้ไปสืบเพิ่มกับเหล่าบุตรชายทั้งสี่ของคุณหญิง
“หนูน้อยนั่น...ลำบากขนาดนี้เลยเหรอครับ” ซานพึมพำ เขาเคยเจอลูกสาวของคุณอาปิ่นในตอนที่เธออายุราวห้าขวบ เธอเป็นเด็กน่ารักน่าชังที่ใคร ๆ พบเห็นต่างก็ชอบใจกันทั้งนั้น ตอนนั้นเธอวิ่งตามเขาทั้งวันเรียกพี่ซาน ๆ ไม่ขาดปาก ทำให้ซานชอบใจเธอมากจริง ๆ ซานไม่คิดเลยว่าชีวิตที่ดีของคุณอาจะไปประสบพบเจอกับเรื่องแย่ ๆ มากมายถึงขนาดนั้น
“ได้ทำไปรึยัง” ซายน์กระซิบถามน้องชายด้วยสีหน้าเป็นกังวล หวังว่าแม่หนูนั่นจะยังไม่ถูกน้องชายเขาจับกินนะ
“ยัง...” โซลพึมพำตอบมาแค่นั้น