เกาะเงือก

1540 คำ
เรือนร่างเปลือยเปล่าชายหนุ่มผิวคล้ำบึกบึนนอนแน่นิ่งที่ชายหาด อันขาวสะอาดใสจนเห็นพื้นทรายใต้น้ำ คลื่นสีฟ้าครามซัดโหมกระหน่ำร่างของเมฆลูกแล้วลูกเล่าเขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา จนกระทั้งแสงแดดยามสายสาดส่องเรือนร่างของเขา ยิ่งแสงแดดอันแรงกล้าแยงเข้าไปภายในตาของเมฆ เขาจึงเรี่มรู้สึกตัวแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นทีละน้อยๆ พอเมฆได้สติเขารีบลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆบริเวณ ซึ่งเบื้องหน้าของเขามีแต่น้ำสีครามสุดลูกหูลูกตา เขาค่อยๆหันข้างไปมองเห็นเพียงชาดหาดทอดยาวไปไม่จบสิ้น เมฆจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วหันไปดูด้านหลัง ซึ่งสิ่งที่เห็นมีแต่ต้นไม้หลากหลายชนิด มีทั้งที่เขารู้จักและไม่เคยพบเห็น แต่สิ่งที่ประหลาดต้นไม้แต่ละคนมีขนาดใหญ่โตหลายคนโอบ ซึ่งเขาไม่เคยพบเห็นในเกาะที่เขาจากมาแม้แต่ต้นเดียว เมฆรู้สึกตื่นเต้นและกลัวไปในเวลาเดียวกัน เพราะเกาะแห่งนี้ไม่ใช้เกาะที่เขาอยู่อย่างแน่นอน สายตากับร่างกายของเมฆวนรอบตัวเองอีกครั้งจนอยู่หน้าท้องทะเลอันเว้งว้างเปล่าเปลี่ยว เมฆไม่รู้จะทำเช่นไรเขาได้แต่นั่งชันเข่าก้มหน้า แล้วครุ่นคิดว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เพราะจากเกาะที่เขาอยู่กับเกาะแห่งนี้ที่เขาไม่รู้จักน่าจะไกลพอสมควร ในระหว่างที่เมฆก้มหน้าอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงน้ำกระจาย กระเด็นมาโดนร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง เมฆตกใจอย่างมากเขาจึงเงยหน้าขึ้นและสิ่งตรงหน้าทำให้เขาตกใจมองตาไม่กระพริบ “เงือก”เมฆรีบลุกขึ้นแล้วเดินถอยหลังห่างไปเรื่อยๆ สิ่งที่เมฆเห็นอยู่ตรงหน้าเขาเป็นเรือนร่างหญิงสาวเปลือยท่อนบนผมยาวถึงเอว สรีระต่างๆนั้นเหมือนผู้หญิงทุกสัดส่วน ยกเว้นบริเวณเอวลงไปเป็นหางปลายาวลงไปภายในน้ำ เมื่อเมฆมองขึ้นมายังใบหน้าอีกครั้ง เขาก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็น แต่เมฆคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก เขาได้แต่ยืนนิ่งไม่ขยับตัวและเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น เงือกสาวยิ้มให้เมฆก่อนที่จะตวัดน้ำลงดำหายไปในทะเล เมฆมองตาค้างตะลึงยิ่งเห็นหางใหญ่โผล่ออกมาจากเหนือน้ำอีกครั้ง เมฆถึงกับตกใจกลัวแล้วเป็นลมหมดสติไปตรงชายหาด ร่างกายที่นอนแน่นิ่งถูกมองด้วยสายตาของเงือกสาวที่คืบคลานขึ้นฝั่งมาดูเมฆ เงือกสาวมองร่างอันเปลือยเปล่าของเมฆตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่เธอเคยเห็นอยู่ประจำ แต่ได้ปล่อยผ่านมาตลอด ยกเว้นเมฆชายหนุ่มคนนี้ที่เงือกสาวไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ เงือกสาวจึงลูบศีรษะของเมฆจับเส้นผมเล่น แล้วใช้มือลูบเรื่อยๆต่ำลงมายังหน้าผาก ผ่านจมูกอันโด่งเป็นสัน ไล่ลงมาปากที่แห้งกร้านเพราะขาดน้ำ เงือกสาวไล่ต่ำลงมาถึงบริเวณเนินอก เธอหยุดมืออยู่แค่นั้นและลูบไล้ด้วยความสงสัย เมฆรู้สึกเรือนกายช่วงบนถูกสัมผัสอย่างแผ่วเบา จนเกิดอารมณ์ความรู้สึกตามธรรมชาติ เขาจึงลืมตาขึ้นมมองมือนั้นแล้วเงยหน้ามองตามไปเรื่อยๆ เขาได้เห็นใบหน้าสาวสวยงดงาม ดั่งนางฟ้า ตากลมโต จมูกโด่ง ปากกระจับเป็นสัน หลังจากนั้นเขามองลงต่ำมาอีกครั้งๆจนเห็นเรือนร่างหญิงสาวที่เปลือยเปล่า เมฆจึงมองลงต่ำไปอีกเพียงผ่านไปแค่เอว เมฆหมดอารมณ์ความรู้สึก แล้วเกิดเป็นความกลัวทันที เพราะสิ่งที่เขาเห็นมันเป็นหางปลาขนาดใหญ่ เมฆจึงดีดตัวขึ้นลุกนั่งด้วยความตกใจแล้วตื่นกลัว “เงือก”เมฆพูดออกมาเสียงดัง “ใช่แล้วตัวเดียวกับเมื่อวาน” เมฆพูดต่อ เมฆจำได้ทันทีเขาจึงรีบนั่งลงจับตัวเงือกกอดไว้ เพราะเป็นสิ่งที่หาพบอยาก เขาจึงอยากจับเงือกไว้ก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที “ปล่อยข้า”เงือกสาวพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของเมฆ “พูดได้ด้วย”เมฆยิ่งกอดรัดไว้แน่น เพราะกลัวหลุดออกไป ครั้งที่แล้วเขาตกใจอย่างหนักจนสลบ แต่ครั้งนี้เมฆพอตั้งสติได้เขาจึงจับไว้ “ปล่อยข้าจะมาจับข้าไว้อย่างนี้ไม่ได้ข้าขอเตือน” “เรื่องอะไรจะปล่อย จนกว่าจะบอกข้าก่อนทำไมข้ามาอยู่ที่นี่ได้” “ก็ข้าพาเอ็งมาที่นี่ไง” “พามาทำไม”เมฆมีท่าทีสงสัย “เอ็งตกมาจากหน้าผา ข้าก็เลยพาที่นี่” “ทำไมไม่เอาข้าไว้ที่เกาะของข้า” “ถ้าอยู่นั่นเอ็งก็ตายซิ” เมฆหยุดถามแล้วคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา หลังจากโดนผู้ใหญ่จอมตามล่าจนถึงหน้าผา แล้วเขาพลาดลวงหล่นลงมาความจำเขาหยุดอยู่แค่นี้ เมฆคิดต่อก็จำไม่ได้อีกเลย แต่เขาก็พอปะติดปะต่อเรื่องราวราวต่างๆได้ และคงเป็นจริงอย่างเงือกว่าที่ได้ช่วยเขามา “จะปล่อยข้าได้หรือยัง” “ปล่อยก็ได้แต่อย่าพึ่งไปไหนนะ” “มนุษย์นี่เรื่องมากจริง” “รับปากข้าก่อนว่าจะไม่ไปไหน” “ได้” เมฆคลายกอดร่างของเงือกสาว ส่วนเงือกสาวก็ขยับตัวไปมาสลัดผมจนไปโดนใบหน้าของเมฆ แต่เขาก็ไม่แสดงอาการอะไรออกมา ถึงแม้จะเห็นเรือนร่างของเงือกสาวอย่างชัดเจน “ทำไมเอ็งช่วยข้า” “เอ็งจำไม่ได้เหรอ ข้าช่วยเอ็งตั้งแต่เรือแตกคราวที่แล้ว” “ใช่ ข้าจำได้ลางๆว่ามีใครมาจับตัวข้าไว้ หลังจากนั้นข้าก็จำอะไรไม่ได้” “เมื่อเอ็งจำได้ข้าก็จะไปแล้วนะ”เงือกสาวพยายามคลืบคลานลงชายทะเล “เดี๋ยวก่อน เอ็งจะพาข้ากลับบ้านได้ไหม” “เอ็งจะกลับไปหาคนใจร้ายทำไม เอ็งอยู่กับข้าที่นี่ไม่ดีกว่าเหรอ” “จะอยู่ได้ไงมันเป็นเกาะร้างที่นอนก็ไม่มี อาหารการกินอีกอยู่ไมได้หรอก” “นายไม่กลัวตายเหรอ” “ไม่กลัว อีกอย่างพ่อแม่น้องของข้าอยู่ที่โน้น ข้าจะต้องกลับไปดูแลพวกเขา” “ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย คิดที่จะไปช่วยคนอื่น แต่ข้าว่าที่เอ็งคิดถึงใครบางคนมากกว่ามั้ง” “เอ็งรู้ได้ไง หรือว่า วันนั้นเองใช่ไหม ที่แฟนข้าบอกว่าน่าจะเป็นเงือกที่โขกหิน” เงือกสาวมองเมฆด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ หลังจากนั้นเธอรีบคลืบคลานลงน้ำ พร้อมฟาดน้ำให้กระเด็นใส่ตัวของเมฆ “โอ๊ย”เมฆใช้แขนป้องน้ำไว้ “เดี๋ยวก่อน ข้าไม่มีเสื้อผ้าใส่หาให้หน่อย” เงือกสาวหันมามองเรือนร่างของเมฆแล้วเธอก็อมยิ้ม แล้วก็ใช้หางฟาดน้ำอีกครั้งให้กระเด็นใส่เรือนร่างอันเปลือยเปล่าของเมฆ “ข้าเป็นเงือกจะไปเอาเสื้อผ้าที่ไหนมาใส่” เมื่อเงือกสาวพูดจบก็ดำน้ำแหวกว่ายหายไป สายตาของเมฆยังมองไปท้องทะเลที่เงือกสาวดำหาย หลังจากนั้นเมฆเดินขึ้นไปบนยังชายฝั่ง พร้อมกับมองไปรอบๆเพื่อหาอะไรกินประทังชีวิต เขาจึงค่อยๆเดินเข้าไปในป่าแต่ก็ไม่ลึกมาก เขาก็ได้เจอผลไม้กินได้ที่มีในเมืองมนุษย์ทุกอย่าง เพียงแต่ว่าลูกใหญ่กว่า มีทั้งกล้วย มะละกอ และอีกหลายชนิด เมฆจึงบิดกล้วยมาหลายๆลูกมากินจนอิ่ม หลังจากเขาเดินต่อเข้าไปอีกหน่อยก็เจอกระโครงกระดูก เมฆตกใจอย่างมากเขาจึงหันหลังกลับแล้ววิ่ง จนไปสะดุดหกล้มทับกระเป๋ายามที่มีของภายใน เมฆจีงรีบเก็บแล้ววิ่งออกมายังชายหาดอย่างรวดเร็ว เมื่อเมฆมาถึงชายหาดเขาก็นั่งลงด้วยความเหนื่อยหอบ พอบรรเทาเหนื่อยได้บ้าง เขาจึงเปิดย่ามนั้นดู โดยล้วงมือเข้าไปในย่าม พร้อมเปิดถุงย่ามดูว่ามีอะไรในนั้น เมื่อเมฆเห็นสิ่งของภายในเขาถึงกับตกตะลึงเพราะเป็นไข่มุกนับร้อยเม็ดอยู่ในนั้น “มุก”เมฆดีใจอย่างมาก จึงทำให้เมฆอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเข้าไปลึกกว่านั้นน่าจะเจอของมีค่าอีกมากมายอย่างแน่ แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดความคิดนั้น เพราะมีไปก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อเขาไม่มีทางทีจะกลับไปได้ อาจจะเป็นเหมือนโครงกระดูกนั่นก็ได้ อยู่ที่เกาะจนตัวตายก็ไม่ได้กลับ เมฆจึงนั่งลงกับพื้นทรายอีกครั้ง แต่แล้วคิดได้ขึ้นมาช่วงเรือแตกเงือกสาวยังพาเขาไปส่งยังเกาะที่เขาอาศัยอยู่ได้เลย ถ้าในครั้งขอร้องเงือกสาวอีกครั้งเมฆคิดว่าเธอคงไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม