Chapter 2 สามีใบ้
“ดูสิ...กระท่อมโกโรโกโสยิ่งกว่าเรือนเก็บฟืนหลังเรือนนายท่านหลี่เสียอีก”
สาวใช้บ่นด้วยท่าทางรังเกียจพลางประคองเจ้านายสาวตาบอดให้ก้าวลงจากเกี้ยวอย่างทุลักทุเล เพราะซินเหมยยังไม่คุ้นชินกับการมองไม่เห็นจึงเผลอเหยียบชายกระโปรงตนเองเกือบจะล้มลงหน้าคว่ำ
แม้จะตาบอดแต่ก็รับรู้ได้ว่าเหล่าสาวใช้และบ่าวชายพากันถอนหายใจทำเสียงในลำคออย่างไม่ใคร่พอใจนัก นางจึงเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ อย่างทะนงตน จากนั้นสาวใช้จึงพยุงนางให้ก้าวเดินไปหยุดยืนอยู่หน้ากระท่อมหลังเล็กของชายใบ้ที่มีชีวิตอยู่อย่างไร้ตัวตน
“มีใครอยู่มั้ย!”
เสียงคนสนิทของบิดาตะโกนลั่นเรียกหาชายใบ้อย่างวางอำนาจ ซินเหมยยืนนิ่งแทบแข็งเป็นหิน รู้สึกหนักใจกับเหตุการณ์แสนอึดอัดที่ต้องเผชิญ
ชายใบ้เดินออกมาด้วยสีหน้าที่ฉายชัดว่าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด มองคนจากตระกูลหลี่อย่างไม่เข้าใจจุดประสงค์ในการมา อีกทั้งยังมีหญิงงามในชุดเจ้าสาวมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้าน นี่มันเรื่องอะไรกัน!
“นายท่านของพวกเรามีเมตตายกบุตรสาวให้เป็นภรรยาของเจ้า รับไว้เสียสิ!”
ว้าย!
ซินเหมยถึงกับตกใจเมื่อจู่ๆ ก็ถูกผลักที่แผ่นหลังจนนางล้มไปข้างหน้า โชคดีที่มีคนรับไว้ เดาว่าคนที่รับไว้น่าจะเป็นชายใบ้เพราะเขาสวมเพียงแต่กางเกงไม่ได้สวมเสื้อ อีกทั้งหยาดเหงื่อและกลิ่นกายอย่างชายที่ใช้แรงงานกลางแจ้งก็แตกต่างจากกลิ่นตัวบ่าวชายในเรือนสกุลหลี่
เสียงม้าลากเกี้ยวไกลออกไป หลี่ซินเหมยพยายามกดข่มน้ำตาและก้อนแข็งที่แล่นมาจุกอยู่ที่ลำคออย่างยากลำบาก ขอบตาร้อนผ่าว รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเหมือนขยะที่ถูกนำมาทิ้งไว้ข้างถนน หาใช่บุตรสาวของผู้ดีมีชาติตระกูล
นางถูกชายใบ้จับให้ยืนตรงๆ เพื่อทรงตัว นางรู้สึกราวกับว่าเขากำลังเดินจากไปทิ้งให้นางยืนอยู่เพียงลำพังด้วยความเดียวดาย
แม้แต่ชายใบ้ก็ไม่ต้องการเจ้าสาวตาบอดอย่างนาง
ข้าช่างไร้ค่าเหลือเกิน...
แม้เปลือกตาจะปิดสนิทแต่หยาดน้ำใสกลับไหลออกมาอาบแก้มเป็นสาย หลี่ซินเหมยยืนเดียวดายหมุนซ้ายหมุนขวาอย่างไม่รู้ว่าควรจะก้าวเดินไปทางไหน ท้ายที่สุดเมื่อก้าวขาเดินไปเบื้องหน้านางก็ล้มคว่ำคะมำลงไปกับพื้น ชุดเจ้าสาวสีแดงมงคลเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโคลนไม่น่าดู
โชคชะตาช่างใจร้ายเหลือ!
สวรรค์ไม่คิดจะเมตตานางบ้างเลยหรือ!
สองมือค่อยๆ ควานไปรอบๆ ผืนหญ้า ดินโคลน และน้ำขังเป็นแอ่งหลังฝนตกห่าใหญ่ไปเมื่อช่วงเช้าตรู่ยิ่งทำให้หญิงสาวมอมแมมเสียยิ่งกว่าลูกสุนัขตกน้ำ ในที่สุดนางก็พยุงกายให้ลุกขึ้นยืนได้ด้วยสภาพทุลักทุเล
พาดมือไปถูกรั้วไม้อันเป็นการกางกั้นอาณาเขตของชายใบ้ลึกลับ เพียงผลักบานประตูไม้เข้าไปนางก็จะก้าวเข้าไปในนั้น ทว่าหญิงสาวกลับหมุนตัวหันหลังแล้วเดินไปอีกทางซึ่งเต็มไปด้วยป่ารกชัฏ
ในเมื่อไม่มีใครต้องการ แล้วนางจะมีชีวิตอยู่ไปทำไมกันเล่า สู้สังเวยตัวเองให้เป็นประโยชน์ต่อสรรพสัตว์ไม่ดีกว่าหรือ เลือดเนื้อและกระดูกของนางคงเป็นประโยชน์แก่เสือสิงโตหรือหมาป่า ส่วนเศษซากศพก็จะย่อยธุลีกลับกลายเป็นดิน
ซ่า...
ออกเดินไปได้ไม่นานฝนก็เทลงมาอีกราวกับจะกลั่นแกล้ง ซินเหมยปล่อยโฮออกมาอย่างสุดแสนจะเจ็บปวดหัวใจ ใบหน้าหวานเปื้อนหยาดน้ำตาผสานไปกับหยาดฝนที่เย็นชุ่มฉ่ำ ทว่าหัวใจของนางกลับร้าวรานมิได้รับรู้ถึงความสดชื่นนั้นเลยแม้แต่น้อย
เสื้อผ้าที่ลากยาวเริ่มหนักอึ้งจากหยาดฝน รองเท้าคู่สวยหลุดออกจากเรียวเท้า ย่ำไปบนดินแฉะที่เต็มไปด้วยหินกรวดและขวากหนาม เลือดสดๆ เริ่มไหลเป็นทาง กิ่งก้านพุ่มไม้บาดไปตามแขนขาเป็นริ้วรอย
เจ็บ...
ไม่ได้เจ็บกาย แต่เจ็บที่ใจจนพูดไม่ออก
ซินเหมยเงี่ยหูฟัง ได้ยินเสียงกระแสน้ำแรงที่กำลังถาโถมเข้ามา นางหลับตานิ่งตั้งใจให้น้ำป่าที่ไหลหลากมาจากภูเขาสูงพัดพาร่างของนางให้จมหายไปชั่วกาล
ทว่า...
เอวบอบบางถูกรวบไปกอดเอาไว้ ไม่ทันได้ตั้งตัวชายนิรนามก็จับร่างของนางแบกไว้บนแผ่นหลังเปลือยเปล่า
แควก!
ฉีกกระชากชายกระโปรงยาวเป็นเชือก แล้วมัดเอวของนางเข้ากับเอวของเขา ก่อนที่จะมองหาต้นไม้ขนาดใหญ่แล้วปีนป่ายขึ้นไปโดยมีนางเกาะแนบไปบนแผ่นหลัง
“ท่านเป็นใคร!”
หลี่ซินเหมยงุนงง รู้สึกได้ว่านางถูกจับให้นั่งอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ ในขณะที่ประสาทสัมผัสทางหูได้ยินเสียงกระแสน้ำเชี่ยวกรากถาโถมซัดสาดโคนต้นไม้อย่างแรง พัดพาทุกเศษซากให้อัดกระแทกแหลกลาญอย่างเกรี้ยวกราด
เกือบไปแล้ว ไม่ถึงเสี้ยวอึดใจนางเกือบจะสูญสิ้นทั้งชื่อและชีวิต ทว่าชายผู้นี้กลับช่วยชีวิตของนางเอาไว้
“ข้าคือสามีของเจ้า”
คำตอบของชายผู้ช่วยชีวิตทำให้หญิงสาวถึงกับนิ่งงัน รู้สึกราวกับลำคอตื้อตันดั่งมีก้อนหินอัดแน่นอยู่ในนั้น ขอบตาร้อนผ่าว นางไม่สามารถสะกดกลั้นหยาดน้ำตาเอาไว้ได้อีกต่อไปจึงปล่อยให้มันไหลออกมาจนไหล่บางสะอื้นฮัก
ชายลึกลับที่ใครต่างก็หาว่าเขาเป็นใบ้ยังคงนั่งนิ่งราวกับรูปสลักที่มีชีวิต มีเพียงดวงตาที่มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเวทนา กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกเล็กน้อยราวกับเย้ยหยันในโชคชะตา สะอิดสะเอียนสกุลหลี่จับขั้วหัวใจ
‘นี่นะหรือ...วิธีกำจัดบุตรสาวตาบอดออกไปให้พ้นทาง!’
โดยการมอบนางให้กับชายที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่น่าไว้วางใจ ชายที่ใครๆ ต่างก็ตราหน้าว่าเป็นใบ้
เมียตาบอด! ผัวเป็นใบ้!
นี่หรือคือสิ่งที่บิดาพึงกระทำต่อบุตรสาวที่บอบบางราวกับแก้วเจียระไนที่พร้อมจะแตกร้าวเช่นนี้
แรกทีเดียวเขายังคงงุนงงที่จู่ๆ คนของสกุลหลี่ก็นำตัวบุตรสาวคนโตของสกุลมาวางทิ้งไว้หน้ากระท่อม พร้อมถ้อยคำที่ราวกับจะทวงบุญคุณ ว่านี่เป็นความกรุณาอย่างสูงสุดจึงได้ลดเกียรติมอบบุตรสาวให้เขา
อีกทั้งเขาฉุกใจเกรงว่าจะเป็นกลลวงของฝ่ายตรงข้าม หากพวกมันตามหาเขาพบ แล้วหมายจะฆ่าปิดปากเขาโดยแสร้งส่งเจ้าสาวตาบอดมาเป็นสายลับ เขาจึงยังคงยืนมองอยู่ห่างๆ อย่างคอยสังเกตท่าที