ก๊อก ก๊อก!
ประตูถูกเคาะช่วงเกือบสี่ทุ่ม ก่อนจะถูกเปิดเข้ามาตามด้วยร่างเล็กของลูกชายในชุดนอน หน้าเจ้าคุณง่วงมากแต่ก็ลากหมอนเดินเข้ามา
“ว่าไง นึกว่าเข้านอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนนะ”
“เจ้าคุณนอนไม่หลับฮะ ขอมานอนกับพ่อได้ไหม”
พ่อไม่ได้ตอบแต่ตบมือแปะๆ ลงบนเตียง
เจ้าคุณส่งยิ้มไปให้เข้าไปนอนลงข้างบิดา “ขอบคุณฮะ พ่อครับ เล่าเรื่องของพ่อกับแม่พราวให้เจ้าคุณฟังอีกรอบได้ไหมฮะ เจ้าคุณอยากฟัง”
“ไม่เบื่อเหรอ รอบที่ร้อยแล้วนะยังจะอยากฟังอยู่เหรอ”
อิทธิพลหัวเราะ วางโทรศัพท์ลงเลิกสนใจเบอร์โทรผู้หญิงขายบริการคนนั้น ใบหน้าเจ้าหล่อนรบกวนสมาธิเขาตั้งแต่กลับมาบ้าน คอยวนเวียนในหัวตลอด เขาขยับเข้ามากอดลูกชายวางมือลูบศีรษะเบาๆ กล่อมตัวแสบให้เคลิ้มหลับ สายตาอิทธิพลอ่อนโยนมากเวลามองลูกชายเพียงคนเดียว แม้จะเจ็บปวดเวลาจ้องนานๆ แล้วเห็นภาพลมหายใจเฮือกสุดท้ายของพราวฟ้าซ้อนขึ้นมา
“นะครับพ่อ เจ้าคุณอยากฟังจะได้นอนหลับฝันดี”
มือเล็กดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงบนอก จ้องมองพ่ออิฐตาแป๋ว
“โอเค ได้เลย”
เมื่อลูกยืนกรานอย่างนั้นอิทธิพลก็เริ่มต้นเล่าเรื่องราวให้ฟังอีกครั้ง “พ่อกับแม่พราวเจอกันสมัยเรียนที่กรุงเทพ แม่พราวสวยมากเลยนะมีหนุ่มๆ มาจีบเยอะ แต่แม่พราวก็ไม่ได้สนใจใครสักคนรวมถึงพ่อ หลังพ่อเรียนจบก็ต้องกลับมาช่วยคุณย่าทำงานที่นี่ ส่วนแม่พราวไปฝึกสอนที่โรงเรียนทางภาคเหนือ เจ้าคุณรู้ไหมว่าภาคเหนืออยู่ไกลมากเลยนะ”
“ลุงต๊ะบอกว่าภาคเหนือไกลหลายร้อยกิโลใช่ไหมฮะ”
“ใช่ ไกลมากๆ พ่อไม่ได้คุยกับแม่พราวตั้งเกือบสามปี ถอดใจแล้วว่ายังไงก็ไม่ได้เจอกันอีก อยู่มาวันหนึ่งแม่พราวโทรเข้าเบอร์สำนักงานสวนยางของเรา บอกว่ากำลังจะย้ายมาสอนโรงเรียนแถวนี้ ก็เลยรบกวนพ่อให้ช่วยพาไปหาหอพัก พ่อตื่นเต้นมากเลยนะ ตอบกลับว่าตกลงให้รีบมาได้เลย แล้วประมาณหนึ่งอาทิตย์ต่อมา แม่พราวก็มาที่จังหวัดของเราจริงๆ เราได้เจอกันในรอบสามปี พ่อรับแม่พราวมาเที่ยวสวนยาง แล้วก็คอยดูแลช่วงแม่พราวเริ่มทำงานแรกๆ เราเจอกันบ่อยขึ้นคุยกันมากขึ้น ในที่สุดแม่พราวก็ยอมคบกับพ่อ”
สอดกายลงใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับลูกชาย เล่าต่อ “คบกันได้แค่ห้าเดือนพ่อก็ใจร้อนขอแม่พราวแต่งงาน เจ้าคุณรู้ไหม แม่พราวดีใจจนร้องไห้เลยนะ แม่สารภาพว่าแอบชอบพ่อตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แต่ไม่กล้าบอก”
“ทำไมถึงไม่กล้าบอกล่ะฮะ” แววตาเด็กชายค่อนข้างง่วงซึม
อิทธิพลยิ้ม ลูบศีรษะกล่อมลูกชายให้เคลิ้มหลับ
“ผู้หญิงไม่ค่อยบอกรักผู้ชายก่อนหรอกนะลูก ส่วนใหญ่ก็มีแต่ผู้ชายอย่างเรานี่แหละที่ต้องบอกรักก่อน หลังจากแต่งงานกัน แม่พราวก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้กับพ่อสองคนอย่างมีความสุข…”
ส่วนเรื่องหลังจากนั้นไว้รอเจ้าคุณโตมากกว่านี้ก่อนจึงจะเล่าให้ฟัง หรือไม่ก็อาจจะไม่เล่าให้ฟังเลย อิทธิพลลูบศีรษะตัวแสบเมื่อกล่อมยังไงก็ไม่ยอมหลับยอมนอนสักทียังมองตาใส
“แล้วหลังจากนั้นแม่พราวก็มีเจ้าคุณใช่ไหมฮะ” เสียงใสถามเจื้อยแจ้ว มีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟังเรื่องราวความรักระหว่างพ่อกับแม่
“เจ้าคุณรักพ่ออิฐกับแม่พราวมากที่สุดในโลกเลย”
เด็กหนอเด็ก ซื่อ ใส ไร้เดียงสา
อิทธิพลใช้มือใหญ่ลูบหน้าเจ้าคุณเบาๆ
“ทำเป็นพูดดีบอกรักพ่อแม่ ตอนหัวค่ำกลับยุพ่อให้ชวนน้าวิมาอยู่ด้วย เจ้าคุณไม่กลัวแม่พราวโกรธเหรอ”
“กลัวฮะ เจ้าคุณรักแม่พราว แล้วก็รักน้าวิด้วยนะฮะ เพราะแม่พราวกับน้าวิรักคุณพ่อมากๆ” ตาหนูยิ้มกว้างอวดฟันขาวสะอาดเรียงสวย
“พอเถอะ นอนได้แล้วลูก พ่อรักเจ้าคุณนะ”
“ผมก็รักพ่อนะฮะ”
เด็กชายหลับตายามบิดาจูบกลางหน้าผากเพื่อบอกฝันดี หลับตานอนอย่างมีความสุขไม่นานก็เคลิ้มหลับไปจริงๆ
เมื่อลูกหลับอิทธิพลคลายอ้อมกอดจัดแจงท่าทางให้ลูกนอนสบายมากที่สุด เขาฉุกคิดได้ว่าลูกจะไม่อยู่บ้านหลายวัน เงามืดด้านในตัวกระตุ้นให้ทำอะไรบางอย่างเหมือนที่ชอบทำเวลาลูกไม่อยู่บ้าน อิทธิพลเป็นคนจัดจ้านเรื่องอย่างว่าและคนรอบกายเขาก็รู้ดี จิตใจเขาฟุ้งซ่านไปหมด เร่งต่อสายตรงหาผู้หญิงคนนั้น
อดทนรอคอยหลายวินาทีจึงมีเสียงตอบรับง่วงๆ กลับมา ‘ฮัลโล!’
“ขอโทษที่รบกวนเวลาพักผ่อนนะครับ ผมเป็นลูกค้า อยากจะขอซื้อบริการคุณนีย์ ไม่ทราบว่า… สนใจขายเป็นรายเดือนไหมครับ”
.............................
ติดตามต่อในตอนที่ 2