บรรยากาศในร้านอาหารสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาค่อนข้างดี เพลงเพราะ วิวสวย อาหารรสชาติอร่อย และที่พิเศษมากกว่านั้นก็คงเป็นหญิงสาวรุ่นลูกที่ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเย็นด้วยในค่ำคืนนี้ เจ้าสัวดนัยอายุหกสิบห้าปี เป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่างมีฐานะร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ท่านแวะไปทำธุระกับนีรนุช อดีตเด็กสาวที่ท่านเคยเลี้ยงดูปูเสื่อช่วงหนึ่ง บังเอิญถูกใจหน้าใสๆ ของพนักงานฟร้อนที่ชื่อ ปราณี จึงติดต่อผ่านทางนีรนุชให้หญิงสาวแสนสวยคนนี้มากินข้าวกับท่านสัปดาห์ละครั้ง แลกกับเงิน กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลงด้วยกันมาหลายเดือน เสนอเงิน คอนโด รถให้หลายอย่างปราณีก็ไม่ยอมให้ท่านเลี้ยงสักที
เจ้าสัวถูกใจเด็กคนนี้ แรกๆ คือความใคร่ความอยากได้ แต่พักหลังมานี้ท่านกลับเอ็นดูในความน่ารักและความกตัญญู ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย
“ทำไมล่ะหนูนีย์ ฉันทำอะไรให้หนูไม่พอใจหรือเปล่า”
แก้วไวน์ในมือท่านแทบกระฉ่อน เมื่อหญิงสาวรุ่นลูกเอ่ยตัดความสัมพันธ์ว่าจะไม่มากินข้าวกับท่านอีก ท่านไม่เชิงไม่พอใจ โกรธหรืออารมณ์เสียเพราะน้ำเสียงที่ปราณีใช้เจรจานั้นน่าฟังเหลือเกิน หวาน นุ่ม สุขุม ตามฉบับคนวางตัวดี
“ลักษณะงานของนีย์ไม่ต่างจากสาวขายบริการเลยค่ะ นีย์ตระหนักได้นานแล้วแต่เพราะต้องการเงินจึงต้องรับ แต่ตอนนี้นีย์พอมีเก็บบ้างแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะความเมตตาของท่านที่จ้างนีย์”
“ใครจะคิดยังไงก็ช่างเขาสิ ฉันรู้ว่าหนูนิสัยยังไง เรื่องที่นายคนนั้นทำไม่ดีฉันช่วยหนูได้นะ” ท่านหมายถึงศรันย์ ชายที่ครั้งหนึ่งปราณีเคยบอกว่าต้องหมั้นหมายด้วย เสนอไปแล้วเด็กสาวกลับยิ้มและส่ายหน้าปฏิเสธ “หรือเมียฉันไปด่าหนูอีก?” ยังตั้งข้อสันนิษฐานต่อ พูดถึงเมียที่บ้านเสียงท่านดังขึ้นเยอะเลย คราวก่อนเด็กสาวถูกภรรยาตามไปด่าจิกหัวตบถึงโฮสเทล บอกหลายครั้งแล้วว่ากับปราณีไม่ได้เลี้ยง ไม่ได้มีสัมพันธ์กัน แต่พูดไปก็เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา
“ไม่ใช่ค่ะ คุณนายท่านไม่ได้แวะมาหานีย์นานแล้ว”
“เอาเถอะ ฉันเข้าใจว่าหนูมีเหตุผล แต่ถ้าวันไหนเดือดร้อนเงินขึ้นมาเข้ามาหาฉันได้นะ ฉันยินดีช่วย ตกงานก็มาทำกับฉันก็ได้ ตำแหน่งเยอะ”
แค่ทุกวันนี้ปราณีทำงานกับนีรนุชท่านก็อดคิดมากตามไม่ได้ ในวงการใต้ดินรู้ดีทั้งนั้นว่านีรนุชเคยขายบริการช่วงสมัยเรียนปริญญาตรี ทุกวันนี้เลิกแล้วและเปลี่ยนมาเป็นแม่เล้าแทน คอยส่งเด็กสาวๆ ไปให้เสี่ยและหักเปอร์เซ็น ท่านกลัวว่าวันใดวันหนึ่งร้อนเงินมา นีรนุชจะขายเด็กคนนี้
ท่านเจ้าสัวมองตาเดียวก็รู้ว่าปราณีไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังในเรื่องนี้ ไอ้โฮลเทลเล็กๆ นั่นแค่เปิดบังตาเท่านั้น ลูกค้าน้อยเข้าทุกวันอีกหน่อยคงเจ๊ง
“ขอบพระคุณมากนะคะ นีย์จะไม่มีวันลืมบุญคุณของเจ้าสัวค่ะ” หญิงสาวพนมมือไหว้ด้วยกิริยามารยาทที่เรียบร้อย มองท่านด้วยใจที่เคารพ
ท่านเจ้าสัวดนัยแม้จะเสียดายแต่ก็ไม่ได้ยื้ออะไร ยังไงก็โตๆ กันแล้ว ก่อนที่ปราณีจะกล้านำมาพูดก็คงจะผ่านการคิด วิเคราะห์ผลดีผลเสียมาบ้างแล้ว “ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันคงไม่ได้กินข้าวกับหนูอีกนานเลย อยากสั่งอะไรเพิ่มไหม เต็มที่เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอกฉันชอบเวลาเห็นหนูมีความสุข”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่ที่ท่านเจ้าสัวสั่งมานีย์ก็กินไม่หมดแล้วค่ะ”
ดูสิ ไม่ทำอะไรเกินตัว เกรงใจผู้ใหญ่ พูดจาเพราะพริ้งหวานหู น่ารักขนาดนี้แล้วจะไม่ให้ท่านเอ็นดูได้ยังไง เจ้าสัวยิ้มแล้วตักอาหารบริการ
ทั้งสองรับประทานอาหารและคุยกันเรื่องทั่วไป มองวิวแม่น้ำเจ้าพระยากับสัมผัสลมเย็นๆ ไปด้วย อาหารมื้อนี้อร่อยไม่แพ้มื้อก่อนหน้านี้เลย กว่าลูกน้องของท่านจะขับรถพาหญิงสาวกลับมาส่งที่หอพัก ก็ราวๆ สี่ทุ่มเศษ “ฉันยังใช้เบอร์เดิมนะ” ชายสูงวัยบอกขณะที่หญิงสาวลงจากรถ
“ค่ะ ขอบพระคุณมากนะคะที่มาส่ง” ปราณีพนมมือไหว้ ไม่มีวันไหนที่สบายใจเท่านี้อีกแล้ว จบกันสักที อาชีพเพื่อนเที่ยวเพื่อนกินที่ทำมาเกือบปี
คล้อยหลังรถโตโยต้าอัลพาร์ดของท่านเจ้าสัวเคลื่อนตัวออกไปนอกถนน ประตูรถมินิคูเปอร์คันเล็กก็ถูกเปิดออกมาตามด้วยร่างอรชรของนีรนุช สาวสวยลุคนางมารร้ายสวมเดรสตัวบาง แต่งหน้าสวย แทบจะมองไม่ออกว่าอายุปีนี้ย่างยี่สิบแปด หากให้เดาหลายคนก็คงเดาผิดว่ายังเป็นนักศึกษา
“ทำไมวันนี้ถึงกลับช้านัก ไปกินข้าวกันแถวนครปฐมหรือไง”
“คุณนุชมีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมไม่โทรมาบอกก่อนว่าจะเข้ามา” เอ่ยถามหลังหายตกใจ ไม่คิดว่านีรนุชจะมาปรากฏตัวหน้าหอพักของตน
“ถ้าธุระไม่สำคัญฉันจะถ่อมาถึงที่นี่ไหม!”
นีรนุชมีน้ำเสียงที่ค่อนข้างห้วนจัด ตวาดใส่ คนฟังคาดเดาไปเองว่าเจ้าตัวคงจะยังอารมณ์เสียไม่หายที่แฟนนอกใจไปมีอะไรกับเด็กนักศึกษา
“ค่ะ แล้วคุณนุชมีธุระอะไรกับนีย์เหรอคะ”
สาวสวยจิกสายตามองลูกติดของอดีตสามีเก่าแม่แล้วรำคาญตา หยิบเงินจากกระเป๋าส่งให้มันเป็นจำนวนสามพัน
“รายได้ก้อนสุดท้ายของแก เสี่ยดนัยโทรมาบอกฉันหมดแล้ว แกนี่มันโง่จริงๆ ที่ปฏิเสธคนรวยแบบเจ้าสัว!”
อารมณ์เสียมาก นี่ถ้าหากชักหน้าไม่ถึงหลังเรื่องเงินแล้วมาขอหยิบยืมหล่อนกับแม่อีกจะตบเข้าให้ ลำพังโฮสเทลทุกวันนี้จะเจ๊งแหล่มิเจ๊งแหล่อยู่แล้ว สู้ทำธุรกิจขายเนื้อสดก็ไม่ได้ ง่ายๆ แค่ส่งสาวๆ ไปบริการเสี่ยกระเป๋าหนัก แล้วรอหักเงินค่าตัวสามสิบเปอร์เซ็นสำหรับเด็กในสังกัดคนอื่น แต่กับปราณี นีรนุชหักสูงถึงห้าสิบเปอร์เซ็น เจ้าสัวดนัยให้เงินมันหกพันต่อการไปกินข้าวหนึ่งครั้ง ถือว่าจ่ายเยอะมาก เมื่อจะขาดรายได้ตรงจุดนี้จึงทำให้นีรนุชโมโห
“อย่าคิดว่าฉันแคร์แกนะนังนีย์! จะบอกไว้เลยว่าฉันมีเด็กสาวๆ สวยๆ ในลิสตั้งเยอะ แต่ละคนระดับดาวมหา’ลัย เป็นพริตตี้ เน็ตไอดอล ฉันให้พวกนั้นมารับงานแทนแกก็ได้!”
เจ้าหล่อนโกรธจึงจิ้มนิ้วบนหน้าผากนวลแรงๆ ใจจริงอยากด่า อยากตบให้หนักมือกว่านี้ ถ้าหากไม่ติดว่ามันยังพอมีประโยชน์
“รับไปสิ ฉันไม่ว่าหรอกนะถ้าแกจะไม่อยากไปกับเสี่ยแก่ๆ” ยื่นเงินจำนวนสามพันไปให้อีกครั้ง ปราณีถึงกล้ายกมือไหว้และรับเงินไปเก็บไว้
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยเรื่องเงินนีย์มาตลอด นีย์พอจะมีเงินเก็บไว้รักษาแม่แล้วค่ะ จะเหลือแค่… หนี้ที่ติดค้างคุณนุชกับคุณนัน”
ยอดเงินน่าจะทะลุหนึ่งแสนจดไว้ในสมุดไม่ได้เปิดดูนานแล้ว หยิบยืมบ่อยในช่วงหลังจากบิดาเสียชีวิต สองแม่ลูกก็ใจดีให้ยืมตลอด
“แกติดหนี้ฉันหนึ่งแสนสองหมื่นบาท ไม่รวมดอกเบี้ยที่เยอะขึ้นทุกวัน” ยักไหล่ใส่ ไม่แคร์ ก็มันไม่ยอมหาเงินมาจ่ายหนี้เองนี่นาจะให้ทำไง
“คุณนุชหักจากเงินเดือนของนีย์เหมือนเดิมนะคะ”
“เรื่องนั้นฉันรู้อยู่แล้วแกไม่ต้องมาสอน อ้อ จริงสิ! เอาอย่างนี้นะ มีข้อเสนอใหม่ ไม่จำเป็นต้องไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลงกับเสี่ยแก่ๆ แล้ว ฉันมีงานอื่นให้แกทำ แล้วแต่ว่าแกจะสนใจหรือเปล่า” รอยยิ้มนีรนุชมีเลศนัย
“งานอะไรเหรอคะ” ปราณีเองก็ใช่ว่าจะไว้ใจ