ตอนที่ 9
ปีสุดท้ายของการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย แต่การเรียนของเอมิกาก็เกือบจะสะดุดหลังจากที่แม่เธอล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็ง ตุลธรลอบถอนใจเฮือกใหญ่ หลังจากมองชุดนักศึกษาที่เธอใส่ กระดุมเม็ดที่สองตึงเปรี๊ยะจนสองเต้าด้านในแทบจะกระเด็นหลุดออกมา
“ลงทุนมาดักรอฉันถึงที่นี่ คงกลัวว่าฉันจะหนีใช่มั้ยคะ” เธอเอ่ยถามด้วยสายตาเยาะหยัน และเมื่อคืนถ้าเธอไม่ใช้มารยาเข้าช่วยก็คงจะเสร็จเขาไปแล้ว
เอมิกาชาวาบไปทั้งตัวและหัวใจเมื่อเห็นสายตาของเขา ใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วและแรง หล่อนประหม่าเมื่อเห็นสายตาของเขาที่จ้องมองเรือนร่างของเธอ หญิงสาวนึกภาพประกายความดุในดวงตาคมของอีกฝ่ายได้ เมื่อคืนเธอเกือบไม่รอดจากความบ้ากามของเขาเสียแล้ว
“ถ้าเธอคิดว่าเงิน 25 ล้าน มันมากพอเธอจะไม่พูดกับฉันแบบนี้” เขาเอ่ยขึ้นมาถึงกับทำให้เอมิกาไปไม่เป็น เพราะจริง ๆ วันนี้ตุลธรนัดเอาไว้ว่าหกโมงเย็นเขาถึงจะมารับเธอไปฟังพระสวด แต่นี่แค่บ่ายสามโมงกว่า ๆ เขาก็มาดักรอเธอเสียแล้ว แต่นั่นเป็นเพราะตุลธรไม่ไว้ใจเพื่อนผู้ชายของเธอคนเมื่อวานนี้ เขาเป็นผู้ชายและพอจะมองออกว่าเพื่อนของเธอที่ชื่อณพวุฒิ คิดอย่างไรกับเอมิกา เพราะเธอนั้นช่างยั่วยวนและน่าครอบครอง มีเหรอว่าผู้ชายจะไม่คิดอะไร ต่อให้เป็นเพื่อนก็เถอะ
“คุณมานานแล้วเหรอคะ..” เอมิกาชวนเปลี่ยนเรื่องคุย ริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อ ขยับถามคนที่กำลังทำหน้าบึ้งตึงใส่เธออยู่ และเดาว่าคงจะไม่พอใจที่ถูกถามไปแบบนั้น
“สักพักหนึ่งแล้ว” ดวงตาคมตวัดมองเรือนร่างทรวดทรงเซ็กซี่ในชุดกระโปรงนักศึกษารัดรูปผ่าข้างขึ้นไปจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน
เอมิกาขยับหนังสือขึ้นแนบอก เพราะไม่อยากให้ดวงตาคมจ้องมองก่อนจะพลางสะบัดผมเนียนนุ่มราวเส้นไหมข้ามบ่าไป
“ส่งหนังสือมา ฉันจะถือให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอรีบเอ่ยกับเขาเมื่อรู้ว่าเขากำลังสำรวจเรือนร่างของเธออยู่